ทุกความฝันเริ่มต้นจากความพยายาม ก้าวเล็ก ๆ นำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เสมอ “เราต้องหา Passion ของตัวเองให้เจอก่อนว่าอยากทำตรงนี้จริงไหม ถ้ารู้ตัวเมื่อไหร่ให้รีบลุยทันที”
การเดินตามความฝันได้ทำในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ เป็นเรื่องที่ใครหลายคนคิดและกำลังทำอยู่ นักแสดงเองก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ผู้คนต่างหลงใหล เช่นเดียวกับหนุ่มคนนี้ที่ตัดสินใจใช้ความสามารถของตัวเองสร้างรายได้ และหาประสบการณ์ใหม่โดยไม่ลังเล นับเป็นเรื่องที่ดีแม้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม
ชวนทุกคนมาพูดคุยกับหนุ่มหน้าหวานมากความสามารถ พี่ต้นหลิว-เมธาพัฒน์ ฉิมกุล รุ่นพี่สาขาวิชาภาพยนตร์ คณะดิจิทัลมิเดียและศิลปะภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่มองภายนอกอาจจะดูเข้าถึงยากแต่ถ้าได้รู้จักจะรู้ว่าเขาน่ารักเกินต้านเหมือนกับรอยยิ้ม มาพร้อมกับการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอทำให้เขาได้เรียนรู้หลายอย่างรอบด้าน และไต่ระดับจากเด็กเดินผ่านหน้ากล้องก้าวสู่นักแสดงนำซีรีส์วาย ไปพบกับบทสัมภาษณ์เขากันได้เลย!
เส้นทางสู่การแสดง
เดิมทีพี่ต้นหลิวเป็นคนที่ไม่เคยมีความใฝ่ฝันหรือวางแผนอนาคตมาก่อนเราใช้ชีวิตแบบเรื่อยเปื่อย วันหนึ่งช่วงมัธยมปลายมีเพจ Facebook เพจหนึ่งที่เขาชอบนำภาพคนสวยคนหล่อคนน่ารักไปลง ซึ่งเราเป็นหนึ่งในนั้นที่ได้ไปลงเพจ ทำให้เริ่มมีคนมองเห็นเราบนโลกออนไลน์มากขึ้น จึงมีโอกาสรู้จักกับพี่คนหนึ่งที่เขาทำงานในกองถ่ายเขาติดต่อมาชักชวนให้เราไปเป็น Extra หรือนักแสดงตัวประกอบ เพียงเดินผ่านหน้ากล้องได้เจอดารานักแสดงและยังได้เงินอีก เราจึงตัดสินใจไปเป็น Extra ที่กรุงเทพตามที่พี่เขาเสนอ
เมื่อได้เข้ามาทำงานจริงในกองถ่ายเราเริ่มรู้สึกสนุกไปกับการได้เห็นเบื้องหลังการทำงานของเหล่านักแสดงมากมาย ทำให้เริ่มเกิดเป็น Passion ว่าเราอยากเป็นแบบเขาอยากลองทำงานในวงการบันเทิงดูบ้าง จึงเริ่มถามไถ่กับพี่เขาว่าหากเราอยากได้งานแบบนี้อีกต้องทำอย่างไร เขาจึงแนะนำให้ติดต่อกับโมเดลลิ่งหรือลองดูตามกลุ่มโพสต์งานหานักแสดง เราจึงลองส่งผลงานตัวเองในกลุ่มนั้นไป ทำให้ได้งานแสดงจากช่องทางนี้อยู่หลายครั้ง
ปลุก Passion ให้ตัวเอง
เมื่อเริ่มรู้ตัวเองว่าอยากเป็นนักแสดงอยากเดินต่อไปในเส้นทางนี้ อีกทั้งยังมีนักแสดงต้นแบบอย่างพี่เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ ที่เราชื่นชอบการแสดงอยากเป็นเหมือนเขามาก ทำให้ช่วงเข้ามหาวิทยาลัยจึงอยากเรียนสาขาที่เกี่ยวกับการแสดง แต่มานึกคิดได้ว่าสายงานการแสดงไม่ได้มีแค่เบื้องหน้า เพราะยังมีงานเบื้องหลังอีกหลายแขนง รวมถึงเรายังอยากเรียนรู้งาน Art จึงตัดสินใจเลือกเรียนคณะดิจิทัลมิเดียและศิลปะภาพยนตร์ สาขาวิชาภาพยนต์ เอกการแสดง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งที่นี่ช่วยตอบโจทย์ต่อสายงานที่เราสนใจให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
