Loy Krathong ลอยกระทง ลอยกะเธอ งานลอยกระทงสุดว้าวของชาวมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

รวมความสนุกคึกคักเกินต้าน! กับงานวันลอยกระทงของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

         ลอยกระทงกับใคร ก็ไม่เท่าลอยหัวใจไปกับเธอ! ถือได้ว่า เป็นการกลับมาจัดงานออนไซต์ที่อุ่นหนาฝาคั่งแบบสุด ๆ กับงาน Loy Krathong ลอยกะเธอ งานลอยกระทงประจำปี ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้เป็นแม่งานเปิดรั้วบ้านจัดกิจกรรม ขนทัพร้านค้า พร้อมโชว์ต่าง ๆ สุดอลังการ การประกวดนพมาศแบบใหม่ที่ยูนีคไม่เหมือนใคร ตบท้ายด้วยงานคอนเสิร์ตสุดมันส์ โดยทั้งหมดนี้ จัดขึ้นในวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ตั้งแต่เวลา 16:00-21:30 น. ณ บริเวณหน้าอาคาร A4 ยาวไปจนถึงลานร่วมมิตร ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ Main Campus

         งานวันลอยกระทงปีนี้ ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากเพื่อน ๆ นักศึกษาทั้งในและนอกรั้วมหาวิทยาลัย รวมถึงบุคคลภายนอกต่างพร้อมใจเดินทางมาสร้างสีสัน รับความสนุกคึกคัก และร่วมกันลอยกระทงบริเวณสระน้ำเรือนไทย ปล่อยทุกข์โศกให้ลอยไปกับสายน้ำ เป็นการขอขมาพระแม่คงคา บูชารอยพระพุทธบาท และเหล่าเทพเจ้าตามความเชื่อโบราณของชาวไทย และตามรอยประเพณีหน้าหนาวอันงดงามซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำ เมื่อถึงเวลาขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12

งานวันลอยกระทงแบบคาร์นิวัล ที่ใคร ๆ ก็ต้องร้องว้าว!

         Loy Krathong ลอยกะเธอ มาในธีมงานวัดแบบโมเดิร์นสุดต๊าช ได้ใจคนรุ่นใหม่ไปเต็ม ๆ โดย มาการิต้า-ณิชารีย์ สหัสสพาศน์ นายกสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้เล่าว่า ทางสโมสรนักศึกษา ต้องการจัดงานวันลอยกระทง ให้มีความสนุกสนาน ด้วยบรรยากาศงานวัดสมัยใหม่ ผสมกลิ่นอายของคาร์นิวัล มีการจัดสุ่มไฟประดับไว้อย่างสวยงามทั่วทั้งงานรับคืนเดือนเพ็ญ เป็นแลนด์มาร์กให้ผู้ร่วมงานได้ถ่ายรูปแชร์ลงโซเชียล ไม่ว่าจะรูปคู่หวาน ๆ เซลฟี่คนเดียวแบบคูล ๆ หรือถ่ายหมู่ฮา ๆ กับแก๊งเพื่อนก็ดูดีไม่แพ้กัน มีการรวมบูธร้านอาหารทั้งคาวหวาน และบูธขายของจากนักศึกษาและบุคคลภายนอกมากกว่า 60 ร้านค้า มีโซนเล่นเกมและกิจกรรมต่าง ๆ ให้ร่วมสนุก พร้อมแจกของรางวัลให้กับผู้ที่สแกนแบบประเมินการเข้าร่วมงานกว่า 1000 ชิ้น! เรียกได้ว่า แค่ก้าวเท้าเข้ามาในงาน ก็ลุ้นรับของรางวัลกลับบ้านกันไปแบบฟรี ๆ กันเลย

