ถ้าพูดถึงแหล่งเดินช็อปปิ้งของถูก หลายคนก็จะนึกถึงที่สะพานหัน-สำเพ็ง แต่เราจะไม่ได้พามาช็อปอย่างเดียว จะพามาเดินลัดเลาะหาของอร่อยกันอีกด้วย และด้วยความที่ย่านสะพานหัน-สำเพ็งนั้น มีทั้งกลุ่มคนไทย คนจีน และคนอินเดีย อาศัยอยู่คละปะปนกัน จึงทำให้ที่นี่มีวิถีการกินอยู่ การค้าขาย หรือสังคมที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ มีการเอื้อเฟื้อพึ่งพาซึ่งกันและกัน การอยู่รวมกันที่หลากหลายชนชาติแบบนี้ ทำให้มีอาหารที่อาจจะแปลกตาจากที่อื่นไปบ้าง แต่จะมีอะไรบ้างนั้นเราลองไปดูกันดีกว่า
Samosa Corner อาหารว่างสไตล์อินเดีย
มากันที่ร้านแรก Samosa Corner เป็นร้านรถเข็นเล็ก ๆ ที่ขายซาโมซ่า ตั้งอยู่ติดกำแพงข้างซอยห้าง India Emporium “ซาโมซ่า” ก็คือ อาหารว่างของชาวอินเดียและชาวมุสลิม ทำง่ายหาวัตถุดิบง่าย ลักษณะเป็นแป้งสอดไส้ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ห่อเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายกะหรี่ปั๊บของบ้านเรา แล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ โดยคนอินเดียจะนิยมรับประทานคู่กับน้ำชา
ไส้ข้างในของซาโมซ่าเป็นมันฝรั่งผัดเครื่องเทศต่าง ๆ จำพวกต้นหอม ผักชี ยี่หร่า ขิง และพริกไทย จุดเด่นของซาโมซ่าร้านนี้อยู่ที่แป้งและไส้ โดยตัวแป้งห่อไม่หนามาก ทำให้ตอนนำไปทอดจะมีความกรอบกำลังพอดี ไม่อมน้ำมันส่วนตัวไส้จะเหมาะกับคนที่ชอบกินมันฝรั่ง เพราะส่วนประกอบหลักก็คือมันฝรั่ง มีรสเผ็ดพริกไทยนำ และมีกลิ่นเครื่องเทศอ่อน ๆ นอกจากนี้ทางร้านยังมีน้ำจิ้มมะขามเปียก เพิ่มความเปรี้ยวหวานและตัดความเผ็ด มาจิ้มคู่กันอีกด้วย ราคาชุดละ 65 บาท มี 5 ชิ้น
พิกัดของร้าน : ถนนจักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร (ข้างซอยห้าง India Emporium)
Open : ทุกวัน เวลา 09:00-17:00 น.
ก๋วยเตี๋ยวหลอดเจ๊จู
ร้านต่อไปคือร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดเจ๊จู เป็นร้านที่ตั้งอยู่ริมคลองโอ่งอ่าง สะพานหัน ถือว่าเป็นร้านที่มีความเก่าแก่ เพราะขายมายาวนานถึง 40 ปีแล้ว ตั้งแต่รุ่นอาม่า จนตอนนี้มาถึงรุ่นคุณแม่ จุดเด่นของทางร้านคือให้เครื่องเยอะมาก!! เรียกว่าให้แบบจุใจไม่หวงเครื่องกันเลยทีเดียว สนนราคาเมนูจะเริ่มต้นที่ 40 บาท
ร้านนี้ขายก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง แต่ไม่ได้มีลักษณะเป็นหลอดแล้วใส่ไส้เหมือนก๋วยเตี๋ยวหลอดทั่วไป เพราะจะเสิร์ฟมาคล้าย ๆ กับก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊ว และมีซีอิ๊วดำหวานราดมาบนเส้น พร้อมถั่วงอก ผักโรย และเครื่องเคียงอีกหลากหลายชนิด เช่น กากหมู กุนเชียง กุ้งแห้งทอด เห็ดหอม บะเต็ง และก่อนรับประทานจะต้องคลุกเคล้าทุกอย่างในจานให้เข้ากันก่อน จะทำให้ได้สัมผัสรสชาติของทั้งเส้นก๋วยเตี๋ยวและเครื่องเคียงด้วยกันอย่างลงตัว
พิกัดของร้าน : 572 ถนนจักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร (ริมคลองโอ่งอ่าง)
Tel : 081-734-7402
Open : ทุกวัน เวลา 10:00-15:00 น.