แถมยังได้ทักษะที่ดีติดตัวกลับไปใช้ได้จริงในตอนทำงาน ทั้งทักษะการเข้าหาคนรอบข้าง การเรียนรู้คาแรคเตอร์ของตัวละครก่อนที่จะส่งผลงานไปแคส หรืออย่างตอนเรียนเขาจะให้เราจดบทว่าคำพูดนี้รู้สึกอะไร หรือตัวละครนั้นรู้สึกอย่างไร ซึ่งทุกวันนี้เวลาเราไปกองถ่ายซีรีส์ก็ยังมานั่งเขียนว่าทำไมตัวละครนี้เขาถึงพูดแบบนี้หรือคำพูดนี้หมายถึงอะไร นั่งจดนั่งเขียนเหมือนตอนเรียนไม่ต่างกัน เพื่อช่วยให้เราเข้าใจเรื่องราวและความคิดของตัวละครนั้นยิ่งขึ้น
เก็บเกี่ยวทุกประสบการณ์การแสดง
ผลงานชิ้นแรกของพี่ต้นหลิวที่เริ่มมีบทพูดเป็นผลงานหนังสั้นธีสิสของรุ่นพี่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ด้วยความที่เราเห็นรุ่นพี่โพสต์หานักแสดงในกลุ่มและเห็นว่าเป็นงานที่ถ่ายในมหาวิทยาลัยตัวเอง จึงลองส่งผลงานไปแคสดู ผลออกมาเราผ่านการคัดเลือก ตอนนั้นรู้สึกดีใจมากเพราะเป็นผลงานแรกที่ไม่ใช่แค่เดินผ่านหน้ากล้อง แต่ค่อนข้างกดดันเนื่องจากเป็นช่วงปี 1 เรายังไม่ได้ซึมซับการแสดงมากเท่าที่ควร และยังต้องแสดงร่วมกับรุ่นพี่ที่เขามีประสบการณ์มาก่อน เหมือนเราเป็นน้องใหม่จึงทำให้ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะทำออกมาได้ดีเท่ารุ่นพี่หรือไม่ ซึ่งเราพยายามทำความเข้าใจบทบาทคาแรคเตอร์ที่ได้รับ เพื่อให้การแสดงออกมาสมจริงที่สุด
หลังจากนั้นผลงานที่ออกมาส่วนใหญ่ของพี่ต้นหลิวได้รับทั้งบทนำบทรองและตัวประกอบ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ หนังสั้น มิวสิควิดีโอเพลง และโฆษณา ที่อยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Friend Zone 2 Dangerous Area, ช่วยหน่อยครับรับมุกหมอที Want to be on your mind, ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน Love Area Part 2, หอนี้ชะนีแจ่ม Girl Next Room ตอน สถานีขี้เซา Midnight Fantasy, F4 Thailand หัวใจรักสี่ดวงดาว, หนังสั้น My Little Pill, หนังสั้น หนึ่งไหว้ฟ้าดิน, ละคร Remember เราสองคน, ซิทคอม ตลก 6 ฉาก, MusicVideo พระจันทร์แทนใจฉัน, MusicVideo ทำไงดีครัช Crush On You และผลงานอีกมากมาย
จากตัวประกอบสู่นักแสดงนำ
ผลงานการแสดงของพี่ต้นหลิวที่ประทับใจมากที่สุด เป็นผลงานนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เรื่อง ธามนิว ย้อนเวลาให้เธอรัก Thyme & New l Turn Back Time เป็นซีรีส์หนังสั้นวายเกี่ยวกับการสะท้อนสังคม เป็นเรื่องแรกที่เรารับบทเป็นนายเอกหรือตัวดำเนินเรื่อง เมื่อผลงานออกอากาศไปกระแสตอบลัพธ์ดีมาก ถูกใจแฟนซีรีส์วายชาวต่างชาติ ทำให้มียอดผู้เข้าชมเรื่องนี้เกือบ 600,000 ครั้ง และเป็นผลงานเรื่องแรกที่ทำให้มีคนรู้จักเราเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหลายคนอยากให้มีซีซั่น 2 แต่เนื่องจากเป็นผลงานนักศึกษาจึงอาจไม่ได้ไปต่อ
