การคิดอย่างสร้างสรรค์ (Creativity) และคิดแบบเป็นเจ้าของ (Entrepreneur) ทำให้เราเติบโตได้เร็วกว่าคนอื่น และในยุคที่หลายคนต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เราจึงต้องพยายามมองหาสิ่งใหม่เพื่อสร้างความแตกต่างจากธุรกิจเดิมที่มีอยู่ในตลาด ที่สำคัญคือ “ถ้าเมื่อไหร่เราเริ่มเปิดใจรับฟังสิ่งรอบข้าง เสียงของคนรอบข้าง จะทำให้โลกของเรากว้างขึ้น และธุรกิจของเราก็จะไปได้ไกลมากยิ่งขึ้นด้วย” นี่คือหนึ่งแนวคิดในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตของศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ
เราจะพาไปพูดคุยกับ พี่เบล-อภิสิทธิ์ ปวุติภัทรพงศ์ (คนซ้าย) ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ และพี่ฟิล์ม-นิศารัตน์ ธนีสุวิพัฒน์ (คนขวา) ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว Partner ทางธุรกิจเจ้าของแบรนด์ The I-coco
มาติดตามกันว่าเรื่องราวของพี่ทั้งสองที่เริ่มต้นทำตาม Passion ปั้นธุรกิจของตนเอง พวกเขาจะต้องเรียนรู้และฟันฝ่าอุปสรรคอะไรกันบ้าง กว่าจะทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จัก
ทำความรู้จักกับ The I-coco
พี่ฟิล์ม-นิศารัตน์ แนะนำให้เรารู้จักกับแบรนด์ The I-coco ว่า ธุรกิจตัวนี้ เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับน้ำมะพร้าวน้ำหอมฟิวชั่น โดยจะนำน้ำมะพร้าวน้ำหอมที่เป็นส่วนผสมหลัก มาผสมกับหลายรสชาติให้เกิดเมนูใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเมนูชานมมะพร้าวน้ำหอม หรือว่ากาแฟดำมะพร้าวน้ำหอม และก็มีเมนู Signature คือโกโก้เหนียวมะพร้าว และมะพร้าวเผือกหนืด
The I-coco ไม่ใช่แบรนด์แรกในการเริ่มต้นทำธุรกิจ พี่เบล-อภิสิทธิ์ บอกกับเราว่าก่อนหน้านี้ก็เคยขายขนมจีนมาด้วยกัน พี่ฟิล์ม จึงเสริมว่า มีทั้งธุรกิจเกี่ยวกับซาซิมิแซลมอนและธุรกิจยำขนมจีนก่อนหน้านี้ พี่เบลก็มีแพลนไปเรียนต่อต่างประเทศด้วย ส่วนตัวพี่ฟิล์มเองก็เป็นทั้งนักร้องและก็ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ
จุดเริ่มต้นจากการมองหาความมั่นคง
เมื่อเราถามถึงที่มาของธุรกิจนี้ จึงได้คำตอบจากพี่ฟิล์มว่า เป็นในเรื่องของที่ว่าพอเราเรียนจบเราก็จะมองหาความมั่นคง ทั้งด้านการงาน การเงิน เวลา และก็ส่วนตัวพี่ทั้งสองคนก็มองความมั่นคงทางด้านครอบครัวด้วย เราก็เลยเลือกที่จะทำธุรกิจ และการทำธุรกิจยังได้เป็นเจ้านายของตัวเอง เรียนรู้และบริหารกิจการด้วยตนเองอีกด้วย
ขณะที่พี่เบลพูดเสริมอีกว่า เรามองเห็นโอกาสทางธุรกิจ เพราะว่าที่บ้านทำน้ำมะพร้าวส่งออกอยู่แล้ว และเห็นว่าทำไมคนไทยไม่ค่อยได้กินน้ำมะพร้าวที่มีคุณภาพ ก็เลยเกิดปิ๊งไอเดีย สร้างแบรนด์ the I-coco เราต้องการให้ทุกคนได้ลองกินน้ำมะพร้าวที่มีคุณภาพ
