ใจที่อ่อนล้า ไร้พลัง ไม่เคยมีความกล้า กลับเข้มแข็งขึ้นมาได้ เพราะมีใครสักคนที่เชื่อมั่นและพร้อมจะเดินข้างกัน ให้กำลังใจกันเสมอ
การเดินทางตามความฝัน
เรื่องราวของเด็กสาวที่บังเอิญได้ไปรู้จักกับสาวน้อยน่ารักผู้มีนิสัยร่าเริง คอยช่วยเหลือ เป็นกำลังใจให้เธอเสมอ ซึ่งตรงข้ามกับตัวเธอ ที่มีนิสัยเก็บตัวเงียบ ขี้อาย ไม่มีความมั่นใจในตนเอง แต่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นไอดอล มอบความสุขและรอยยิ้มให้กับผู้คน
การเป็นไอดอลต้องใช้ความกล้า ความมั่นใจ แต่อดีตฉุดรั้งเธอเอาไว้ ไหนจะความกดดันที่ต้องแบกรับ คำดูถูกที่ถาโถมเข้ามาหาเธอไม่หยุด เธอก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไร ร่วมเดินทางติดตามเรื่องของเธอไปด้วยกัน
ตอนที่ 1 ยินดีที่ได้รู้จักนะ
ลูกพีช เด็กสาววัย 16 ปี ที่กำลังจะเริ่มต้นชีวิตในโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในเมืองใหญ่ แต่มาวันแรกก็หลงทางแล้ว “ต้องไปทางไหนต่อล่ะ” ลูกพีชสับสน
“นี่เธอน่ะ หลงทางอยู่เหรอ” เสียงสดใสเรียกทักลูกพีชจากด้านหลัง ลูกพีชหันไปสบตากับเด็กสาวน่ารัก ที่กำลังยืนจ้องเธออยู่ ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มสดใส ลูกพีชคิดอยู่ในหัวว่าเธอคนนี้เป็นใคร จะตอบยังไง ด้วยนิสัยเป็นคนขี้อาย เลยยังสับสนที่มีคนมีคุยด้วยแบบนี้
“ฮัลโหล ได้ยินไหมเอ่ย” เด็กสาวคนนั้นถามลูกพีชอีกครั้ง “เราโมจินะ เธอชื่ออะไร”
“ลูกพีชค่ะ”
“ชื่อน่ารักจัง ยินดีที่ได้รู้จักนะลูกพีช”
รอยยิ้มที่สดใสปรากฎบนใบหน้าของโมจิ ดวงตาที่สดใสจับจ้องลูกพีช นัยน์ตาที่ดูอ่อนโยนและเป็นมิตร การพบเจอกันโดยบังเอิญ บทสนทนาแรกที่เป็นจุดเป็นเริ่มต้นทำให้ทั้งคู่สนิทกันในเวลาต่อมา
ตอนที่ 2 ไม่กล้า
ผ่านมาสักพักแล้วที่ลูกพีชกับโมจิอยู่ในรั้วโรงเรียนมัธยมปลาย ทั้งคู่ก็เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น โมจิรู้ว่าความฝันของลูกพีชคือการเป็นไอดอล ลูกพีชมักจะร้องเพลงให้โมจิฟังอยู่ตลอด โมจิเองก็คิดว่าเพื่อนสาวของตนเองมีเสียงที่ไพเราะมาก จึงได้พยายามบอกให้ลูกพีชลงประกวดหรือเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนเสมอ
“ทำไมไม่ลองลงประกวดดูล่ะ”
“หมายถึงฉันเหรอ”
“ใช่แล้ว ลองลงประกวดดูสิ เสียงเธอเพราะมาก”
“ไม่ไหวหรอก”
ลูกพีชตอบกลับทันทีว่าไม่ไหว แต่ที่จริงคือกลัวนั้นแหละ เลยไม่กล้า โมจิเองก็คอยเป็นกำลังใจและช่วยเหลือลูกพีชมาตลอด แต่เป็นตัวลูกพีชที่ปฏิเสธความต้องการของตัวเอง ลูกพีชตั้งใจเรียนจนจบ ม.6 โดยไม่เข้าร่วมกิจกรรมของทางโรงเรียนแม้แต่ครั้งเดียว เพราะกลัวว่าถ้าขึ้นเวทีไปร้องเพลงคงจะทำได้ไม่ดี เลยไม่กล้าที่จะขึ้นไป
ทั้งคู่เลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังที่มีชื่อเสียงด้านดนตรี ลูกพีชก็ลังเลว่าตัวเองเลือกถูกหรือไม่ ถ้าผิดพลาดขึ้นมาจะทำยังไง ถึงจะคิดแบบนั้น ด้วยความสามารถด้านดนตรีที่มี ทั้งโมจิและลูกพีชก็ได้เข้ามหาวิทยาลัยเดียวกัน