พี่ต้นหลิวยังบอกอีกว่าส่วนตัวชื่นชอบการเล่นซีรีส์มากที่สุด เพราะระยะเวลาการถ่ายทำค่อนข้างนาน แต่ละเรื่องขั้นต่ำคือ 1 เดือน ซึ่งทำให้เราได้ศึกษาเรียนรู้ตัวละครนั้นลึกมากขึ้น รวมถึงได้ซึมซับการแสดงอย่างต่อเนื่อง อย่างงานโฆษณาระยะเวลาการถ่ายทำไม่กี่วัน เราอาจจะไม่ได้ซึมซับกับตัวละครมากขนาดนั้น และหากมีโอกาสเรายังอยากลองพลิกบทบาทไปเล่นบทร้ายหรือบทตัวโกง เนื่องจากเป็นคาแรคเตอร์ที่ไม่ได้เหมาะสมกับเรามากนัก จึงอยากลองท้าทายความสามารถตัวเองว่าจะทำได้ดีแค่ไหน
แอคติ้งถือเป็นศาสตร์ที่เรียนยาก !?
พี่ต้นหลิวพูดถึงการเรียนแอคติ้งที่ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงเราเข้าใจเนื้อแท้ในตัวมนุษย์ว่าเขามีความรู้สึกแบบไหนหรือมีความต้องการอย่างไร ไม่เชิงเป็นการเรียนแต่เป็นเหมือนจิตวิทยาอย่างหนึ่งที่เราต้องเข้าใจมนุษย์ด้วยกันเอง ซึ่งเรามักจะคอยฝึกฝนตนเองด้วยการสังเกตบุคคลรอบข้าง เช่น คนแปลกหน้า เราจะดูว่าเขามีคาแรคเตอร์แบบไหน ใช้การสังเกตว่าถ้าเขาเป็นแบบนี้เขาต้องมีอารมณ์สีหน้าท่าทางอย่างไร หรืออย่างพี่ต้นหลิวเองชีวิตจริงเวลาโกรธมักจะไม่พูดหรือแสดงอาการออกมาให้เห็น แต่ในการถ่ายทำละครซีรีส์เราต้องสื่อออกมาให้เห็นชัดเจนอาจจะใช้ความรู้สึกในชีวิตประจำวันมาแสดง แต่ทางกายภาพอินเนอร์ต้องขยายเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ผู้ชมได้รับรู้ว่าเรารู้สึกแบบนั้นจริง
ความท้าท้ายในการแสดง
การแสดงจะดีได้ถ้าเราสื่อความรู้สึกออกมาได้สมจริง ซึ่งนั่นคือการที่เราต้องหมั่นฝึกฝนเสพการเป็นตัวละครที่ได้รับนั้นให้ลึกและเข้าใจมากที่สุด หากทำไม่ได้หรือไม่เข้าใจตัวละครอย่างลึกซึ้งก็อาจเป็นเพียงการแสดงที่แสดงออกมา แต่ไม่ได้แสดงเพราะรู้สึกจริง สิ่งนี้เองเป็นความท้าทายที่นักแสดงทุกคนล้วนต้องทำการบ้านอย่างหนัก ในมุมมองพี่ต้นหลิวมองว่าเรื่องนี้ไม่ยากและไม่ง่าย เพราะควรเสพแบบพอดีไม่มากและไม่น้อยเกินไป ไม่อย่างนั้นจะเหมือนกับตัวละครโจ๊กเกอร์ ที่เขาเสพตัวละครมากเกินไปทำให้เขาไม่สามารถกลับมาเป็นตัวเองในชีวิตจริงได้
ตั้งสติอยู่กับตัวเอง
ในการถ่ายทำใดก็ตามไม่ว่าสิ่งแวดล้อมรอบข้างคนหรือไฟจะเยอะแค่ไหน สิ่งสำคัญคือเราต้องมีสมาธิตั้งสติอยู่กับตัวเองตลอด อย่างพี่ต้นหลิวจะใช้เทคนิคการหลับตาแล้วจินตนาการสร้างกล่องสี่เหลี่ยมของตัวเองขึ้นมา เสมือนว่าเราแสดงอยู่คนเดียวไม่มีใครอยู่ที่นี่ หรืออาจจะหาจุดโฟกัสที่มองไปแล้วรอบข้างเบลอ พอเริ่มถ่ายทำจริงเราจะสามารถแสดงออกมาได้เองอัตโนมัติ
