“จะอดทน จะสู้จนกว่าจะไม่มีแรงเหลือให้สู้ สิ่งเดียวที่ทำให้เรามีแรงก้าวเดินต่อนั่นคือพ่อกับแม่”
คำบอกเล่าจาก น้องแบม ไมค์ทองคำ หรือ แบม-วิภาวี บุญภา รุ่นพี่สาขาการประชาสัมพันธ์ดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
เธอเดินตามความฝันจนประสบความสำเร็จ ได้เป็นศิลปินน้องเล็กสุดตั้งแต่อายุ 15 ปี ของรายการไมค์ทองคำ รายการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งระดับประเทศ เพื่อค้นหาสุดยอดนักร้องลูกทุ่งไมค์ทองคำ ภายใต้คำชื่นชมและคำยินดีนั้น ยังมีอีกหลายมุมที่เรายังไม่เคยได้สัมผัส กว่าจะมายืนในจุดที่มีแสงสปอตไลท์ส่องผ่าน ต้องพบเจอกับความมืด ความกดดัน และอุปสรรคอยู่ตลอดเวลา
![01](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/01-1.png)
การประสบความสำเร็จในช่วงอายุยังน้อยวัย 15 ปี แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เธอนั้นยิ้มออก หรือพูดได้อย่างเต็มปากว่าเธอคือศิลปิน เพราะการได้เป็นนักร้องและเป็นส่วนหนึ่งในค่ายยุ้งข้าวเรคคอร์ด ของบริษัท Workpoint Entertainment ทำให้แบมได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างมากมาย
เราขอให้เธอมาบอกเล่าเรื่องราวของตนเองให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน มาติดตามเรื่องราวของศิลปินรุ่นเล็กคนนี้ไปพร้อมกับเรากันเลย
![02](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/02-1.png)
![02](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/02-1.png)
รู้ตัวเองว่าชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก
แบมย้อนความคิดเกี่ยวกับการเป็นนักร้องให้ฟังว่า ตอนนั้นเด็กมาก เราไม่รู้หรอกว่าเป้าหมายคืออะไร อาชีพในฝันคืออะไร หรือโตไปอยากจะเป็นอะไร เวลามีใครถาม เราก็ตอบแบบพื้นฐานไปเลยว่า อยากเป็นคุณครู แต่ตอนนั้นเรารู้แค่ว่าเราชอบอะไร เราเอ็นจอยกับอะไร เราทำอะไรแล้วมีความสุข นั่นคือ “การร้องเพลง”
พอรู้ตัวว่าชอบก็พุ่งไปบอกแม่เลยว่าอยากประกวดร้องเพลง ก็ดีตรงที่แม่เราครอบครัวเราสนับสนุนอย่างเต็มที่ การเริ่มประกวดร้องเพลง เริ่มรับงานร้องเพลงเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้แล้วว่า “ใช่! ฉันอยากเป็นนักร้อง”
![03](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/03-1.png)
![03](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/03-1.png)
นอกจากเรื่องร้องเพลงแล้ว สิ่งที่ทำให้แบมได้พัฒนาตนเองอยู่เสมอคือการเป็น “เด็กกิจกรรม” ตั้งแต่เด็กเราไม่ได้ทำแค่ร้องเพลงอย่างเดียว เราเป็นทั้งนักวิ่ง นักบรรยายธรรม นักเรียนพระราชทาน ทำหลายอย่างมาก แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือ “การร้องเพลง”
หลายคนจะคิดว่าเราร้องได้แค่เพลงลูกทุ่ง เพราะอยู่รายการไมค์ทองคำ เราใช้แนวเพลงลูกทุ่งในการแข่งขัน แต่จริง ๆ แล้วเราสามารถร้องได้ทั้งลูกทุ่ง ลูกกรุง สากล สตริง ที่พีค ๆ เลยก็คือเพลงไทยเดิม สามารถร้องได้ทุกแนว
![04](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/04-1.png)
![04](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/04-1.png)
แรงกดดันคือพลังสำคัญของการฝึกฝน
ถึงแม้จะชอบร้องเพลงมาก แต่บางครั้งเธอก็มีความคิดอยากเลิกร้องเพลง ด้วยความเหนื่อยล้าจากแรงกดดันรอบตัว เธออธิบายว่า ไม่ได้เหนื่อยที่ได้จับไมค์ร้องเพลง แต่สิ่งที่เหนื่อยคือคำพูด และแรงกดดัน เราถวายชีวิตให้กับการร้องเพลง เราทุ่มเวลาเกินครึ่งของชีวิตลงไปกับการร้องเพลง แต่อาจจะยังไม่เพียงพอ