ตอนที่ 3 สมบัติล้ำค่า
ความสดใสของโมจิทำให้ลูกพีชรู้สึกอิจฉามาตลอด เพราะลูกพีชไม่เคยมั่นใจในตนเองเลย ก่อนที่จะเป็นแบบนี้ เมื่อก่อนลูกพีชก็เป็นเด็กที่มีความมั่นใจมาก แต่เคยทำผิดพลาดไปตอนที่อายุยังน้อย เคยทำพลาดตอนอยู่บนเวที ความผิดพลาดนั้น ทำให้เธอโดนดูถูก จนไม่อยากทำอะไรต่อ แต่ก็ไม่อยากละทิ้งความฝัน
ลูกพีชกอดเก็บความฝันนั้นเอาไว้ดั่งสมบัติล้ำค่า เป็นความฝันที่รักเหนือสิ่งอื่นใด แต่ก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไร ถึงจะทำให้ความฝันนั้นเป็นจริงได้ ที่ผ่านมาจึงได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ ลูกพีชคิดเสมอว่าจะกลับขึ้นไปยืนบนเวทีได้อีกไหม
ทุกครั้งที่เห็นศิลปินที่ชอบ เห็นคนมีความสามารถขึ้นแสดงบนเวทีท่ามกลางแสงสี ก็รู้สึกอิจฉาที่ตนเองไม่สามารถทำได้ ทั้งกังวลและลังเลว่าต่อจากนี้จะทำยังไงต่อดี ความทรงจำที่แสนเจ็บปวดเหล่านั้น จะสามารถทิ้งเอาไว้ข้างหลัง แล้วก้าวเดินต่อไปได้หรือเปล่า ลูกพีชหลงทางอยู่ในความสิ้นหวังมานาน
คนร่าเริงอย่างโมจิเป็นคนที่เข้ามาสอนให้ลูกพีชรู้ว่าความกว้างใหญ่ของโลกใบนี้เป็นอย่างไร ความผิดพลาดไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือเรื่องที่ผิด แต่ความผิดพลาดจะสอนให้เราเติบโต ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ลูกพีชมีความสุขที่ได้รู้จักกับโมจิ แต่ก็รู้สึกผิดบางครั้งที่ทำให้เธอลำบาก ครั้งหนึ่งโมจิบอกกับลูกพีชว่า “เรามีความฝัน เพื่อที่จะบอกว่า ยังมีความหวังอยู่ ดังนั้นพยายามเข้านะ”
ตอนที่ 4 ลองดูอีกครั้ง
หลังจากที่ทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันมานานหลายปี จนตอนนี้อายุ 18 ปีแล้ว ความพยายามของโมจิ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไป โมจิยังคอยบอกกับลูกพีชด้วยรอยยิ้มเสมอว่า “ไม่ลองดูอีกล่ะ จะเป็นไอดอลทั้งที ต้องกล้าแสดงความสามารถให้โลกได้รับรู้”
โมจิยังใช้ความสดใสและพูดเก่งของตัวเอง มาช่วยละลายพฤติกรรม นิ่งเงียบของลูกพีช จนตอนนี้ลูกพีชมีรอยยิ้ม และร่าเริงกว่าแต่ก่อนมาก “ต่อให้วันนี้คนทั้งโลกหันหลังให้กับฉัน ขอเพียงแค่มีโมจิอยู่ ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ถ้าหากหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดที่ผ่านมาไม่ได้ ก็จะเผชิญหน้ากับมัน ต่อให้ต้องล้มอีกกี่ครั้งก็จะลุกขึ้นมาให้ได้” ลูกพีชคิดอยู่ในใจ และมองเพื่อนสนิทที่กำลังพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ ให้เธอฟัง
“ลองประกวดดูอีกสักครั้ง” อยู่ดี ๆ ลูกพีชก็พูดออกไป เป็นความรู้สึกที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว เพราะเข้าใจว่าตัวเองน่าจะคิดอยู่ในหัว แต่ดันพูดออกเสียงมา
“จริงใช่ไหม จะได้เห็นลูกพีชบนเวทีสินะ”
“ใช่แล้ว! ต้องน่ารักมากแน่เลย!”