อย่างการเปลี่ยนอารมณ์เพื่อถ่ายทำฉากต่อไป เราต้องพยายามไม่ให้ตัวเองจำอารมณ์ที่ผ่านมาก่อนหน้านั้น ด้วยการผ่อนคลายร่ายกาย เดินคุยเล่นกับคนรอบข้าง หรือดื่มน้ำให้ร่างกายสดชื่น หากเรายังจมปลักกับอารมณ์ความรู้สึกเดิม อาจจะทำให้การถ่ายทำไปต่อไม่ได้ รวมถึงทำให้การแสดงที่สื่อออกมาดูกังวลหรือเครียดได้ แต่สมมุติเราไม่อินกับบทบาทแสดงไม่ได้หรือจำบทไม่ได้ เราจะใช้วิธีจำสถานการณ์ในตัวบทช่วงนั้นว่าตัวละครต้องไปที่ไหน ทำอะไรอย่างไร อยู่กับใครบ้าง หรือเรียกอีกอย่างว่าการใช้จินตนาการเข้ามาร่วมช่วย เพื่อส่งอารมณ์ให้ตัวเองรู้สึกอินอาจจะช่วยไม่ได้มาก แต่สามารถช่วยให้เราแสดงออกมาได้ง่ายขึ้น
ดูแลตัวเองและเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ
ขึ้นชื่อว่านักแสดงต้องดูดีและมีความพร้อมอยู่เสมอ พี่ต้นหลิวมักจะเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพร่างกายตัวเอง เพราะหากเราได้แสดงบทนำของเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ตาม แล้วเราสุขภาพไม่ดีหรือเกิดอาการป่วยเพราะไม่ดูแลตัวเอง อาจส่งผลเสียต่อคนหมู่มาก ซึ่งการถ่ายทำแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายที่สูงคนจำนวนมากต้องมารอคอยเราคนเดียว ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องดูแลร่างกายรักษาสุขภาพอยู่ตลอด เช่น ทานอาหารเสริม ทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ
ปัญหาสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หลายครั้งที่พี่ต้นหลิวพบเจอในกองถ่าย คือเรื่องของระยะเวลาไม่พอต่อการถ่ายทำ ซึ่งเราไม่สามารถบังคับธรรมชาติได้ เช่น แสงหมด สิ่งที่นักแสดงทำได้คือต้องเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองเสมอ พยายามแสดงให้เทคน้อยมากที่สุดหรือประมาณ 2-3 เทค เพื่อให้การถ่ายทำดำเนินต่อไปได้เร็วที่สุด แต่หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการถ่ายทำอีก เช่น ฝนตกหนัก ผู้กำกับอาจจะต้องเปลี่ยนสถานที่จากภายนอกเป็นภายใน หรือปรับเปลี่ยนบทกันที่หน้างาน เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมรับมือกับทุกปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้
นักแสดงฟรีแลนซ์
ปัจจุบันพี่ต้นหลิวเป็นนักแสดงฟรีแลนซ์แบบเต็มตัว สามารถไปแสดงได้ทุกช่องทุกค่ายไม่ติดสัญญารับได้ทุกงาน แต่ต้องมีความทะเยอทะยานสูงเพราะต้องคอยหางานเอง หากเรามีสังกัดอาจจะมีกฎในเรื่องของสัญญาการทำงานที่ต้องอยู่ในกรอบขององค์กรนั้น ข้อดีคือมีผลงานต่อเนื่องและเป็นอีกช่องทางที่ช่วยให้แฟนคลับในองค์กรนั้นมองเห็นเราเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเมื่อเราไม่มีสังกัดยิ่งต้องหมั่นฝึกฝนพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ทั้งเรื่องของบุกคลิกภาพและเรื่องของการแสดง
