Director of Photography พี่แบค-จิราวัฒน์ นักสื่อสารด้วยภาพที่ทำทุกอย่างด้วยใจรัก

ชีวิตหลังเลนส์ของผู้กำกับภาพรุ่นใหม่ เด็กฟิล์ม ม.กรุงเทพ ที่ใช้ภาพสื่อความหมายของความรัก

          ความรักเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์ “เราจะทำอะไรให้มันออกมาดีได้ เราต้องรักในสิ่งนั้น” ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ พี่แบค-จิราวัฒน์ ศิริโรจน์รัชฎา รุ่นพี่คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่จะมาให้คำแนะนำและมาร่วมแชร์ประสบการณ์เส้นทางของการเป็น DP ย่อมาจากคำว่า Director of Photography ที่มีจุดเริ่มต้นและเรื่องราวน่าติดตามมากมาย

นิยามของ DP

          DP ย่อมาจาก Director of Photography แปลเป็นภาษาไทยคือผู้กำกับภาพ หรือ Cinematographer, Director of Photography เป็นการรวมกันระหว่างศิลปะและวิทยาศาสตร์ เพื่อบันทึกแสงลงบนเซ็นเซอร์รับภาพ หรือปฏิกิริยาเคมีบนเนื้อฟิล์ม อาจเข้าใจได้ว่าผู้กำกับภาพคือ การทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับกล้อง ทั้งการเคลื่อนกล้อง องค์ประกอบภาพที่เกิดขึ้น และแสงที่ถูกสร้างขึ้น

          พี่แบคได้ให้ความหมายนี้ หน้าที่ของผู้กำกับภาพก็คือเอาสิ่งที่อยู่ในหัวของผู้กำกับออกมาเป็นภาพ ออกมาเป็นสื่อต่าง ๆ ให้คนดูได้เห็น “มันมีคำอยู่คำหนึ่ง ที่เคยได้ยินมาแล้วเรารู้สึกว่า มันอธิบายคำว่าผู้กำกับภาพได้ชัดเจนมาก ก็คือสิ่งที่เราเห็นคือสิ่งที่คนดูจะได้เห็นเหมือนกัน ไม่ว่าผู้กำกับภาพจะเห็นอะไร หรือต้องการขายอะไรออกไป คนดูก็จะได้เห็นสิ่งเดียวกับที่ผู้กำกับภาพเห็นเช่นกัน”

แรงบันดาลใจก้าวเข้าสู่เส้นทางผู้กำกับภาพ

          แรงบันดาลใจหรือต้นแบบที่ทำให้เขาก้าวเข้าสู่เส้นทางของการเป็น DP “เรารู้สึกว่า เราแค่ชอบดูหนัง เราไม่ได้รู้ด้วยว่า แบบไหนคือถ่ายสวย ไม่สวย เช่น ซีรีส์เกาหลี มันสวยนะ ก็ดูแต่เนื้อเรื่อง แต่พอเข้ามาเรียนแล้วจริง ๆ ถึงรู้ว่าแบบไหนคือสวย หรือไม่สวย มีช่างภาพหลายคนที่เราชอบงานเขา เราชอบสไตล์งานเขา คือ พี่แฮม-ณัฐดนัย นาคสุวรรณ รู้สึกว่างานเขาค่อนข้างมีสไตล์ มี Character ชัดเจนมาก ๆ เรารู้สึกทำไมเขาถ่ายสวยจัง เวลางานเขาออกมา เขาคิดได้ยังไง ทำให้เรารู้สึกว่า การเป็นช่างภาพ การเป็น DP ต้องผ่านกระบวนการคิดพวกนี้มาแล้วว่า ถ่ายอะไร เพื่อที่จะเล่าเรื่องอะไร”

ปัญหาการทำงานในกองถ่าย

          ทุกคนคงจะสงสัยเหมือนเราว่าแล้วปัญหาการทำงานในกองถ่ายนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอะไร “แต่ละงานปัญหาไม่เหมือนกันเลยสักงาน ไม่ว่าจะเป็น Music video หรือว่าโฆษณา แม้แต่ตัวหนังสั้นธีสิสของเราเอง แต่มีปัญหาอยู่งานหนึ่งที่เรารู้สึกว่าเราจำขึ้นใจเลย”