พัฒนากว่าจะเป็นน้ำมะพร้าวฟิวชั่น
เราถามต่อถึงขั้นตอนการพัฒนากว่าจะมาเป็นธุรกิจที่เห็นในทุกวันนี้ต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง จึงได้คำตอบจากพี่เบลว่า การพัฒนาธุรกิจมีสองส่วนคือการพัฒนาตนเอง และการพัฒนาตัวธุรกิจไปพร้อมกัน
ถ้าพัฒนาตัวเอง ก็พัฒนาในเรื่องของการมองต่อธุรกิจ วิสัยทัศน์ หรือว่า ทัศนคติ รวมถึงกำลังใจ หากเราไม่มี Vision หรือ Mission เราจะไม่สามารถทำธุรกิจได้ เพราะเราจะไม่เห็นมุมมองต่อธุรกิจที่ทำ ส่วนในเรื่องของธุรกิจ เราจะพัฒนาในเรื่องของ Product รสชาติของน้ำมะพร้าว หรือว่า รูปแบบร้าน แล้วก็ Packaging ที่เราพัฒนากันมา
พี่ฟิล์มก็ได้พูดถึงในมุมมองของตัวเองว่า ที่ต้องใช้การพัฒนาค่อนข้างมาก เพราะว่าธุรกิจแต่ละธุรกิจ จะมีรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน อย่างธุรกิจของเราเองก็เช่นกัน พี่ฟิล์มเป็นคนที่ถนัดด้านการสื่อสาร แต่พอเข้ามาอยู่ในการทำงานเกี่ยวกับธุรกิจส่วนตัว แม้แต่สิ่งที่เราถนัดเราก็ยังต้องปรับตัว อย่างเช่นในเรื่องของการตลาดเองหรือมุมมองต่อปัจจัยแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง แต่ก่อนเราไม่ค่อยได้มองถึงความจำเป็น เช่น เราอาจจะมองแค่ว่าตกแต่งร้านให้สวยก็พอเดี๋ยวแบบลูกค้าก็เข้ามาเอง ในความเป็นจริงแล้ว ต้องมองถึงความจำเป็น มองถึงกลุ่มผู้บริโภคว่าว่าตอบโจทย์เขาไหม เขาชอบอะไรไม่ชอบอะไร ทำให้มุมมองเราค่อนข้างกว้างมากขึ้น
กระแสตอบรับจากลูกค้า
เปิดตัวทำธุรกิจมาได้สักพักแล้ว เราอดที่จะถามต่อไม่ได้ว่า แล้วมุมมองของลูกค้าที่ลองรับประทานเป็นอย่างไร กระแสตอบรับที่เปิดตัวมาถือว่าดีมาก แต่ว่าก็จะมีปัญหาอย่างหนึ่งก็คือคนไม่กล้าที่จะลองเพราะรู้สึกว่าน้ำมะพร้าวมันไปผสมกับรสชาตินี้ได้ด้วยหรือ น้ำมะพร้าวไม่ใช่แค่การทำในส่วนของขนมหวาน พวกขนมของไทยหรือแกงเท่านั้น น้ำมะพร้าวสามารถเป็นส่วนประกอบหลักในการทำอาหารได้เช่นเดียวกัน การคิดสร้างสรรค์ต่อยอดให้กับน้ำมะพร้าวจึงเกิดเป็นเมนูใหม่มากมาย
เมนูยอดฮิตของร้าน
ร้านมีเมนูที่รังสรรค์น้ำมะพร้าว เข้ากับวัตถุดิบหลากหลายรสชาติ เราจึงอยากรู้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่ชอบเมนูใดเป็นพิเศษ และมีเมนูใดที่น่าสนใจบ้าง จึงได้คำตอบจากพี่ ๆ ว่า ตัว signature ของทางร้าน เป็นมะพร้าวโกโก้เหนียวและมะพร้าวเผือกหนืด และที่สำคัญจะมีอีกตัวหนึ่งก็คือ ชานมมะพร้าวบราวชูก้า ตัวนี้ต้องแนะนำเพราะว่านอกจากที่เราจะใช้น้ำมะพร้าวเป็นส่วนผสมแล้ว ตัวชาเราจะไม่ชงกับน้ำเปล่าเพื่อให้กลิ่นของชาและก็ตัวของน้ำมะพร้าวอบอวลไปพร้อมกัน
