เมื่อพูดถึงอาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือที่เรียกอย่างคุ้นเคยว่าแอร์โฮสเทสและสจ๊วต คืองานที่ต้องการทักษะไหวพริบในการทำงานอย่างมาก และยังเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ต้องเรียนรู้อย่างมากมาย
เราจะไปพูดคุยเจาะลึกถึงเส้นทางแห่งความฝันกับ Passion ที่มีต่ออาชีพสจ๊วต ผ่านมุมมองของ พี่ทัวร์-วริทธิ์ ดียิ่ง นักศึกษาสาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ผู้ที่ชอบการเรียนภาษาอังกฤษ รวมทั้งค้นพบเส้นทางอาชีพที่ใช่ของตัวเองว่าคืองานด้านการบริการ
ใฝ่และฝันจะโบยบินบนท้องฟ้า
ทัวร์เล่าว่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้ได้ค้นพบอาชีพสจ๊วตเกิดขึ้นตอนเรียนอยู่ชั้น ม.6 จากคาบเรียนวิชาแนะแนว คุณครูให้นักเรียนได้ลองค้นหาตัวเอง ตอนนั้นเขาได้ทบทวนตัวเอง และได้คำตอบว่าสิ่งที่ต้องการมันคนละทางกับสิ่งทีเรียนอยู่ตอนนี้ จากเด็กสายวิทย์ที่คิดว่าตัวเองอยากเป็นวิศวะ จะขอเบนเข็มมาทางสายภาษาและการสื่อสาร ลิสต์สิ่งที่ตัวเองชอบและนำไปศึกษา หาข้อมูลว่าตรงกับอาชีพไหน แล้วก็พบว่าอาชีพสจ๊วตนี่แหละที่ตอบโจทย์ทั้งสิ่งที่เป็นตัวตนและเป้าหมายที่วางไว้ในอนาคต
“ตอนแรกอยากเป็นวิศวะ เหมือนโดนสะกดจิตว่าชอบ แต่จริง ๆ ไม่ได้ชอบ แต่พอในคาบนั้นได้ลองมานั่งคิดว่าตัวเองชอบอะไร คือเราชอบที่จะสื่อสารกับคนอื่น ชอบภาษาอังกฤษ เลยมองหางานที่เกี่ยวกับคนต่างชาติ แล้วตัวเราชอบไปเที่ยวอยู่แล้ว อีกอย่างคืออยากจะเก็บเงินให้ได้เยอะ ๆ เร็ว ๆ เพราะความฝันสูงสุดคืออยากจะมีอิสรภาพทางการเงิน และอาชีพนี้มันก็ได้เงินดี เก็บเงินได้ไวด้วย”
ครอบครัวคือแรงลมใต้ปีก
บางครั้งเราก็มักจะเจอปัญหากับคำพูดหรือความคิดของคนในครอบครัวและคนรอบข้างที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เราเลือก สำหรับทัวร์เองก็เจอเรื่องแบบนี้อยู่เหมือนกัน เนื่องจากญาติพี่น้อง เป็นคนต่างจังหวัดที่ยังติดค่านิยมว่าอยากให้ลูกหลานทำงานรับราชการ ก็จะได้ยินคำพูดที่ไม่ค่อยสนับสนุน บั่นทอนจิตใจ และอาจจะทำให้ลดความมั่นใจของเราลง จะมีก็เพียงคนที่ใกล้ชิดจริง ๆ ที่คอยสอนและพอจะเป็นกำลังใจให้ได้ ทำให้สามารถก้าวข้ามปัญหานั้นมาได้
“เราโชคดีที่แม่ก็เข้าใจในสิ่งที่เราเลือก สนับสนุนและให้อิสระเราเต็มที่ พร้อมที่จะให้เราทำในสิ่งที่เราอยากทำ ส่วนคำพูดคนอื่น จะบอกว่าดี ชอบมาก พูดมาเลย เพราะสิ่งที่เลือกมันคือความคิดเรา แล้วเราจะพิสูจน์ให้คนเหล่านั้นดูเอง คนอื่นไม่สามารถมามีผลกับการตัดสินใจของเราได้ อาจจะด้วยถูกปลูกฝังมาว่าเราไม่จำเป็นต้องไปสนใจคำพูดของใคร คนที่เราควรจะแคร์คือคนที่คนที่หาเลี้ยงเราก็พอ”
เจอสิ่งที่ใช่ ก็ลุยเลย
หลังจากผ่านด่านการค้นหาตัวเอง และได้กำลังใจที่เต็มเปี่ยมจากครอบครัวคอยสนับสนุน ก็ทำให้ทัวร์ได้มุ่งหน้าไปในทิศทางอย่างที่ตัวเองต้องการ โดยเลือกเข้าศึกษาที่คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เลือกเข้าคณะนี้เพราะเขาอยากให้การเรียนเน้นไปตามสิ่งที่เขาชอบ และมุ่งมั่นที่จะศึกษาทักษะทางการสื่อสารภาษาอังกฤษ ซึ่งทัวร์ก็ได้เล่าว่าตลอดระยะเวลาที่เรียนมาหนึ่งปี การเรียนภาษาช่วยเติมเต็มความฝันต่ออาชีพสจ๊วต เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
