ชีวิตที่ก้าวเดินอย่างเชื่อมั่นของ พี่พอยท์-อิงครัต นักกีฬาฟันดาบ ม.กรุงเทพ

เรียนรู้ ฝึกฝน ทุ่มเทกับกีฬา ด้วยความตั้งใจ ความมุ่งมั่น ทำให้เราเดินทางไปถึงความฝั่งฝันได้

            เวลาเจอคนที่มากฝีมือ ประสบการณ์ล้นเหลือ แต่เราก็ต้องสู้ต่อไป เพราะถึงจะท้อ แต่ก็ใช่ว่าจะต้องถอย ความมุ่งมั่นในการเป็นนักกีฬาของ พี่พอยท์-อิงครัต บุญประคอง นักกีฬาฟันดาบ จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ฉายแววมาตั้งแต่สมัยมัธยม ด้วยพรสวรรค์และทักษะเป็นเลิศ บวกกับร่างกายที่เกิดมาเพื่อเป็นนักกีฬาเท่านั้นยังไม่พอ แต่ด้วยความมีระเบียบวินัย ขยันหมั่นเพียร ตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาศักยภาพอยู่เสมอ ทำให้พี่พอยท์ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักกีฬาฟันดาบของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

            การเป็นนักกีฬาควบคู่ไปกับการเรียนในคณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ (เน้นธุรกิจจีน) เป็นสิ่งที่ท้าทายเพียงใด เรามีโอกาสพูดคุยถึงเรื่องราวของการเป็นนักกีฬาฟันดาบ กีฬาที่เราอาจจะยังไม่ค่อยรู้จัก มาทำความรู้จักชีวิตของพี่พอยท์และกีฬาฟันดาบซึ่งเป็นความฝันของเขาพร้อมกัน

กีฬาฟันดาบกีฬาของสุภาพบุรุษ

            ถ้าเอ่ยถึง “กีฬาฟันดาบ” ภาพที่คุ้นเคยคือนักกีฬาฟันดาบจะต้องแต่งชุดสีขาว มีท่วงท่าและลีลาที่สง่างาม ตามประวัติความเป็นมากีฬาฟันดาบพัฒนามาจากการต่อสู้ในสมัยโบราณ ประเทศที่มีชื่อเสียงด้านกีฬาฟันดาบ ได้แก่ ฝรั่งเศส อิตาลี และโรมาเนีย

            กีฬาฟันดาบมีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่ เอเป้ (Epee) ฟอยล์ (Foil) และเซเบอร์ (Sabre) ทั้งสามแบบมีความแตกต่างกันที่ชนิดของดาบที่ใช้ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องก็แตกต่างกันเล็กน้อย ดาบฟอยล์ จะน้ำหนักเบาที่สุด คล่องตัว รองลงมาคือเซเบอร์ และเอเป้ พี่พอยท์บอกว่า ตัวเขานั้นเป็นนักกีฬาฟันดาบแบบฟอยล์ ที่เน้นการเคลื่อนไหวเข้าโจมตีคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็วและสง่างาม

            พี่พอยท์ เริ่มเล่นกีฬาฟันดาบ ช่วงมัธยมต้น ชั้นปีที่ 3 เพราะตัดสินใจเปลี่ยนกีฬาที่เล่น ตอนนั้นกำลังเล่นบาสเก็ตบอล แต่ก็รู้สึกว่าเราสู้เขาไม่ได้ และไม่ได้มีใจรักในการเล่นกีฬานั้นแล้ว บวกกับความเบื่อหน่ายที่มันทับถมและความกดดันที่มีมา จนวันหนึ่งคุณแม่ของพี่ไปเจอใบสมัครนักกีฬาฟันดาบ คุณแม่จึงอยากให้ไปลองเล่น ก็เลยไปลองเล่นดู เพราะคิดว่าไหน ๆ ก็ไม่ได้เล่นบาสแล้ว และอยากลองอะไรใหม่ ๆ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเล่นกีฬานี้ครั้งแรก นอกจากนั้น ก็มีแรงบันดาลใจมาจากการ์ตูน เป็นการ์ตูนเกี่ยวกับฟันดาบ แล้วคิดว่ามันดูเท่ห์ดีจึงอยากลองมาเล่นเอง และพยายามทำให้ตัวเองเก่งเหมือนในการ์ตูนด้วย

จากมือสมัครเล่นสู่นักกีฬาทุนมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

            พี่พอยท์ เล่าต่ออีกว่า ตอนที่เข้ามาเรียน ก็ไม่ได้คิดว่าจะยื่นขอทุน และไม่ได้มีความตั้งใจจะมาเล่นกีฬาที่มหาวิทยาลัย แต่มีรุ่นพี่ที่เป็นนักกีฬาฟันดาบ ชวนให้ไปช่วยซ้อม และได้ไปลงแข่งขันด้วย เพราะมีสมาชิกในทีมไม่เพียงพอ จึงได้เข้าไปอยู่ในทีมของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ อีกทั้งยังคิดว่าการได้เล่นกีฬาเป็นการออกกำลังกายไปในตัว ที่สำคัญคือ ได้มาเจอรุ่นพี่ เพื่อนใหม่ มันก็สนุก และทำอย่างจริงจัง จึงมาเป็นนักกีฬาฟันดาบให้กับมหาวิทยาลัย

มากสนามหลากประสบการณ์

            การเป็นนักกีฬา นอกจากการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอแล้ว สิ่งสำคัญคือการลงสนามหาประสบการณ์ใหม่ เรียนรู้จากคู่ต่อสู้ พี่พอยท์บอกถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาว่า ได้เข้าแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย และเข้าร่วมการแข่งขันของกองทัพบก ยศตำแหน่งได้เป็นทหารพราน นักกีฬาของทหารบกที่ 45 ซึ่งมีเพียงปีละครั้ง เข้าแข่งขันฟันดาบประเภทฟอยล์ และเพิ่งถอดยศเมื่อต้นปี 2563