กุยช่ายสะพานหัน
เดินถัดออกมาจากร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดเจ๊จูไม่ไกล ก็จะเจอกับร้านที่ 3 ของเรา นั่นก็คือร้านกุยช่ายสะพานหัน ร้านนี้ถือว่าโด่งดังมาก การันตีความอร่อยได้จากการที่เปิดมานานถึง 50 ปี แถมยังมีสาขาอีก 4 สาขา ให้ได้ไปลองกัน ถ้าใครที่เป็นกุยช่ายเลิฟเวอร์ก็ต้องมาลองสักครั้ง โดยตัวแป้งกุยช่ายของร้านนี้มีความนุ่มหนึบ ไม่หนา และไม่เหนียวจนเกินไป ทอดขึ้นมาร้อน ๆ กรอบนอกนุ่มใน ไส้แน่น กินคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด เข้ากันที่สุด
เมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านก็คือ “กุยช่ายตอกไข่” ซึ่งเป็นเมนูโบราณที่หากินได้ค่อนข้างยากในสมัยนี้ เวลากินก็จะได้ทั้งรสสัมผัสกรอบ ๆ ของไข่เจียวและกุยช่ายไปพร้อมกัน หรือถ้าหากใครไม่ชอบกุยช่ายแบบทอด ทางร้านก็มีกุยช่ายแบบนึ่งให้ อร่อยไม่แพ้กัน และยังมีกุยช่ายให้เลือกถึง 6 แบบ คือ กุยช่ายสี่เหลี่ยม กุยช่ายกลม ไส้ไชเท้า ผักกาดทรงเครื่อง หน่อไม้ มันแกว และเผือก ราคาเริ่มต้นที่ชิ้นละ 12 บาทเท่านั้น
พิกัดของร้าน : 102 ถนนจักรวรรดิ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ (ริมคลองโอ่งอ่าง)
Tel : 081-642-4508
Open : ทุกวัน เวลา 10:00-15:30 น.
ขนมไข่สำเพ็งราชวงศ์
เมื่อเราเดินช็อปปิ้งย่อยมาสักพัก ต้องหาขนมมาล้างปากกันสักหน่อย กับร้านที่ 4 คือร้านขนมไข่สำเพ็งราชวงศ์ ซึ่งเปิดขายมานานกว่า 30 ปีแล้ว ใครเดินผ่านเป็นต้องแวะซื้อ เพราะเวลาอบขนมจะได้กลิ่นหอมลอยเตะจมูก เป็นเอกลักษณ์ของซอยนี้เลยก็ว่าได้ ร้านนี้ขายขนมไข่แบบโบราณ อบด้วยเตาถ่าน เนื้อนุ่ม แน่น นิ่ม และตัวแป้งมีรสชาติที่ไม่หวานมาก ถ้าได้รับประทานคู่กับกาแฟร้อนในตอนเช้าจะฟินมาก ๆ ราคาอยู่ที่ชุดละ 50 บาท
เอกลักษณ์ของขนมไข่ของร้านนี้คือ ความฟูของตัวขนมที่มีความแตกต่างจากร้านอื่นอย่างเด่นชัด เพราะจะไม่ใส่สารกันบูดและผงฟูผสมลงในแป้ง แต่อาศัยการตีแป้งให้ฟูกำลังพอดี ซึ่งใช้เวลานานมากและเป็นเทคนิคลับของทางร้าน ที่สำคัญอีกอย่างคือ การใช้เตาถ่านโบราณ และแม่พิมพ์ทองเหลือง ทำให้เนื้อขนมมีกลิ่นที่หอม ได้รสชาติและรสสัมผัสที่แตกต่างจากร้านขนมไข่ทั่วไป
พิกัดของร้าน : ถนนจักรวรรดิ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ (ต้นซอยวานิช 1 หัวมุมตึก Kikuya)
Tel : 064-594-1624
Open: ทุกวัน เวลา 08:30-17:00 น.