“เราอยากให้ภาษาของเราแข็งแรงที่สุด มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการสมัครงานนี้ แล้วเราเรียนอย่างตรงจุดมันก็ได้พัฒนาตัวเราเอง และก็สร้างความมั่นใจให้เราด้วย ส่วนวิชา Listening และ Speaking อาจารย์ให้พูด เขาคุยกับเราตลอด ไม่พูดภาษาไทยเลย ได้ฝึกจริง ๆ ส่วนอีกวิชาหนึ่งที่ชอบก็น่าจะเป็น Writing มันทำให้เรารู้จุดบกพร่อง เราจะแก้ไข แล้วเขาเช็ค เขาดูแบบจริงจังเลย เลยทำให้รู้จุดผิดพลาดของตัวเอง”
Qatar Airways
งานในอนาคตที่อยากทำ เรามักจะมีองค์กรในดวงใจที่อยากจะเข้าไปทำงานด้วย ทัวร์เองก็เป็นหนึ่งในนั้น เหตุการณ์ที่ทำให้เขารู้จัก Qatar Airways ทุกอย่างมันบังเอิญอย่างน่าประหลาดใจ ตุ๊กตาหมีที่วางทิ้งอยู่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขารู้สึกถูกชะตาอะไรบางอย่างกับสายการบินนี้ แล้วคุณครูที่สนิทตอนมัธยมก็มาเล่าให้ฟังมีรุ่นพี่ที่โรงเรียนก็ได้ทำงานที่สายการบินนี้ เป็นจังหวะที่พอดีกันมาก ทำให้มีโอกาสพูดคุยกับรุ่นพี่คนนั้น และทำให้เขาสนใจและมีแรงบันดาลใจในสายการบินนี้เพิ่มขึ้นอีก “Qatar Airways เหมือนเป็นพรหมลิขิตเลย”
โอกาสมาต้องอย่าปล่อยให้หลุดมือ
หากพูดถึงเรื่องโอกาสกับความพยายาม บางคนอาจจะเลือกว่าความพยายามเป็นตัวผลักดันที่ดีที่สุดแต่บางคนก็มองว่าโอกาสคือสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน สำหรับทัวร์ เขาก็เชื่อในทั้งสองสิ่งว่ามันต้องไปพร้อมกัน แต่โอกาสก็เป็นจุดเด่นชัดที่เขาโฟกัสกับมันที่สุด
“เราเชื่อทั้งสองอย่าง แต่สำหรับตัวเองคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดมันคือโอกาส แล้วก็จังหวะ บางคนก็ประสบความสำเร็จได้ง่าย ๆ แต่บางคนทำยังไงก็ไม่สำเร็จสักที ต้องรอถึงจุดหนึ่งถึงจะประสบความสำเร็จ อย่างนั้นความอดทนทั้งสองอย่างมันไม่แน่นอน แล้วก็ไม่ได้การันตีว่ามันจะประสบความสำเร็จเร็วหรือช้า แต่เชื่อในโอกาสมาก ๆ ถ้ามีโอกาสเข้ามาหาเราก็จะลงมือทำทันที ตอนเรียนอยู่ สมัครไปทำงานแล้วติด ก็จะไป จะไปทำเลย ไม่รออะไรแล้ว”
ถ้าแผนหลักสั่นคลอน ต้องมีแผนสำรอง
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ก็ได้ส่งผลไปถึงอาชีพที่เกี่ยวกับการบินโดยตรง วิกฤตนี้มันก็มีส่วนส่งผลมาถึงเขา เพราะทำให้รู้สึกถึงความสั่นคลอนในอาชีพที่เขาเลือก “เหตุการณ์มันก็กระทบกับอาชีพมาก มีหวั่นใจ ก็ต้องมีแผนสำรองไว้ แต่ก็ไม่ถอดใจจากงานนี้นะ ยังไงก็รอให้มันกลับมาฟื้นฟูได้เหมือนเดิม”
เพราะ Passion ก็ยังไม่เคยที่จะหมดไป เขาบอกว่ามันเป็นสิ่งที่เขายอมรับได้ถ้ามันจะเกิดผลกระทบต่ออาชีพ และก็ยังเชื่อใจในองค์กรที่ใฝ่ฝันด้วย และคิดว่าจริง ๆ สิ่งที่ควรมีก็คือ “แผนสำรอง” เมื่อหลายอย่างไม่เป็นไปอย่างที่เราคิด เขาเคยมีประสบการณ์ในการทำงาน Production สมัยมัธยมมาก่อน จึงอยากทำ Youtuber และอยากมีธุรกิจของตัวเองควบคู่ไปกับการทำงานสจ๊วตด้วย