ลิ้มรสอาหารแสนอร่อย พร้อมของที่ระลึกสุดน่ารักตลอดทาง

         เดินเข้างานมาไม่ทันไร ท้องเจ้ากรรมก็ร้องจ๊อก ๆ เสียแล้ว เพราะกลิ่นหอมชวนหิวเกินห้ามใจจากบูธอาหารของชมรมต่าง ๆ ร้านค้าจากตัวแทนคณะของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ รวมถึงร้านค้าของนักศึกษาที่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง ต่างก็นำสินค้าของดี เด็ด อร่อยมาขายภายในงานอย่างไม่มีใครยอมใคร เรียกลูกค้าเข้าร้านกันแบบสุดตัว! ไม่ว่าจะเป็นของคาวสุดคลาสสิกอย่าง ลูกชิ้นทอด ยำสุดแซ่บ ข้าวผัดกะเพราสูตรเด็ด สปาเกตตีรสกลมกล่อม หมูกระทะพี่บ่าวย่างให้ ส้มตำรสจัดจ้านถึงใจ ไปจนถึงของหวานอย่าง โดนัท ครอฟบราวน์ คุกกี๊หลากสีสัน ปังเย็น เฉาก๊วยนมสด ชานมไข่มุก ขนมกรุบกรอบ และเครื่องดื่มดับร้อนหลากหลายให้เลือกสรร เสริมทัพกองคาร์นิวัลให้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้นด้วยร้านค้าภายนอก ร้านขายตุ๊กตานุ่มนิ่มสุดคิ้วท์ ร้านสร้อยข้อมือหินมงคลและงาน DIY สุดน่ารัก หรือจะถ่ายรูปคู่กับหวานใจ แชะภาพปั๊วะปังกับแก๊งเพื่อนเก็บไว้เป็นความทรงจำ ภายในงานก็มีร้านโฟโต้บูธสุดเจ๋งให้บริการ รวมถึงร้านค้าอื่น ๆ อีกมากมายเรียงรายระหว่างทางมากกว่า 60 ร้าน ให้เราแวะชมแวะชอปกันอย่างเพลิดเพลิน ไม่มีเหงา ไม่มีอดแน่นอน ถือเป็นการเติมพลังก่อนไปตะลุยเล่นตามบูธกิจกรรม

ตื่นเต้นไปกับกิจกรรมฟิลเดินงานวัด แบบไม่ต้องยกมาทั้งวัด ก็สนุกเฮฮาได้เต็มที่

         กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เมื่อท้องอิ่ม ชาร์ตพลังมาเต็มร้อยแล้ว ก็มาลุยกันต่อกับบูธกิจกรรมที่มีให้เล่นหลากหลาย ใครชอบความแม่นยำ ก็มาท้าทายความสามารถกับกิจกรรมโยนห่วงและปาโป่ง ใครเป็นสายนั่งใช้ความคิดก็เล่นเกมบิงโก ใครชอบเสี่ยงดวงประจำปีว่าจะดีแค่ไหน เราก็มีกิจกรรมสอยดาวไว้ให้ลุ้นใจเต้นตึกตักรับของรางวัลกันไป ส่วนคนที่ชอบงานศิลปะ กิจกรรมระบายสีปูนปลาสเตอร์ก็ตอบโจทย์สุด ๆ นั่งชมบรรยากาศสบาย ๆ พร้อมระบายสีกันไปแบบชิล ๆ อีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมที่คนต่อแถวยาวเหยียด ตั้งแต่ช่วงเย็นยันมืดค่ำ เรียกได้ว่า นานแค่ไหนก็รอเล่นได้ คือบ้านผีสิงสุดหลอน THE HOUSE คฤหาสน์หลอนซ่อนผวา จัดโดยกลุ่มกิจกรรม BUMP หรือ Bangkok University Movie Production บริเวณหน้าตึกการบิน A5 ทีมงานเล่าว่า ปีนี้พวกเขามาใน Concept พจมานแห่งบ้านทรายทอง กลับมาล้างแค้นคนที่กดขี่ข่มเหงเธอ! ขอบอกเลย ทั้งหลอน มันส์ ฮา บันเทิงกันแบบจุใจ แถมบัตรราคาถูกมาก 25 บาทเท่านั้นเอง!

ตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดงอันเลอค่า งดงาม ตระการตาด้วยแสงสีเสียง

         นอกจากร้านค้าและบูธกิจกรรมแสนสนุกแล้ว ใจกลางของงาน ยังมีเวทีไว้ให้ผู้เข้าร่วมได้ชมการแสดงสุดวิจิตรจากชมรมของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่ตั้งใจฝึกซ้อม โชว์ความสามารถ เฉิดฉาย และเปล่งประกายกันอย่างเต็มที่