บ๊ะจ่างเจ๊เกียง
เดินช็อปมาจนถึงซอยเกือบสุดท้าย ก็จะเจอร้านที่ 5 กับร้านบ๊ะจ่างเจ๊เกียง เป็นร้านรถเข็นเล็ก ๆ ที่มีความพิเศษตรงที่ตัวบ๊ะจ่างไม่ได้ห่อด้วยใบตองเหมือนปกติทั่วไป แต่เป็นการใส่กล่องพลาสติกใสพร้อมรับประทานได้เลย เพราะเจ้าของร้านต้องการที่จะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่เน้นรับประทานง่ายและสะดวก โดยขายมาถึง 40 ปีแล้ว ปัจจุบันเป็นรุ่นลูกที่เข้ามาสานต่อกิจการร้าน ส่วนราคาก็เพียงกล่องละ 30 บาทเท่านั้น
นอกจากจะมีเอกลักษณ์ที่ใส่กล่องแทนการห่อด้วยใบตองแล้ว รสชาติก็ยังเป็นเอกลักษณ์ด้วยเช่นกัน โดยข้าวเหนียวจะนิ่ม ไม่แห้งแข็งกระด้าง รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม หอมกลิ่นพริกไทยอ่อน ๆ ถั่วลิสงเม็ดใหญ่ นุ่ม ไม่แข็ง ไข่แดงเค็มมันเยิ้ม แปะก๊วยนุ่มเปื่อยกำลังดี ใส่เห็ดหอมและไก่ผัดซอส และทีเด็ดคือ เผือกกวน รสชาติหวานนุ่มละมุนลิ้น กินคู่กับข้าวเหนียวและเครื่องเคียงอย่างอื่นก็อร่อยลงตัว เข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ ต้องตามมาลองกันเลย
พิกัดของร้าน : 282 ซอยวานิช 1 แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ (ซอยข้างธนาคารกรุงเทพ สาขาสำเพ็ง)
Tel : 087-704-8894
Open : ทุกวัน เวลา 08:30-15:30 น.
วิธีการเดินทางมาที่สะพานหัน-สำเพ็ง สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) มาลงที่สถานีสามยอด ใช้ทางออกที่ 1 แต่ไม่แนะนำให้มาด้วยรถส่วนตัว เพราะหาที่จอดรถค่อนข้างยาก
ทั้งได้ช็อปปิ้งและได้อิ่มอร่อยกับของกินมากมาย ทำให้ได้รู้ว่านอกจากในตรอกสำเพ็งจะมีของน่าซื้อแล้ว ยังมีของกินน่ารับประทานเต็มไปหมดเลยใช่ไหม หากใครได้มาเดินช็อปปิ้งที่สำเพ็งก็อย่าลืมแวะชิมร้านอร่อยที่เราแนะนำไปนะ แต่ละร้านที่เราไปมีจุดเด่นและเอกลักษณ์ทั้งนั้น รับประกันความอร่อยทุกร้าน และเป็นราคาที่เข้าถึงได้ทุกคนเลย
ขอขอบคุณภาพหน้าปกประกอบเรื่อง www.unsplash.com