          “มีอยู่งานหนึ่งที่เรารู้สึกว่าเราประมาท เราประมาทมาก ๆ เลย เพราะว่าเราไม่ได้ทำแค่ช่างภาพด้วย เราไปทำอีกตำแหน่งหนึ่งควบด้วย แล้วเป็นงานที่ใหญ่ด้วย เราก็เลยประมาทคือมีอุปกรณ์อยู่ชิ้นหนึ่งที่เราไม่เคยใช้แต่เราเคยเห็นคนอื่นใช้ และเราก็คิดว่ามันก็น่าจะง่ายเพราะว่ามันก็คนอื่นใช้ได้ทำไมเราจะใช้ไม่ได้ พอคิดแบบนั้นแล้วมาถึงวันถ่าย ผลก็คือ ตู้ม! พอมาถึงวันงานจริง ๆ เราไม่สามารถควบคุมอุปกรณ์ชิ้นนั้นได้เลย ค่อนข้างเหนือความคาดหมายของเรา”

          จากเหตุการณ์วันนั้นทำให้พี่แบคพัฒนาทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้รวดเร็วมากขึ้น “ตอนนั้นเราก็แก้ปัญหาโดยการใช้อุปกรณ์ชิ้นอื่นแทน ไม่ได้ใช้อุปกรณ์ชิ้นนั้น ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ซึ่งก็เป็นการแก้ปัญหาหน้างาน หลังจากงานนั้นเราก็จำเลยว่าเราจะไม่ประมาทอุปกรณ์หรืออะไรอย่างอื่นอีกแล้ว ถ้าสมมุติว่าเราไม่แม่น เราใช้ไม่เป็นหรือว่าเรายังไม่เซียน เราจะไปซ้อม หาเวลาไปซ้อม ซึ่งตาม Production House เขาให้ซ้อมอยู่แล้วเขาจะยินดีด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าเราใช้เป็นค่อนข้างลดการเสียเวลาในวันถ่ายได้เยอะ ทำให้เราจำขึ้นใจเลยในวันนั้น” นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เขาไม่เคยหยุดฝึกฝนการใช้อุปกรณ์

ความยากของการเป็น DP

          ตำแหน่งผู้กำกับภาพเต็มไปด้วยสิ่งที่ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา “ความยากของการเป็น DP คือเราจะทำยังไงให้ภาพของผู้กำกับที่อยู่ในหัวของเขาออกมาเป็นภาพให้คนดูถูกใจ ให้ลูกค้าถูกใจได้ มันเป็นความท้าทาย การเป็นผู้กำกับภาพคือการเปลี่ยนจากตัวหนังสือมาเป็นภาพเคลื่อนไหว การเป็นช่างภาพของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน มีแต่คำว่า Character ของใคร ถ่ายแบบใด แสงแบบไหน ไม่มีคำว่าสวยไม่สวย มันคือ Character ของเรา สวยในแบบของเรา สวยในแบบของเขา มันไม่มีคำว่ายากหรือง่าย มันมีแต่คำว่าทำยังไงให้ถูกใจมากกว่า ทั้งในแง่ของลูกค้า ทั้งในแง่ของคนดู”

มีผลงานจริงจังตั้งแต่สมัยเรียน

          ผลงานที่ชอบและรู้สึกผูกพัน “Signal สัญญาณรักสื่อหัวใจ เป็นตัวธีสิสของเราที่ทำตอนปี 4 หน้าที่ของเราก็เป็นช่างภาพหลัก แต่จริง ๆ ก็ทำหลายอย่าง ด้วยความที่เป็นฟีลทำกับเพื่อน ก็เลยผูกพัน เราก็ทำหลายอย่างอยู่เหมือนกัน ตั้งแต่พัฒนาบท มากับผู้กำกับ พัฒนาตัวละคร หา Location ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง นอกจากการเป็นช่างภาพแล้ว มันก็ได้เรียนรู้ว่าจะติดต่อประสานงานแต่ละคนอย่างไร นักแสดง จะติดต่อสถานที่อย่างไร ได้เลือกนักแสดงที่เราและผู้กำกับชอบ เราเลยรู้สึกว่างานนี้ ค่อนข้างได้ทำอะไรเยอะและเพราะมันเป็น Project ยาว ความยาว 30-40 นาที ทำให้เราอยู่กับงานนี้เกือบปี รู้สึกว่าค่อนข้างผูกพัน ”

กำกับมิวสิควิดีโอ BNK48 วงไอดอลที่โด่งดังที่สุด

          พี่แบคยังได้ร่วมงานในการทำ MV ของ BNK48 อีกด้วย โอกาสนี้มาถึงมือรุ่นพี่ของเราเพราะฝีมือและความไว้วางใจที่ได้รับการชักชวนจากอาจารย์ของมหาวิทยาลัย “เรื่องมีอยู่ว่าเนื่องจากงาน Project ที่เราทำ และในเวลาเดียวกันมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ก็ได้ทำความร่วมมือ (MOU) กับวง BNK48 โดยให้ทีมน้อง BNK48 ได้ทำงานเบื้องหลังบ้าง นี่เลยเป็นโอกาสให้เราได้ร่วมงานกับมืออาชีพ ก็ตื่นเต้นมาก เป็น Project ยาวประมาณ 4 เดือน การทำงานคือถ่ายเดือนละ 1 วัน แต่ถ่ายนาน 2 เดือน Pre-Production หนึ่งเดือน และ Post-Production หนึ่งเดือน ก็ค่อนข้างผูกพัน ก็เป็นงานหนักเหมือนกัน เพราะกดดันว่าต้องทำให้ออกมาดีที่สุด เพื่อไม่ให้น้อยหน้า MV ตัวอื่น ๆ ของ BNK48”

