น้องมูนา-เบญญาภา เอี่ยมสอาด ดาวรุ่งดวงใหม่ นักแบดมินตันทีมชาติไทย

สาวน้อยมหัศจรรย์ของวงการแบดมินตันไทยที่ชีวิตเดินตามความฝันบนคอร์ดสีเขียว

          ความพยายามคือหัวใจสำคัญของการใช้ชีวิต การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ลงมือทำซ้ำ โดยไม่เบื่อหน่าย สามารถพาเราก้าวไปยังจุดหมายได้! เราขอพามารู้จักกับรุ่นน้องนักกีฬา เธอคนนี้กำลังพัฒนาตนเองเพื่อก้าวสู่ระดับโลก เธอมีความพยายาม มุ่งมั่นตั้งใจเกินร้อย และเปิดรับโอกาสที่เข้ามาและทำอย่างเต็มที่

          น้องมูนา-เบญญาภา เอี่ยมสอาด สาขาวิชาการจัดการ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดีกรีนักแบดทีมชาติไทย และเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สาวน้อยคนนี้ติดทีมชาติในวัยเพียง 19 ปี และกำลังอยู่ในอันดับที่ 79 ของโลกในประเภทหญิงเดี่ยว เธอเลือกเดินตามความฝันของตนเองเพราะมีใจรักในกีฬาแบดมินตันมาตั้งแต่ยังเด็ก

          มารู้จักน้องมูนาที่มีความสามารถในด้านกีฬาแบดมินตัน เจาะลึกถึงเส้นทางชีวิตในแต่ละด่านที่น้องฝ่าฝันจนมาถึงทุกวันนี้ หรือที่คนในวงการแบดมินตันเรียกเธอว่า ดาวรุ่งดวงใหม่ของนักแบดมินตันทีมชาติไทย

ก้าวแรกการเข้าสู่วงการแบดมินตันไทย

          จำภาพวันแรก หรือครั้งแรกที่เราเริ่มซ้อมได้ไหม “ตอนเริ่มซ้อมยังตีไม่โดนเลยค่ะ น้องยิ้มและหัวเราะและบอกว่า ตอนนั้นเด็กมาก ซึ่งก็ไม่ได้ตีจริงจัง แล้วก็ไม่คิดว่าจะมาถึงระดับนี้” น้องเล่าย้อนอดีตให้ฟังอย่างเป็นกันเอง ทำให้เรานึกภาพเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ตีแบดด้วยความสุข ความสนุกสนานมาตั้งแต่เด็ก อาจจะเป็นเพราะโชคชะตาและการสนับสนุนจากคนรอบข้างทำให้น้องมูนาค่อย ๆ หลงรักในการกีฬาแบดมินตันตั้งแต่เด็ก และฝึกฝนตนเองเรื่อยมา

          ระหว่างทางพอเริ่มจริงจัง ฝึกฝนแบบนักกีฬา เราต้องเจอกับอุปสรรคอะไรบ้างและแบดมินตันสอนอะไรให้กับตัวเราบ้าง น้องบอกว่า “ก็มีแพ้บ้าง เจ็บบ้าง ท้อบ้าง เรื่องนี้เลยเป็นเรื่องหลักที่เราต้องเจอ บางช่วงบางจังหวะก็มีดรอปลงบ้าง ตีไม่ได้ตามฟอร์มที่เราต้องการ ทำให้เราต้องสร้างมาตรฐานของตัวเอง มันทำให้เราต้องพัฒนาตัวเองขึ้น ยิ่งอุปสรรคเยอะยิ่งได้เรียนรู้ ได้จำและนำไปแก้ไขว่าเราควรทำยังไงกับมัน” ด้วยการฝึกฝนอย่างเข้มข้น สม่ำเสมอทุกวัน ทำให้น้องมูนากลายเป็นที่จับตามอง เพราะฝีมือที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดาวรุ่งคนใหม่ของนักแบดทีมชาติไทย

          วันที่เราเริ่มมีชื่อเสียงในวงการ จนคนในประเทศไทยตั้งฉายาว่า “ดาวรุ่งดวงใหม่ของนักแบดทีมชาติไทย” ตอนนั้นเรารู้สึกอย่างไร น้องยิ้มและบอกกับว่า “ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกยังไงเลย เฉย ๆ มากเลย เราแค่รู้สึกว่า มันไม่ใช่เราคนเดียวที่เป็นดาวรุ่ง ยังมีพี่ ๆ น้อง ๆ อีกหลายคนที่มีฝีมือดีและสามารถเป็นกำลังสำคัญของนักแบดมินตันไทยได้เหมือนกัน”