หรือแม้แต่เรื่อง Followers อย่างตอนนี้ช่อง TikTok พี่ต้นหลิวมีคนเข้าไปติดตามกว่า 389,000 คน จากก่อนหน้านี้เราเล่นลิปซิงค์เพลงแบบคนอื่นทั่วไป แต่ด้วยความบังเอิญวันหนึ่งอยากลอง Cover คอนเทนต์แอคติ้งหรือการแสดงดู เมื่อลงคลิปไปคลิปกลายเป็นไวรัล ทำให้เกิดเป็นความชื่นชอบของกลุ่มซีรีส์วายที่เข้ามาติดตามเราเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้คนรู้จักเราเพิ่มมากขึ้น และได้รับโอกาสที่ดีเข้ามามากมายทั้งงานรีวิวจากสปอนเซอร์หรือโปรเจคซีรีส์ที่เขาติดต่อมาอยากให้เราไปร่วมงาน ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ดีใจมากที่สุด
ก้าวไปอีกขั้น เพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
จากเมื่อก่อนที่เรายังไม่มีผู้ติดตามไม่เป็นที่รู้จัก เวลาเราไปแคสงานซีรีส์มักจะเห็นเพื่อนนักแสดงรอบข้างเขาจะมีแฟนคลับมาเฝ้ารอ คอยนำอาหารขนมมาให้หรือขอถ่ายรูป ซึ่งเราเองจะยืนอยู่ในมุมแอบมองแบบเงียบ ๆ คนเดียวที่เห็นพวกเขามีแฟนคลับแล้วอยากมีแบบพวกเขาบ้าง ผ่านมาถึงวันนี้เรามีคนติดตามและมีผลงานเพิ่มมากขึ้น เวลาไปแคสงานที่ไหนก็ตามทำให้เริ่มมีคนจดจำเราได้ เริ่มเข้ามาทักทายพูดคุยและขอถ่ายรูปที่เป็นอะไรที่ปลาบปลื้มใจที่สุด
ในอนาคตไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะต้องเป็นนักแสดงที่โด่งดัง แต่ขอเพียงมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่องหรือมีกลุ่มเป้าหมายที่มองเห็นตัวตนเรา เพื่อให้เรามีโอกาสต่อยอดงานในเส้นทางนี้ได้เพิ่มมากขึ้น หากใครอยากเดินในเส้นทางสายนี้ ก่อนอื่นต้องหา Passion ตัวเองให้เจอก่อนว่าอยากทำตรงนี้จริงหรือไม่ ถ้ารู้ตัวเมื่อไหร่อย่ารอช้าให้รีบลงมือทำทันที!
พี่ต้นหลิวยังแอบกระซิบอีกว่า ไม่นานเกินรอ เขาจะมีผลงานซีรีส์เรื่องใหม่ให้ทุกคนได้ติดตามกันอีกด้วย หากใครอยากรู้ว่าจะเป็นเรื่องอะไรนั้น สามารถติดตามทุกความเคลื่อนไหวได้ทาง Instagram : tonliew.mtp, TikTok : tonliew.mtp
เมื่อไหร่ที่เรามองหาเป้าหมายของตนเองเจอหรือหาสิ่งที่ตัวเองถนัดและทำได้ดี ขอให้รีบลงมือทำทันที เพราะการตามหา Passion อย่างต่อเนื่อง ได้ลองผิดลองถูกจะช่วยให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น และอย่าลืมหมั่นฝึกฝนคว้าโอกาสที่มาถึงมืออยู่เสมอ เชื่อว่าสักวันทุกคนต้องประสบความสำเร็จในที่สุด สุดท้ายนี้พวกเราขอส่งกำลังใจให้กับพี่ต้นหลิวก้าวขึ้นไปเป็นนักแสดงแถวหน้าที่มีชื่อเสียง ปัง ๆ ยิ่งขึ้นไป!
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก พี่ต้นหลิว-เมธาพัฒน์ ฉิมกุล รุ่นพี่สาขาวิชาภาพยนตร์ คณะดิจิทัลมิเดียและศิลปะภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