อุปสรรคที่มี ลบมันได้ด้วยตัวเอง
เส้นทางแห่งความฝัน มักจะไม่ง่าย ระหว่างทางย่อมต้องมีอุปสรรค มาทดสอบความตั้งใจอยู่เสมอ อยู่ที่ว่า เราจะเข้าใจ และรับมืออย่างไร บางสิ่งอาจต้องใช้เวลา ในการช่วยให้ปัญหานั้นเบาบางลง และจะกลับมาดีขึ้น ในวันข้างหน้า ตัวเขาก็พบอุปสรรคมากมาย และเขาก็ได้ใช้วิธี “จัดการกับความรู้สึกตัวเอง” ในการต่อสู้กับอุปสรรคที่ต้องเจอพอสมควร
“เราว่าเราจัดการกับความรู้สึกตัวเองได้ดีมากที่สุดในโลกเลย มันก็มีที่ท้อเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ อย่างเช่นเรื่องส่วนสูง เกินคุณสมบัติเขามาแค่ไม่กี่เซ็นที่เขากำหนดในการรับสจ๊วต ส่วนสูงต่ำที่สุดที่เขากำหนด ก็เครียดอยู่บ่อย ๆ พอดีมีพี่คนหนึ่งเขาก็แนะนำให้ฝึกเอื้อมแตะตลอด และถึงตอนนี้หายเครียด หายท้อ”
แค่เงยหน้าก็เห็นแรงบันดาลใจ
สิ่งที่ขาดไปไม่ได้สำหรับคนมีฝันนั่นก็คือแรงบันดาลใจ หรืออาจจะเป็นแรงกระตุ้นให้ในทุกวันเรายังคงเชื่อมั่นในสิ่งนั้นอยู่ สำหรับเขาก็มีแรงบันดาลใจหลายอย่างมาประกอบกัน มีรุ่นพี่ที่เป็นตัวเองอย่างที่ทำให้อยากจะเป็นได้อย่างเขาบ้าง และสิ่งสำคัญคืออนาคตอยากจะเป็นคนที่ได้ให้โอกาสคนอื่นด้วย
ซึ่งเขามองว่าเป้าหมายนั้นเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจ ส่วนแรงกระตุ้นที่คอยผลักดันที่ฟังแล้วแสนจะน่าประทับใจและรู้สึกได้ถึง Passion ต่ออาชีพของเขาจริง ๆ เพราะ “แค่เงยหน้ามองไปบนเครื่องบิน เท่านั้นก็เป็นทั้งหมดของแรงใจแล้ว”
เป้าหมายมีไว้พุ่งชน
ก่อนจะจากกันเขาได้พูดถึงการมองภาพของตัวเองในอนาคต การที่เขาได้เห็นภาพตัวเองอย่างชัดเจนในอาชีพนี้จะทำให้จากนี้เขาจะไม่ลดละความพยายามและความตั้งใจที่มีต่ออาชีพสจ๊วต อาชีพที่เขาเจอว่ามันใช่และใฝ่ฝันที่จะไปให้ถึง ทุกเรื่องราวจะเป็นแรงบันดาลใจให้เราได้ทุกวัน และขั้นตอนสำคัญคืออย่าลืมที่จะค้นหาอยู่ตลอด ค้นหาตัวเรา ค้นหาแรงบันดาลใจ แล้ววางเป้าหมาย ถ้าเจอสิ่งที่ใช่ มันจะให้คำตอบกับทุกอย่างเอง
จงอย่าหยุดที่เดินตามความฝัน เพราะความสำเร็จของความฝันมันคือการไม่ละทิ้งฝันและต่อสู้กับทุกอย่างด้วย Passion ที่เรามี “หลายคนเขาทำแค่ 4-5 ปี เขาก็ออก แต่ความฝันของเราต่ออาชีพนี้คือ อยากอยู่ให้นานจนเกษียณ ถึงตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเหนื่อยไหม จะเบื่อไหม แต่ถ้าเป็นไปได้จริง ๆ อยากอยู่ให้จนจบไปเลยสำหรับอาชีพนี้ ถึงเรียนจบไปแล้วยังไม่ได้เป็นเลยและถึงต้องทำงานอื่นไปก่อน แต่ยังไงก็จะสู้ สู้ไปให้ถึงที่สุด ไม่มีจุดที่คิดจะหยุดพัก” ทัวร์กล่าวกับเราด้วยรอยยิ้มและความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม
เราฟังแบบนี้แล้วหัวใจพองโตตามไปด้วยเลย ความฝันที่ชัดเจน และ Passion ที่แรงกล้า มันดีต่อใจแบบนี้นี่เอง!
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ พี่ทัวร์-วริทธิ์ ดียิ่ง คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