มีโอกาสต้องรีบคว้าไว้

          เรียนรู้อะไรบ้างจากการที่เราได้รับโอกาสนี้ การได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับ Super 1000 ในนามตัวแทนประเทศไทย “ได้เรียนรู้เยอะเลย ได้รู้จักที่จะพัฒนาตัวเอง รู้ว่าเราต้องแก้ไขตัวเองยังไงเพื่อไปแข่งรายการต่อไป เพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้มาให้ทุกคนง่าย ๆ เรายิ่งต้องเก็บเกี่ยวมันเพื่อให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น”

          ด้วยความที่ต้องลงแข่งอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้องต้องมีตารางซ้อมแบดมินตันเช้าเย็นอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงช่วงกลางวันที่ก็ต้องเข้าคอร์ดตีแบด เพื่อฝึกฝนร่างกายให้แข็งแรง รวมถึงในเชิงของทฤษฎีการเล่นที่ต้องได้รับการติวจากโค้ชอย่างเข้มข้นเสมอ เพราะฉะนั้นคอร์ดแบตจึงเปรียบเสมือนเพื่อนที่คุ้นเคยมาโดยตลอด

พร้อมรับมือกับความกดดันในเกม

          ความคาดหวัง ความกดดันในบางครั้งที่เราต้องเจอ เรามีวิธีจัดการมันอย่างไร เธอให้ความคิดเห็นว่า “ทุกคนที่ลงแข่ง เราคิดว่า เขาก็ต้องมีความคาดหวังสูงค่อนข้างมากเช่นกัน ยิ่งหวังมากจะยิ่งกดดันมาก แค่จัดการกับมันโดยที่ตีไปตามเกม หรือทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องตีให้ได้เหมือนที่เราซ้อมมากที่สุด”

          เพราะการซ้อมสำคัญมาก ยิ่งซ้อมบ่อย ก็ยิ่งทำให้ไม่กดดันระหว่างการเล่นมากนัก เพราะคุ้นเคยกับการรับมือในสถานการณ์จริงมากยิ่งขึ้น ชั่วโมงการซ้อมที่มีในแต่ละวันจึงเปรียบเสมือนแบบฝึกหัดชั้นดีที่ทำให้น้องได้เรียนรู้และพัฒนาตนเอง เพื่อพร้อมรับมือกับเกมการแข่งขันที่ไม่มีอะไรแน่นอน

เป้าหมายที่สูงสุดของชีวิต

          เป้าหมายคือ “อยากไปโอลิมปิก” น้องตอบด้วยความมั่นใจทันทีและบอกต่อว่า “ซึ่งเราคิดว่าทางที่เราเลือกในตอนนี้มันคุ้มมาก ๆ เพราะเราได้ทุ่มเทกับมันอย่างเต็มที่ ได้ทำในสิ่งที่จะพาเราไปสู่เป้าหมาย ถึงแม้ว่าจะถึงเป้าหมายช้าหรือเร็วมันเป็นสิ่งที่เรากำหนดได้ แมตช์นี้คุณชนะคุณก็มีสิทธิ์ได้ไป”

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังทำให้สู้ไม่ถอย

          อะไรที่เป็นแรงบันดาลใจหรือแรงผลักดันที่ทำให้เราสู้ อดทนมาถึงทุกวันนี้ น้องยิ้มและรีบตอบทันที “พ่อกับแม่ค่ะ เพราะพ่อกับแม่เขาก็อยากให้เราไปถึงเป้าหมาย ซึ่งความคิดเราก็หวังแบบนั้นเหมือนกัน มันเลยทำให้เป็นแรงผลักดันเราให้เราอดทน”

ขอบคุณทุกกำลังใจ

          อยากฝากอะไรกับผู้ที่ติดตามเราและเห็นเราเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งแน่นอนเรากำลังเป็นที่รู้จักของคนในประเทศไทย น้องยิ้มเขิน พร้อมกล่าวว่า “ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุน และอยากให้ทุกคนคอยเฝ้าดู และเชียร์นักกีฬาแบดมินตันไทยในรายการต่าง ๆ เพราะกำลังใจจากทุกคนสำคัญมาก เราก็จะไม่หยุดพัฒนาตัวเองค่ะ” พวกเราขอเป็นกำลังใจให้น้องมูนาตลอดไปเช่นเดียวกัน ส่งใจเชียร์ให้น้องเดินตามฝันไปพร้อมกัน

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และน้องมูนา-เบญญาภา เอี่ยมสอาด นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และนักแบดมินตันทีมชาติไทย อันดับโลกที่ 79 ในประเภทหญิงเดี่ยว

Writer & Photographer

โอกาสมีให้รีบไขว่คว้า ดีกว่าปล่อยหลุดมือมาให้เสียดายและเสียใจ