เราเคยลงแข่งเวทีเวทีหนึ่ง พอจะถึงวันแข่งเราป่วย เราทั้งอัดยา ฉีดยา ทำทุกทางที่จะทำให้เสียงกลับมาปกติและร้องเพลงได้ วันนั้นถึงเสียงจะกลับมา แต่ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกการแข่งขัน ทุกคนต้องเตรียมตัวมาอย่างดีอยู่แล้ว แต่ในวันนั้นเรากลับพร้อมแค่แปดสิบเปอร์เซ็นต์ จึงทำได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร จากวันนั้นจึงถือเป็นบทเรียนให้เธอได้ฝึกฝนการร้องเพลงอย่างมุ่งมั่น พร้อมรับกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้นได้
![05](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/05-1.png)
![05](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/05-1.png)
![06](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/06-1.png)
![06](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/06-1.png)
แบมเล่าประสบการณ์ต่ออีกว่า เราประกวดร้องเพลงตั้งแต่ ป.2 เจอทั้งแรงกดดัน ทั้งคำดูถูก แต่สิ่งเดียวที่ทำให้เราอดทนและยืนอยู่ตรงนี้ต่อคือ “พ่อกับแม่” พ่อแม่คือคนสำคัญ เป็นหลักที่ทำให้เราอยากจะสู้ต่อ
ชีวิตเราเริ่มร้องเพลงแต่เด็ก ถ้าว่างคือซ้อมร้องเพลง ทำกิจกรรมให้โรงเรียนตลอด ออกงานร้องเพลงทุกวัน ซ้อมร้องเพลงทุกวัน ได้แต่มองเพื่อนไปเที่ยว มองเพื่อนเล่นกัน แต่ผลที่ได้กลับมา ไม่ว่าจะเป็นเงินรางวัลตอนแข่ง หรือทิปเวลาออกงาน นี่เป็นสิ่งที่สามารถแบ่งเบาภาระพ่อแม่ได้ เราก็หายเหนื่อย
สิ่งที่ตอบแทนกลับมาทำให้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อ เพราะว่าเรามีความฝันอีกอย่างหนึ่งคือการเลี้ยงพ่อแม่ นี่คือความฝันสูงสุดในชีวิตเลย เหนื่อยบ้างท้อบ้าง แต่ไม่หยุดสู้ ตอนนี้ได้เป็น “แบม ไมค์ทองคำ” แล้ว ก็จะไม่หยุดพัฒนาตนเอง
![07](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/07-1.png)
![07](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/07-1.png)
เส้นทางการเป็นศิลปินยังต้องเดินอีกยาวไกล แบมบอกว่า เราเคยไปออกงานแบบที่ไม่มีใครรู้จักเราเลย ไม่รู้ว่า “แบม วิภาวี” คือใคร คนเริ่มทยอยเข้ามาดูเพราะเราเริ่มร้อง เพราะเสียงร้องของเรา ช่วงแรก ๆ นี่เราเกลียดการออกงานไปเลย กลัว กลัวจะไม่มีใครมาดู กลัวไปหมด แต่สุดท้ายก็ปลง ยอมรับ มองข้าม อดทนและพัฒนาต่อ เราเริ่มจากศูนย์ตั้งแต่แข่ง พอเข้ามาเป็นศิลปิน ก็คงต้องเริ่มจากศูนย์เหมือนกัน สักวันจะไต่ไปถึงร้อยเปอร์เซนต์เอง
![09](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/09-1.png)
![09](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/09-1.png)
ไม่หยุดเรียนรู้และพัฒนาตนเอง
เราหยุดพัฒนาตัวเองไม่ได้เลย เพราะว่ามีศิลปินหน้าใหม่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา อายุเราก็เพิ่มขึ้นทุกวัน อยู่นิ่งไม่ได้ การพัฒนาตนเองของเรา เริ่มจากดูแลตัวเอง เปลี่ยนตัวเอง ทำตนเองให้น่าสนใจ ให้เห็นความแตกต่าง เราปรับลุค ตั้งแต่การแต่งหน้า การทำผม และการแต่งตัว วิธีการเล่นโซเชียล ทำอย่างไรคนถึงจะมารู้จักเรามากขึ้น ทุกอย่างคือเริ่มจากตัวเองหมดเลย จนเรามีคนติดตามเพิ่มมากขึ้น ทุกอย่างดีขึ้นจริง ๆ ค่ายก็เริ่มมองเห็นแล้ว เห็นตัวตนของเรา พอออร่าเริ่มออก แสงเริ่มส่องมา เราก็เริ่มมีตัวตน
![11](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/11-1.png)
![11](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/11-1.png)