อีกหนึ่งเมนูคือชาไข่มุก ตัวนมเหนียวที่ใช้เป็นส่วนผสมทางร้านเราจะเป็นสูตรเฉพาะตัวที่เราคิดขึ้นเอง ตัวนมเหนียวและโกโก้เหนียวจะมีความหอมของมะพร้าวมาก แล้วจะมีแครกเกอร์มะพร้าวโรยอีกทีเพื่อเพิ่ม texture การกินของน้ำมะพร้าว ฟังและได้เห็นภาพตามไปด้วย เราอยากลองชิมในทันที
นำทุกอย่างที่เรียนมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจ
ด้วยความที่พี่ทั้งสองเป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ เราจึงอยากให้พี่ทั้งสองพูดถึงการนำความรู้ที่ได้จากมหาวิทยาลัยมาใช้ในการทำธุรกิจ พี่ฟิล์มบอกกับเราว่า เราเรียนจบจากคณะมนุษศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว เอกภาษาอังกฤษ จะช่วยได้มากในเรื่องของการสื่อสาร อย่างแรกเป็นการเปิดตลาดไม่ใช่เพียงแค่คนไทย เราสามารถจะไปเปิดตลาดต่างประเทศได้ และปัจจุบันทางร้านก็ไม่ได้มีแค่ลูกค้าที่เป็นคนไทย ลูกค้าที่เป็นต่างชาติทั้งอเมริกา ออสเตรเลีย หรือว่าจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ก็ค่อนข้างเยอะ เรื่องของการสื่อสารและการใช้ภาษาเป็นสิ่งสำคัญมาก
พี่ฟิล์ม-นิศารัตน์ ธนีสุวิพัฒน์ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว
พี่เบล-อภิสิทธิ์ ปวุติภัทรพงศ์ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและบริหารกิจการ
ขณะที่พี่เบลที่จบมาตรงสายเป๊ะ ๆ จากคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการก็ได้บอกกับเราว่า การเรียนคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและบริหารกิจการ ได้องค์ความรู้การทำธุรกิจอย่างครบถ้วน และได้ทักษะในเรื่องของวิเคราะห์คู่แข่งหรือว่าหากลุ่มเป้าหมาย การพัฒนาสินค้า การสร้างแบรนด์ ได้ทักษะตรงนี้มาก็ช่วยในการสร้างแบรนด์
ธุรกิจกับคนใกล้ตัว
เรามักได้ยินเสมอว่า หากคิดจะทำธุรกิจ ให้เลี่ยงการทำกับเพื่อน แฟน หรือคนใกล้ตัว เรามาฟังความเห็นจากพี่ทั้งสองคนกันบ้าง ธุรกิจกับคนใกล้ตัวที่เรารู้กัน ดูเหมือนจะเป็นข้อห้าม ทำแล้วจะล่มเร็วไหม อย่าทำกับแฟนอย่าทำกับที่บ้าน แต่พี่ทั้งสองมองว่า เป็นการปรับตัว เพราะว่าไม่ว่าเราจะไปทำกับคนอื่น ทำกับคนที่ไม่รู้จัก แต่ถ้าเราไม่รู้จักปรับตัวมันก็จะยาก เราต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหากัน
ข้อดีกับการธุรกิจกับคนใกล้ตัวได้ในเรื่องของกำลังใจ เพราะว่าในการทำธุรกิจจะมีช่วงท้อหรือว่าเหนื่อย ไม่เอา ไม่ทำ แต่พอมีกำลังใจจากคนใกล้ตัว จะทำให้เราลุกขึ้น และอยากจะทำธุรกิจนั้นต่อไป อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องของความสัมพันธ์ ยิ่งเราทำธุรกิจด้วยกันมากเท่าไหร่หรือว่าความสัมพันธ์ของเราลึกซึ้งมากเท่าไหร่จะทำให้ปัญหาเกิดง่ายมาก ที่ควรจะทำมากที่สุดคือการพูดคุยถึงความชัดเจนในการทำธุรกิจ