กองถ่ายในช่วง Covid-19

          Covid-19 ส่งผลกระทบถึงทุกงาน พี่แบคอธิบายการทำงานในช่วงนี้ให้ฟังว่า “ลด scale งาน จาก 50 คน เหลือแค่ 5 คน ตามนโยบาย Social Distancing ก็ต้องคิดว่า ทำอย่างไรให้ยังคงคุณภาพไว้ได้ คนน้อยลง แต่ละคนทำทุกอย่างช่วยกัน อย่างพอเราวางเฟรมเสร็จ อีกคนหนึ่ง ก็ช่วยดูเฟรม แล้วก็ไม่ได้มีจอใหญ่ให้ดูด้วย ก็ต้องมารุมดูกันในจอกล้องเล็ก ๆ ด้วยกัน” เขาบอกเราด้วยรอยยิ้ม

DP ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา

          เราสามารถเรียนรู้จากการทำงานได้ทุกงาน งาน DP ก็เช่นกัน พี่แบคบอกว่าจากงานนี้ สิ่งที่ได้เรียนรู้ คือการเตรียมตัวมาดี จะทำให้เราผิดพลาดน้อยที่สุด เพราะงานกองถ่ายนั้น เวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าเริ่มต้นสาย หรือผิดไปจากแผนมากเท่าไร ก็จะทำให้งานล่าช้าไปเท่านั้น ทุกอย่างกระทบกันหมด “จะมีคำหนึ่งที่ชอบ คือ เราจะทำอะไรให้ออกมาดีได้ เราต้องรักในสิ่ง ๆ นั้น รักในผลงาน เมื่อรักแล้วก็จะพยายามอย่างเต็มที่” เรื่องราวของพี่แบคทำให้เราเห็นว่าความรักคือแรงพลังอันใหญ่ พวกเราขอเป็นกำลังใจให้กับพี่แบคในการเดินทางในสายงานที่รักด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ พี่แบค-จิราวัฒน์ ศิริโรจน์รัชฎา รุ่นพี่คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

Writer

เด็กฟิล์มที่มีใจรักในการอ่าน การเขียน เคยผ่านการเขียนเรื่องสั้นและนิยายรักวัยรุ่น มีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นผู้กำกับและเขียนบทภาพยนตร์

Writer

สำหรับฉันการได้ทำสิ่งใหม่ ๆ ถือว่าเป็นการท้าทายตัวเองที่ดีที่สุด อย่าดูถูกความสามารถของตัวเอง หากยังไม่ได้ลองทำจริง

Writer

เราจะไม่รู้เลยว่าเราทำอะไรได้บ้าง ถ้าหากเราไม่ได้ลองทำ และเมื่อเรารู้ตัวแล้วว่าเราทำอะไรได้ดี นั่นจะกลายเป็นจุดแข็งที่มีแค่เราเท่านั้นที่สามารถทำได้

Photographer

ผมรักและหลงใหลในการถ่ายภาพ ชอบออกไปเที่ยวถ่ายภาพในที่ที่ไม่เคยไป มีทั้งไปคนเดียวและไปกับกลุ่มเพื่อน ชอบทำอะไรหลายอย่างเช่น ตัดต่อทำคลิป เล่นเกม และยังอยากทำสิ่งที่ไม่เคยทำอีกหลายอย่าง ถ้ามีโอกาสก็จะทำให้เต็มที่ตลอด

Photographer

เด็กฟิล์มที่ชอบถ่ายรูป เวลาได้ถ่ายรูปเหมือนโลกหยุดหมุน จะรู้สึกตื่นเต้นเวลาที่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ และจะมีความสุข ถ้างานที่ทำออกมาได้ด้วยดี

Photographer

เชื่อว่าการที่เรามีเป้าหมายจะทำให้เราได้ลองพยายามทำอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยทำ และเดินไปถึงฝัน แต่ระหว่างทางของเรานั้น คือการได้พบเจอสิ่งใหม่ ๆ

Photographer

ทุกคนก็ต้องมีความฝัน อยู่ที่ตัวเราว่าจะทำให้ถึงฝันนั้นหรือเปล่าและอย่าพูดว่าเราทำอะไรไม่เป็น (ไม่เก่ง) ถ้าเรายังไม่ลงมือทำมัน