เมื่อโควิด หยุดโลก แต่หยุดเราไม่ได้ ถึงเวลาเปิดเรียน ก็ต้องเรียน มหาวิทยาลัยกรุงเทพถึงเวลาเปิดเทอมแล้วน้า !!!
เพียงแต่เปิดเทอมใหม่ครั้งนี้ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป พวกเราต้อง เข้าสู่ยุคของ “ภาวะปกติใหม่” หรือ New normal ทุกคนต้องปรับตัวกัน
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เห็นถึงความสำคัญของการป้องกัน และดูแลความปลอดภัยของทุกคนที่ต้องเข้ามาใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย มาตรการดูแลรักษาความสะอาดทั่วทั้งสถาบันจึงเริ่มขึ้นอย่างเข้มงวด โดยมีคนกลุ่มหนึ่งที่เป็นแรงกำลังหลัก เป็นพลังสำคัญ ที่ทำให้เราสามารถกลับมาเปิดเรียนได้อย่างปลอดภัย
เรามีโอกาสพูดคุยกับพวกเขาเหล่านั้น ไปรู้จักกับคนกลุ่มนี้กันเลย
พี่สมยศ คงพิมพ์
พี่ ๆ รปภ. ด่านแรกของความปลอดภัย ปกป้องบ้านหลังใหญ่
คนแรกคือ พี่ยศ-พี่สมยศ คงพิมพ์ รปภ.ฝ่ายรักษาการความปลอดภัย ที่ทำหน้าที่นี้มากกว่า 3 ปีแล้ว ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด่านแรก เมื่อทุกคนเข้ามาในมหาวิทยาลัย ก็ต้องเจอพี่ยศก่อน เมื่อก่อนพี่ยศรับหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยและดูแลการจราจร อยู่ที่ระหว่างตึก A3 และ A4 แต่เมื่อเกิดโควิดก็ได้ย้ายมาอยู่จุดคัดกรองที่จะทำหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิให้กับพวกเราทุกคน
อุปสรรคที่เกิดขึ้นกับหน้าที่ใหม่
พี่ยศ บอกกับเราว่า “แรก ๆ ก็มีอุปสรรคนิดหน่อย เพราะเปิดช่วงแรก คนยังไม่เข้าใจว่า เราต้องตรวจวัดอุณหภูมิทุกคน ก็ต้องเรียกเขามาแนะนำว่า ต้องตรวจวัดทุกครั้งที่เข้าและออก ซึ่งน้อง ๆ ก็เข้าใจและให้ความร่วมมือดีครับ”
พี่ยศ บอกถึงความรู้สึกต่อหน้าที่ใหม่นี้ว่า “ภูมิใจครับ ผมก็สนุกกับงานอยู่แล้ว ชอบบริการด้วย ตรวจวัดอุณหภูมิก็ได้คุยเล่นกันบ้าง ก็ผ่อนคลายดีครับ มาตรการนี้ก็ทำให้งานเยอะขึ้นนิดหน่อย ก็ดีครับ เพราะวันเวลามันผ่านไปไวดี ทำให้ไม่น่าเบื่อ และภูมิใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายครับ”
หาก Covid…กลับมาอีกครั้ง
“ถ้ามันเกิดการระบาดรอบสองอีก ก็ต้องขอความร่วมมือทุกคนนะครับ เพราะต้องช่วยกันดูแลตัวเองให้มากขึ้น แล้วก็พยายามใส่ใจสังคมให้มากขึ้น มันก็จะผ่านไปได้ด้วยดีเหมือนกับรอบแรกครับ” พี่ยศ กล่าวทิ้งท้าย
ป้าเม้า-คุณสังวาล สังข์ทอง
ความสะอาดของห้องน้ำคือด่านที่สอง
เชื่อว่า ทุกคนคงเคยใช้บริการห้องน้ำของมหาวิทยาลัย แต่หลังจากช่วงโควิด การเข้าห้องน้ำสาธารณะคงต้องระวังมากกว่าเดิม เพราะเป็นที่ที่สามารถแพร่เชื้อได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ เพราะห้องน้ำโดยเฉพาะที่ โรงอาหาร 3 ได้รับการทำความสะอาดอยู่เป็นระยะโดย ‘ป้าเม้า’ หรือ คุณสังวาล สังข์ทอง คุณป้าแม่บ้านใจดี ที่ประจำห้องน้ำโรงอาหาร 3
การทำงานที่เปลี่ยนแปลง แต่แรงไม่เคยตก