            นอกจากนี้ ยังได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาฟันดาบที่จังหวัดภูเก็ต รุ่นเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย อายุไม่เกิน 18 ปี ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ใหญ่มาก มีนักกีฬาที่มีทักษะสูงเยอะมาก พี่ได้เพียงแค่เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย แต่ถึงอย่างนั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ เพราะว่าเราจะได้มีประสบการณ์ในการพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก

เรียนคือเรียน เล่นคือเล่น

            การเล่นกีฬาต้องฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ วิธีจัดการเวลาในการซ้อม พี่พอยท์ให้ข้อมูลว่า จะซ้อมช่วงเย็น 17.00-20.00 น. ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ จากนั้นเวลาที่เรามีงานเยอะ ๆ ก็จะถามเพื่อน หรือเคลียร์งานให้เสร็จก่อน จึงไปซ้อม เพราะคิดว่าถึงยังไงการเรียนก็สำคัญ จึงต้องเอาเรื่องเรียนไว้ก่อน แล้วค่อยจัดเวลามาซ้อมอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นการเรียนกับการเล่นกีฬาจึงทำควบคู่กันไป การเล่นกีฬาฝึกให้พี่พอยท์มีสมาธิและมีเป้าหมายในการทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

ความกดดันคือแรงผลักให้เราพัฒนาตนเอง

            นักกีฬาก็ต้องเจอกับความเหนื่อย ความท้อใจบ้าง พี่พอยท์อธิบายถึงวิธีรับมือกับเรื่องเหล่านี้ เรื่องที่ท้อใจมีอยู่แล้วในทุกกีฬา ของพี่จะท้อในเวลาหลังการแข่งเสร็จสิ้นและไม่ได้ตรงตามเป้าที่ตั้งเอาไว้ เพราะสู้ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ และพี่พอยท์ยืนยันหนักแน่นว่าเวลาเจอคนที่มากฝีมือ ประสบการณ์ล้นเหลือ แต่เราก็ต้องสู้ต่อไป เพราะถึงจะท้อ แต่ก็ใช่ว่าจะต้องถอย

            แม้ว่าจะเล่นกีฬานี้มานานกว่า 5 ปีแล้ว แต่เวลาที่ไปแข่งขันมันจะมีความกดดันอยู่เสมอ ที่มาจากรรมการใหม่ นักกีฬาใหม่หรือนักกีฬาเก่าที่เจอกันมาบ่อยครั้งแล้ว อาจจะทำให้เราแสดงฝีมือที่ฝึกซ้อมมาได้ไม่เต็มที่ เพราะฉะนั้นต้องเปลี่ยนความกดดันให้เป็นพลังใจในการพัฒนาตนเอง

กุญแจที่นำไปสู่ความสำเร็จ

            การสร้างแรงบันดาลใจเป็นกุญแจของความสำเร็จ พี่พอยท์เล่าถึงเคล็ดลับหรือวิธีที่ทำให้พัฒนาความสามารถของตัวเองได้ นั่นคือ ”การหาแรงบันดาลใจ” อย่างเช่นนักกีฬาที่เราชอบ ของพี่เองก็มีนักกีฬาฟันดาบในดวงใจ ชื่อ ยูกิ โอตะ เป็นนักกีฬาฟันดาบโอลิมปิกชาวญี่ปุ่น ประเภทฟอยล์ ซึ่งมีสไตล์การเล่นที่รวดเร็ว และมีท่าทางการเล่นที่สวยงาม จึงได้ยึดเขาเป็นไอดอลในการเล่นและฝึกซ้อมมาโดยตลอด

ฟ้ากำหนดหรือจะสู้คนลิขิต

            เราต้องสร้างวิสัยทัศน์ เพราะเมื่อเราเห็นภาพเหล่านั้น เราก็จะสามารถวาดมันออกมาได้ตามความต้องการของเรา อย่าไปฟังคนที่ดูถูกเรา มันเป็นสิ่งที่เราต้องดูด้วยตาของเราเอง เพราะไม่มีใครมากำหนดความล้มเหลว หรือความสำเร็จของคุณได้
            จงเชื่อมั่นในตัวเอง มุ่งไปอย่างมั่นใจในทิศทางของความฝันของคุณ ใช้ชีวิตอย่างที่คุณจินตนาการไว้ นี่คือคำกล่าวทิ้งท้ายของพี่พอยท์ นักกีฬาฟันดาบดาวรุ่งของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

            การเล่นกีฬาช่วยฝึกฝนเราให้เข้มแข็งขึ้นทางร่างกายและจิตใจ เราขอให้ทุกคนเล่นกีฬาด้วยความสุข ฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ และต้องเชื่อมั่นในตนเองว่าเราจะประสบความสำเร็จอย่างที่ฝันไว้

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก BU Sport for All ฝ่ายกิจการนักศึกษาและสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

Writer

เรียนคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวารสารศาสตร์ดิจิทัล ชอบอ่านนิยายญี่ปุ่นแนวสืบสวน ฆาตกรรม คำคมที่ชอบ “ปัญหาของวันพรุ่งนี้ ก็ให้ตัวฉันในวันพรุ่งนี้จัดการ” จาก Saitama - OnePunch-Man

Writer

เรียนคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวารสารศาสตร์ดิจิทัล ชอบดูภาพยนตร์ ฟังเพลง และเล่นดนตรี มีความใฝ่ฝันอยากเป็นผู้ประกาศข่าว