เรียกได้ว่าการทำธุรกิจกับคนใกล้ตัวคนรู้ใจช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น และเราต้องพร้อมที่จะเรียนรู้กันในทุกวัน ปรับตัว เปิดใจ พูดคุยกันอยู่เสมอ
The I-coco ต้องโกอินเตอร์
เมื่อเราถามถึงความสำเร็จในปัจจุบัน พี่ฟิล์มได้บอกกับเราว่าตอนนี้ยังไม่ถือว่าประสบความสำเร็จ แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็เข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้มากขึ้นเรื่อย ๆ และพี่เบลก็ยังพูดถึงแผนที่จะพัฒนาธุรกิจในอนาคตคือจะขยายธุรกิจเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค แล้วก็ให้ประสบการณ์การดื่มน้ำมะพร้าวที่แปลกใหม่ และคุณมีภาพกับผู้บริโภค อีกอย่างหนึ่งคือจะรุกตลาดอาเซียนในช่วงแรกเริ่มในการออกต่างประเทศ และมีการวางแผนที่จะขยายทำเป็นแฟรนไชส์อีกด้วย
ถึงนักธุรกิจหน้าใหม่…จิตใจต้องมาก่อน
สุดท้ายเราให้พี่ ๆ ทั้งสองฝากถึงคนที่มีความฝันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ยังกลัวที่จะเริ่มต้นลงมือทำ พี่เบลบอกว่า ขอให้กำลังใจในอย่างแรกสำหรับคนที่คิดจะทำธุรกิจ แค่คุณคิดคุณก็เริ่มต้นแล้ว แค่คุณกล้าที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ ลงมือทำ แล้วเราจะรู้ถึงปัญหา พอเรารู้ถึงปัญหา เราแก้มันไปเรื่อย ๆ คุณจะประสบความสำเร็จกับเป้าหมายที่คุณตั้งเอาไว้
พี่ฟิล์มส่งรอยยิ้มมาก่อนตามมาด้วยคำอธิบาย ขอให้คนที่เริ่มทำธุรกิจกล้าที่จะก้าวออกมาจากคอมฟอร์ทโซนของตัวเอง อย่าคิดว่าสิ่งที่เราทำมันเป็นไปไม่ได้ ให้คิดว่ามันเป็นไปได้ ให้เรามั่นใจในสิ่งที่ทำ ต้องมั่นใจและก็เปิดใจ เปิดใจที่จะยอมรับในข้อติชมต่าง ๆ เพื่อที่เราจะเอาไปปรับตัว เพราะว่าการปิดหูปิดตาในการทำธุรกิจ มันเป็นการไม่เพียงแต่งมเข็มแต่เหมือนงมอะไรก็ไม่รู้ อาจจะไม่มีจุดหมายได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่เราเริ่มเปิดใจรับฟังสิ่งรอบข้าง เสียงของคนรอบข้าง จะทำให้โลกของเรากว้างขึ้น และธุรกิจของเราก็จะไปได้ไกลมากยิ่งขึ้นด้วย
มาถึงตรงนี้แล้วใครที่ยังไม่ได้ลิ้มลองรสชาติของน้ำมะพร้าวฟิวชั่นจาก The I-coco ก็สามารถสั่งผ่านช่องทางออนไลน์ได้โดยค้นหาด้วยคำว่า The I-coco ทั้ง Facebook Instagram และ Line @the_i_coco หรือใครที่อยากไปชมหน้าร้านสวย ๆ ร้านก็ตั้งอยู่ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) ศูนย์อาหาร U Square 2 อย่าลืมไปอุดหนุนพี่ทั้งสองด้วยกันน้า!