ป้าเม้า เล่าให้ฟังว่า ทำงานที่นี่มา 3 ปีกว่าแล้ว ปกติก่อนช่วงโควิดก็ดูแลรับผิดชอบงานเป็นส่วน ๆ ไป แต่หลังโควิดมาต้องทำงานเป็นกลุ่มกันมากขึ้น บางทีก็ไปช่วยเช็ดโต๊ะในห้องเรียนด้วยหลังจากที่หมดคาบเรียน นอกเหนือจากดูแลส่วนห้องน้ำ เพราะเราต้องทำความสะอาดห้องเรียนหลังจากหมดคาบเรียนทุกครั้ง บางห้องเล็ก บางห้องใหญ่ ก็ต้องระดมกำลัง เช็ดถูทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค เพื่อให้เด็ก ๆ ที่มาเรียนปลอดภัย
ความภาคภูมิใจต่องานที่มีความหมาย
ป้าเม้า คุยอย่างเพลิดเพลินให้เราฟังอีกว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการที่ทำให้มหาวิทยาลัยกลับมาเปิดเรียนได้อีกครั้ง นักศึกษาได้กลับมาเรียน และรู้สึกดีที่ทุกคนช่วยกัน
ห้องเรียนคือด่านที่สาม
ห้องเรียนเป็นสถานที่ที่นักศึกษาทุกคนต้องเข้าใช้งานอยู่ตลอด แล้วในหนึ่งวันรองรับนักศึกษาไม่ต่ำกว่า 100 คนต่อห้อง ทำให้เป็นสถานที่ที่สำคัญ ที่ควรจะมีการทำความสะอาดอยู่ตลอด และผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลทำความสะอาดห้องเรียน ก็คือ…น้าเด่น-คุณธวัชชัย นาเสน คุณน้าพนักงานดูแลความสะอาด เรียบร้อยของห้องเรียนและห้องพักอาจารย์ประจำตึก C4 และ C5 ที่ทำหน้าที่นี้ มายาวนานถึง 8 ปีแล้ว ก่อนสถานการณ์โควิดนานมาก
น้าเด่น-คุณธวัชชัย นาเสน
น้าเด่นเล่าให้ฟังว่า ก่อนที่มหาวิทยาลัยจะเปิดทำการ ก็มีการทำความสะอาดครั้งใหญ่ทั้ง ภายในและภายนอก บริเวณสวนและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้นักศึกษาก่อนที่จะเปิดเรียน
สะอาดอยู่ แต่วันนี้สะอาดมากขึ้น
เมื่อถามถึงเรื่องการดูแลทำความสะอาดในห้องเรียน น้าเด่น ตอบว่า “เมื่อก่อนเราดูแลทำความสะอาดเรียบร้อยดีอยู่แล้ว โดยการทำความสะอาดทุกครั้งหลังหมดคาบเรียน แต่เมื่อเกิดโควิดเราก็มีมาตรการที่เพิ่มเข้ามา โดยจะทำการฆ่าเชื้อ ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทั้งก่อนและหลังคาบเรียนทุกคาบ อีกทั้งยังมีเจลล้างมือตามห้องเรียนและจุดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้นักศึกษาว่าสะอาดและไม่มีเชื้อโรคเข้ามา”
ความประทับใจต่อหน้าที่สำคัญ
“ก็ดีใจแล้วก็ภูมิใจ ที่ได้เป็นเบื้องหลังทำให้มหาวิทยาลัยเปิดและน้อง ๆ ได้กลับมาเรียน และอีกอย่างคืออย่างน้อยเราก็ยังมีงานหลักให้ทำ ถ้าไม่เปิดเลยเราก็คงแย่เหมือนกัน ก็ยังต้องช่วยเหลืออาศัยกัน” ฟังแล้วเรายิ่งประทับใจพี่ ๆ มากขึ้นไปอีก
เห็นได้เลยนะคะว่าพี่ ป้า น้า ทุกคนตั้งใจ เต็มที่กับงาน และพร้อมกับการปรับตัวในยุค New normal เพื่อความปลอดภัยของพวกเราทุกคน ถึงแม้จะมีงานที่ต้องทำเพิ่มมากขึ้นก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่และเต็มใจ เราขอสนับสนุนให้พวกเราทุกคนให้ความร่วมมือ เพื่อให้บุคลากรเหล่านี้ได้ปฏิบัติหน้าที่นี้อย่างราบรื่น เพราะงานที่พวกเขากำลังทำอยู่นั้น ก็เพื่อความปลอดภัยของพวกเราทุกคนนั่นเอง