         เริ่มต้นด้วยการแสดงรำประทีปกรุงศรี อันอ่อนช้อยงดงาม จากชมรมดนตรีและนาฏศิลป์ไทย บอกเล่าเรื่องราวของบรรดาสาวงามสมัยกรุงศรีอยุธยาที่พากันแต่งองค์ทรงเครื่องเพื่อมาลอยประทีป หรือลอยกระทงในสมัยนั้น ด้วยท่วงท่าราวนางฟ้านางสวรรค์ลงมารำให้ชมเป็นขวัญตา พาผู้ชมย้อนเวลากลับไปยังสมัยกรุงศรีอยุธยาดั่งต้องมนตร์สะกด ตามมาด้วยการแสดงจินตลีลา “บุษบาเสี่ยงเทียน” ที่สวยงาม พริ้วไหว และความโรแมนติก จนไม่อาจละสายตาไปจากเวทีได้เลย

         ต่อมาเป็นการแสดงขับร้องประสานเสียงส่งตรงจาก ชมรมดนตรีสากลและขับร้องประสานเสียง ในบทเพลงหวานซึ้งอย่างออเจ้าเอย เพลงประกอบละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ผลงานขึ้นหิ้งในดวงใจของใครหลาย ๆ คน ถูกนำมาถ่ายทอด เรียบเรียง ประสานเสียงอย่างไพเราะ อบอุ่น ละเมียดละไม ชวนให้คนึงถึงบุคคลอันเป็นที่รัก ที่แม้ห่างกันเพียงไม่นาน ก็ไม่อาจทานทน ตามด้วยการแสดงของวงดนตรีลูกทุ่ง โชว์น้ำเสียงและการเล่นดนตรีสุดประทับใจ สร้างความสนุกครื้นเครงไปทั่วทั้งงาน

         มาถึงการแสดง Medley สุดเป๊ะปัง พร้อมเพียงมากถึงมากที่สุด สวย เท่ เก๋แบบตะโกน เรียกเสียงกรี๊ดตั้งแต่ต้นยันจบโชว์ ของ ผู้นำเชียร์แห่งมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี ตบท้ายด้วย การแสดงสุดเลิศ แรงดีไม่มีแผ่ว ของ กลุ่มกิจกรรม Creative Dance ที่ผสมทั้งเพลงไทย สากล และเกาหลีแบบแน่น ๆ สะบัดลวดลาย โยกไปทุกส่วน พาให้หัวใจเต้นรัว ด้วยท่วงท่าที่แข็งแรง เท่ สวย น่ารัก และเซ็กซี่ ปล่อยของจนหมดตัว ต้องยกย่องเลยว่า แก๊งนี้เขาเต้นลืมตายกันจริง ๆ

ลอยกระทง รักษ์ความเป็นไทย, BU สนับสนุนให้ทุกคน รักความเป็นเธอ

         อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ทุกคนตั้งตารอของงานลอยกระทงประจำปีนี้ก็คือ การประกวดนพมาศ BU ชิงสายสะพาย พร้อมเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 15,000 บาท โดยผู้ชนะจะได้เป็นทูตศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งปีนี้มีความพิเศษสุด ๆ เพราะเปิดรับทุกเพศ ทุกคณะ ทุกชั้นปี ไม่จำกัดอายุหรือสัญชาติ คัดเลือกและตัดสินจากความสามารถล้วน ๆ เน้นทักษะ แสดงศักยภาพ แสดงความเป็นตัวตน เผยเสน่ห์ในแบบของตัวเอง เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนเรื่อง Beauty Standard ความสวยไม่ควรถูกตีกรอบด้วยมาตรฐานใด รวมไปถึง Body Shaming ไม่ว่าเราจะมีรูปร่างแบบไหน ก็ไม่สามารถลดทอนคุณค่าของตัวเราได้ และที่สำคัญคือเรื่อง LGBTQ+ ความหลากหลายทางเพศ ที่โลกเปิดกว้างมากขึ้น และชาว BU ก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเรื่องความเท่าเทียมเช่นกัน เพราะทุกคนมีคุณค่า และความสวยงามในแบบของตัวเอง