“ทำยังไงดี ต้องรีบไปเตรียมป้ายเชียร์ แท่งไฟสดใสไว้เปิดให้กำลังใจให้แล้วสิ” โมจิพูดอวยลูกพีชไม่หยุด จนลูกพีชรู้สึกเขิน
“นี่…โมจิ เธอจะอยู่กับฉันตลอดไปหรือเปล่า”
“อยู่ดี ๆ ถามอะไร พีช แปลกมาก ฮ่าฮ่า”
โมจิไม่ได้ตอบอะไร แต่หัวเราะให้ลูกพีช นั้นสินะ ใครเจอคำถามแบบนั้นก็คงคิดว่าแปลกแหละ แต่ลูกพีชมีความกล้ามากขึ้นแล้วนะ ร่าเริงมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ของลูกพีชทำให้โมจิรู้สึกภูมิใจ และแอบยิ้มออกมา
ตอนที่ 5 จะอยู่กับเธอเสมอ
“วันนี้กินอะไรดีนะ…ว้าว เด็กคนนั้นน่ารักจัง หลงทางอยู่หรือเปล่านะ” เด็กสาวน่ารักคนหนึ่งกำลังกลุ้มใจว่าจะกินอะไรเป็นมื้อเย็นดี ได้บังเอิญไปเห็นสาวน้อย ที่ดูเหมือนกำลังสับสนอยู่ตรงหน้าโรงเรียนมัธยมปลาย จึงตัดสินใจเข้าไปทำความรู้จัก ผลสรุปคือหลงทางจริง ๆ เลยนำทางให้ เธอคนนั้นมีชื่อว่า “ลูกพีช”
ไม่นานทั้งคู่ก็สนิทกันจนเวลาผ่านไปหลายปี ลูกพีชเป็นคนที่ไม่มีความกล้า ความมั่นใจ แถมยังขี้อายอีก คนที่น่ารักขนาดนี้ ทำไมถึงมีแต่คนใจร้ายกับเธอกันนะ ฉันจะอยู่กับเธอเอง โมจิคนนี้จะอยู่คอยอยู่ข้าง ๆ ตลอดไป ตามที่เธอปรารถนา ฉันเป็นคนกอดเธอเอง จะไม่ทิ้งไปไหน ที่ผ่านมาคงไม่ได้รับคำพูดที่อยากได้ยิน เช่น ทำได้ดีมาก เก่งมากแล้ว แถมต้องคอยแบกรับความกดดันเอาไว้ด้วยตัวคนเดียว
ได้โปรดอย่าสูญเสียความพยายามไปเลยนะ อย่าสิ้นหวังไปมากกว่านี้เลยนะ ถ้ามีแต่คนใจร้ายกับเธอ ฉันจะเป็นคนปกป้องเอง อย่าอยู่ตัวคนเดียวอีกเลย ไม่เป็นไรแล้วนะ อย่าเจ็บปวดเลย จะทำทุกอย่างให้เธอกลับมาร่าเริงให้ได้ ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เพราะงั้นต้องเข้มแข็งและมีความสุขอยู่เสมอนะลูกพีช
ความคิดและความปราถนาที่จะเห็นลูกพีชสดใสและร่าเริงของโมจิ ยังคงดำเนินต่อไปแบบนั้น ตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักกัน จะไม่ยอมให้อยู่คนเดียวอีกเป็นอันขาด เพื่อนคนสำคัญ
ตอนที่ 6 บันไดสู่ความสำเร็จ
ในงานประจำปีของมหาวิทยาลัย ทางฝ่ายกิจกรรมให้นักศึกษาที่มีความชื่นชอบทางด้านดนตรีและการร้องเพลง ลงชื่อร่วมแสดงความสามารถในงานแบบไม่จำกัด ในวันงานตรงบันไดก่อนขึ้นเวที โมจิบอกรู้สึกยินดี ที่จะได้เห็นลูกพีชบนเวทีนี้ และบอกกับลูกพีชว่า “เธอเป็นดอกไม้ที่สวยงาม เธอเป็นดอกไม้ที่มีสีสัน ไปแสดงให้โลกรู้ว่าดอกไม้ดอกนี้งดงามแค่ไหน”
คำพูดของโมจิทำให้ลูกพีชหวนนึกถึงอดีตที่ผ่านมา “ด้านหลังของผู้คนที่ฉันเคยอิจฉามาตลอด ตอนที่เขาอยู่บนบันไดขั้นที่สูงกว่า จากนี้จะลองปล่อยวางทุกอย่างเอาไว้ที่หลังบันไดนี้ ฉันในวันนี้ ไม่ใช่ฉันที่ดูอ่อนแอ และไม่มั่นใจในวันวาน อีกต่อไปแล้ว”
ณ ปลายเวทีที่ม่านเปิดออก คือเวทีที่วาดฝันเอาไว้ในใจเสมอ ต่อให้คิดว่าคงไม่มีทางที่จะสมหวัง แต่ถ้าลองก้าวออกไป ก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นจริงได้ ลูกพีชรวบรวมความกล้าแล้วก้าวออกไป ลูกพีชก้าวผ่านอดีตที่เจ็บปวด และกล้าที่จะขึ้นร้องเพลงบนเวทีของมหาวิทยาลัยด้วยรอยยิ้ม
ความฝันที่ยังคงเดินต่อ
“ในที่สุดฉันก็เชื่อมั่นในตัวเองขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ อย่าให้อะไรมาขวางทางเธอนะ จำไว้ว่าสายลมพัดไปสู่อนาคตเสมอ อย่าทิ้งความฝันเด็ดขาดเลย แม้ว่ามันจะยาก ก็อดทนเอาไว้ และมีชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็ง”
ทุกคนต่างก็มีฝันร้ายในอดีต ความทรงจำที่แสนเจ็บปวด คนที่สามารถเก็บความทรงจำเหล่านั้น เอาไว้ในใจ และใช้ชีวิตต่อไปได้ จะแข็งแกร่งขึ้น! ดังนั้นอย่าลืม แล้วผ่านไปให้ได้ ไม่ว่าจะผิดหวังหรือสมหวัง เราต่างได้เรียนรู้ จิตวิญญาณของเราจะเติบโต โลกและอนาคตที่สดใส จะต้องรออยู่ข้างหน้าอย่างแน่นอน