เราได้รับโอกาสต่าง ๆ ได้ออกงาน ได้ออกกองรับสมัครไมค์ทองคำภาคอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น เริ่มได้โคฟเวอร์เพลง รวมถึงได้รับโอกาสแข่งขันในรายการใหม่ที่รายการไมค์ทองคำเป็นคนจัด ชื่อรายการ “เพชรตัดเพชร” ตอนนั้นคือดีใจมาก เหมือนได้กลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง นี่แหละคือโอกาส ทำให้คนจำเราได้ ว่าเราก็เป็นอีกหนึ่งศิลปินของไมค์ทองคำ คนเริ่มรู้จัก เริ่มติดตามมากขึ้น
![12](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/12-1.png)
![12](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/12-1.png)
เราตั้งใจในทุกผลงานเพลงที่เรานำเสนอออกไป ดีใจมากที่ทุกคนชอบ ชื่นชม เป็นกำลังใจที่ดีมาก ตอนนั้นเหมือนคนมีความรักเลย หัวใจพองโต ปลื้มปริ่มไปหมด พอเทปออนแอร์ออกไป ยังมีศิลปินที่เราชื่นชอบอย่าง “พี่หญิง ธิติการณ์” มาคอมเม้นต์ชื่นชมอีก ที่สุดของที่สุดเลย แบม วิภาวี ทำได้แล้ว!
นอกจากการเป็นนักร้อง เธอยังมีความฝันอีกว่า อย่างแรกจะเปิดร้านกาแฟเป็นของตัวเอง มีธุรกิจเป็นของตัวเอง อย่างที่สองคือ ด้วยความที่เราชอบด้านวงการบันเทิง ก็อาจจะทำพวกเบื้องหลัง
![13](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/13-1.png)
![13](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/13-1.png)
ขอบคุณทุกกำลังใจและยังเดินตามฝันต่อไป
แบมบอกว่า อยากขอบคุณทุกคนมาก ๆ คนแรกที่จะขอบคุณเลยคือพ่อกับแม่ที่คอยผลักดัน คอยสนับสนุน คอยส่งเสริมอยู่ตลอด เวลาที่เราออกนอกแถวไปบ้าง พ่อกับแม่ก็คอยดึงเรากลับมา
สำหรับแฟนคลับ ขอบคุณทุกคนที่คอยให้กำลังใจและซัพพอร์ตกันมาตลอด ถ้าไม่มีพวกเขา ก็ไม่มีแบม วิภาวี เราจะไม่มีวันนี้เลยถ้าไม่มีพวกเขาที่คอยติดตาม เป็นกำลังใจ สนับสนุนทุกการประกวดของเรา กล้าพูดได้เลยว่าทุกอย่างที่มีวันนี้มีได้เพราะพ่อแม่ เพราะแฟนคลับ
![14](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/14.png)
![14](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/14.png)
เราดีใจมาก ๆ ที่ได้เข้ามายืนตรงนี้ ต้องขอบคุณรายการไมค์ทองคำที่ให้โอกาสแบมได้ทำตามความฝัน ทำให้มีคนชื่นชอบ มีคนคอยสนับสนุน และในบางครั้งเราก็ได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนมีฝันด้วย “แบมดีใจมาก ๆ ค่ะ”
ส่วนคนที่มีเราเป็นแรงบันดาลใจ อยากจะบอกว่า “ท้อได้แต่อย่าถอย เราต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าวันนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ยังไม่เป็นไร ขอแค่เราเต็มที่กับมัน ไปต่อให้ถึงที่สุด อย่างน้อยเราก็จะไม่มานั่งเสียใจทีหลังว่าเรายังทำไม่เต็มที่ ยังทำไม่มากพอ สู้ ๆ ค่ะ”
![15](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/15.png)
![15](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2021/07/15.png)
เชื่อว่าเรื่องราวของแบม จะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายคนได้วิ่งตามความฝันของตัวเอง หากเรามีความอดทน พยายาม ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน ใครที่กำลังสับสนว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ เพียงแค่สู้จนสุดความสามารถ มุ่งมั่น ทุ่มเท และไขว่คว้ามาให้สุดกำลัง เพียงแค่เริ่มต้นลงมือทำอย่างเต็มที่ แล้วความฝันของเราจะกลายเป็นความจริง
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ แบม-วิภาวี บุญภา นักศึกษาสาขาการประชาสัมพันธ์ดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