         การประกวดนพมาศปีนี้จึงมีความยูนีคอย่างมาก ดั่งดอกไม้ผลิบานมีสีสันที่แตกต่างและงดงามเฉพาะตัว ส่งเข้าประกวดจากคณะและสาขาที่หลากหลาย เปล่งประกายด้วยความสามารถอันล้นเหลือ ผ่านการแสดงความสามารถของผู้เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย ทั้งระบำพัดสุดพริ้วไหวที่พาใจล่องลอย โชว์ร้องเพลงแสนไพเราะ โชว์ฟ้อนรำอันอ่อนช้อย โชว์ลิปซิงค์สุดครีเอทีฟ โชว์ระบำบาบ๋าพาราณากันที่หาดูได้ยากจากภาคใต้ของไทย การแสดงกึ่งละครเวทีเกี่ยวกับแม่นาคที่มาลอยกระทงรอคอยพ่อมาก  การแสดงเพนต์หน้าเพื่อร่วมเป็นกระบอกเสียงรณรงค์เรื่อง LGBTQ+, Body Shaming และ Beauty Standard รวมถึงการแสดงอื่น ๆ ที่ตาตรึงใจ เรียกเสียงปรบมือเกรียวกราวจากผู้ชมไปทั่วทั้งลาน

         ในรอบตอบคำถาม ผู้เข้าประกวดก็ใช้ไหวพริบ ตอบคำถามภายในเวลาอันจำกัดได้เป็นอย่างดี จนกรรมการต้องหนักใจไปตาม ๆ กัน และท้ายที่สุดก็ได้ผู้ชนะทั้ง 3 คน ได้แก่ หมายเลข 4 พันธวุฒิ แซ่เหวียง นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ คือผู้ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 2 ถัดมา หมายเลข 1 เอวิตรา จันดาวงค์ นักศึกษาคณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1

         ผู้ชนะเลิศการประกวดนพมาศประจำปี 2565 พร้อมได้รางวัลขวัญใจนักศึกษา BU ได้แก่ หมายเลข 7 ศิริพรรณ ศิริประทุม นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ซึ่งเธอสามารถชนะใจกรรมการได้ ด้วยความสามารถที่หลากหลาย และทัศนคติที่ดี

         หลังลงจากเวทีเธอได้ให้สัมภาษณ์เรื่องบทบาทการทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนทูตศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยกรุงเทพไว้ว่า เธอจะใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เป็นสื่อกลางในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทย ประชาสัมพันธ์ข้อมูลและกิจกรรมที่ส่งเสริมวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัย และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นใหม่ สิ่งที่เธอได้รับจากการประกวดนั้น เกินกว่าคำว่าชัยชนะไปไกลมาก เพราะเธอได้รู้จักสังคมที่หลากหลาย เปิดกว้าง ได้มิตรภาพที่ดี กลับไปเป็นของขวัญ ได้เรียนรู้ที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับทุกโอกาสที่ผ่านเข้ามา พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในทุกด้าน ต้องกล้าแสดงออก และหมั่นสะสมประสบการณ์ เพื่อที่วันหนึ่งเธอจะสามารถช่วยเหลือผู้อื่น และขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวต่อไปได้ เหมือนกับพี่อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ไอดอลที่เธอเลือกกล่าวถึงในช่วงตอบคำถามคณะกรรมการนั่นเอง

ผลตอบรับดีเกินคาด จนต้องขอขยายพื้นที่เข้าร่วมงาน

         แน่นอนว่านอกจากเพื่อน ชาว BU แล้ว ยังมีน้องนักเรียน เพื่อนนักศึกษาต่างมหาวิทยาลัย และบุคคลภายนอกที่ตั้งใจเดินทางมาร่วมงานกันอย่างอบอุ่นและได้รับความสนุกกลับไปแบบสุดกราฟ โดยแต่ละคนได้ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุผลที่ตัดสินใจมาร่วมงาน เพราะได้รับข่าวสารการโปรโมตจากโซเชียลมีเดียของมหาวิทยาลัย บ้างก็มีรุ่นพี่หรือเพื่อนที่รู้จักชวนมา บางคนก็ตามมาดูงานลอยกระทง เพราะชื่นชอบงาน Open House BU 2022 ที่ผ่านมา

         น้องหลายคนบอกว่า ชอบที่รุ่นพี่มหาวิทยาลัยกรุงเทพเอ็นเตอร์เทนเก่ง เดินไปทางไหน จะถามอะไรก็ตอบได้หมด ไม่มีเหงา แถมขายของเก่งมาก เดินไปบูธไหนเป็นต้องแวะซื้อ พิธีกรบนเวทีก็เอ็นเนอร์จีดีสุด ๆ พี่ ๆ ตากล้องก็งานดี จนอยากเดินผ่านกล้องบ่อย ๆ งานช่วงกลางคืนก็สวย จัดไฟสว่างไสว ถ่ายรูปริมน้ำกับเรือนไทยคือเลิสมาก ของกินหลากหลายอร่อยถูกปาก เดินกินทั้งวันก็ไม่หมด กิจกรรมก็มีให้เลือกทำเยอะ สนุกสนานตลอดทาง น้อง ๆ แก๊งผู้ชายมัธยมปลายก็แอบกระซิบมาว่า นอกจากจะมาร่วมกิจกรรม เดินซื้อของกินแล้ว พวกผมมาส่องสาว ๆ ก็ไม่ผิดหวังเลยครัช! ที่สำคัญ แทบทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า งานดี ๆ แบบนี้ ครั้งหน้าขอขยายพื้นที่จัดงานได้ด้วยนะ คนแน่นเวอร์!

ส่งท้ายด้วยคอนเสิร์ต After Party สุดโจ๊ะ โยกมันส์จนเวทีสั่นสะเทือน!

         ใครแน่นอก ก็ขอให้ยกออก! ก่อนจะบอกลางานลอยกระทงประจำปีนี้ กลุ่มดนตรีสากล ลูกทุ่ง & After Party ก็ขอรวมตัว ร่วมกันปล่อยของ จัดการแสดงคอนเสิร์ตสุดโจ๊ะโป๊งฉึ่ง จะเพลงไทย ลูกทุ่ง หรือหมอรำ ก็ร้องเล่นให้ได้แบบเกินพิกัด จ้างร้อยเล่นล้าน มันส์สนั่นทั้งบนและล่างเวที โดยเฉพาะคนดูที่ร้องเล่นเต้นตามสุดฤทธิ์สุดเดชจนสะโพกเกือบหลุด เอวไม่เคล็ดคือไม่เลิก! คุ้มค่า จัดหนักกันจนหยดสุดท้ายเลยจริง ๆ

ลอยกระทงไม่ให้หลงทางน่ะพอรู้ แต่ถ้าหลงมาลอยกระทงที่ BU ก็รับความประทับใจอย่างเต็มที่

         ถือเป็นอีกหนึ่งงานส่งท้ายปีที่เพื่อน ๆ บุคลากร และคณะอาจารย์ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ร่วมแรงร่วมใจกันจัดเตรียมงาน สืบสานประเพณีอันทรงคุณค่าของวันลอยกระทง เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้รังสรรกิจกรรมต่าง ๆ จัดบูธขายอาหารทั้งคาวหวานและของที่ระลึกตลอดสองข้างทาง เปิดพื้นที่แสดงพลังและความสามารถของคนรุ่นใหม่ให้เฉิดฉายบนเวทีทั้ง ร้อง เล่น เต้น รำ ร่วมกันแสดงจุดยืนถึงความหลากหลายทางเพศ การเปิดกว้าง และความงามที่มากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก แต่ลงลึกไปถึงทัศนคติและความสามารถ ผ่านการประกวดนพมาศ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้คนจำนวนมากที่หลั่งไหลมาเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

         Loy Krathong ลอยกะเธอ จึงเป็นกิจกรรมที่ดีที่ช่วยเปิดโลก เพิ่มพูนประสบการณ์ เป็นสะพานเชื่อมมิตรภาพ และความทรงจำอันงดงามในรั้วมหาวิทยาลัยที่ชวนให้คิดถึงเมื่อจบการศึกษา ส่วนคนที่พลาดงานในปีนี้ไป ก็เตรียมตัวและหัวใจให้พร้อม แล้วมาพบกันใหม่ในปีหน้า กับงานลอยกระทงประจำปีของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จะมีกิจกรรมเซอร์ไพร์สอะไรสนุก ๆ ที่น่าประทับใจรอเราอยู่บ้าง ต้องรอลุ้น แล้วกันนะ!

Writer

ในคืนจันทร์แรม แม้ไร้แสงจันทรา ทว่าเหล่าดาราจะส่องประกายพร่างพราว และมวลบุปผาจะส่งกลิ่นหอมเป็นพิเศษ

Photographer

นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

Photographer

นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