โอกาสคือความท้าทายของพี่ข้าว (Khawwi) รุ่นพี่ BUSEM ม.กรุงเทพ

สาวน้อยผู้มุ่งมั่นคว้าโอกาสจากทุน BU Creative ต่อยอดสู่ Youtuber ที่มีผู้ติดตามมากมาย

          โอกาสคือสิ่งที่เราทุกคนล้วนแสวงหา แต่เราไม่ควรนั่งรอโอกาส เราควรที่จะแสวงหาโอกาสเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ตัวเอง พวกเราขอพามารู้จักกับอีกหนึ่งรุ่นพี่ที่เป็นไอดอลของรุ่นน้องหลายคน เธอมีความมุ่งมั่นในการเรียนและการทำงาน พร้อมเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ อยู่เสมอ

          พี่ข้าว-ณัฐชา ทองสุข รุ่นพี่จากคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ (BUSEM) มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดีกรีเป็นถึงนักศึกษาทุน BU Creative และเจ้าของ Youtube Channel ในชื่อว่า Khawwi ยอดคนดูแตะแสนวิวกันเลยทีเดียว  

          มารู้จักพี่ข้าวที่มีความสามารถรอบด้าน เรียนดี กิจกรรมเด่น ที่สำคัญคือเราขอเจาะลึกเส้นทางการสมัครทุน BU Creative และแชร์ประสบการณ์การเป็น Youtuber ที่มีผู้ติดตามมากมาย ทุกเรื่องราวที่จะได้อ่านกัน พี่ข้าวย้ำกับเราว่าสิ่งที่ทำล้วนเป็น โอกาสในการพัฒนาตัวเอง

เข้าสู่วงการเด็กทุน BU Creative ทุนสร้างสรรค์ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

          ด้วยความที่เป็นคนที่ชอบเรียนรู้ ทำกิจกรรมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก่อนตัดสินใจเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย “พี่ข้าว” จะหาข้อมูลก่อนเสมอ จนได้มาพบกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และรู้จักทุน BU Creative ในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย

          สาเหตุที่เธอเลือกสมัครทุน BU Creative พี่ข้าวบอกกับเราว่า เพราะเปิดกว้างให้สำหรับคนที่อาจจะไม่เก่งทางด้านวิชาการ หรืออาจจะเป็นคนที่มีผลงานทางวิชาการน้อย อีกอย่างที่พี่รู้สึกคือความคิดสร้างสรรค์เป็นอะไรที่กว้างมาก ซึ่งไม่เหมือนกับทุนความสามารถพิเศษ เพราะความคิดสร้างสรรค์สามารถเอาไปประยุกต์ในหลายด้านได้ เป็นสิ่งที่น่าสนใจ และอีกหนึ่งเหตุผลที่สมัครทุนนี้คือ พี่ข้าวอยาก Challenge ตัวเองว่าเรามีความสามารถมากพอที่จะได้รับทุนนี้หรือไม่ และอยากรู้ว่าจะมีการวัดผลความคิดสร้างสรรค์จากอะไร จึงตัดสินใจสมัครทุน

ไม่ยากแต่ทุกอย่างต้องมีการเตรียมตัว

          เมื่อคิดว่าจะลองสมัครทุน BU Creative พี่ข้าวแชร์วิธีการเตรียมตัวให้เราฟังว่า การเตรียมตัวก่อนยื่นขอทุน คือต้องทำ Portfolio และต้องทำอย่างสร้างสรรค์มากที่สุด ผลงานส่วนใหญ่ที่ใส่เข้าไปใน Portfolio จะแบ่งเป็นด้านต่าง ๆ ก็จะมีเกี่ยวกับด้านภาษา ด้านการพูด ด้านกิจกรรม และอื่น ๆ แต่ละงานหรือประสบการณ์ที่ผ่านมา พี่ข้าวจะเขียนบรรยายไปว่า เราใส่ความคิดสร้างสรรค์อะไรกับผลงานชิ้นนั้นบ้าง ผลงานนั้นมันมีประโยชน์อะไรกับการที่เราจะเข้ามาเรียนในคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ (BUSEM)

          ตัวอย่างเช่น งานกีฬาสีโรงเรียนที่พี่ข้าวได้เข้าร่วมตั้งแต่สมัยมัธยม พี่ข้าวก็เขียนว่าเราได้เรียนรู้การเป็นผู้นำ ได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับคนอื่น แล้วก็ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้านต่าง ๆ ในการจัดงานหรือหน้าที่ที่ได้ทำงานกีฬานั้นสะท้อนการได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และได้ทักษะอะไรบ้าง

สอบสัมภาษณ์มีแค่ผลงาน…คงยังไม่พอ

          พอถึงวันที่สอบสัมภาษณ์พี่ข้าวบอกว่า สิ่งสำคัญคือ วิธีคิด หรือ Mindset ที่เราต้องสื่อสารออกไป ทำให้ทางคณาจารย์เห็นว่าเราว่าเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์เหมาะกับทุน BU Creative แต่ทั้งนี้ดีที่สุดก็คือเป็นตัวของตัวเอง ทั้งบุคลิกท่าทาง แม้วันสอบสัมภาษณ์พี่จะต้องเรียบร้อย แต่ว่าพี่ก็เรียบร้อยในแบบที่เป็นตัวของเราเอง

          ขณะที่เข้าไปในห้องสัมภาษณ์เวลาที่คณะกรรมการถาม เราต้องตอบไปด้วยความมั่นใจในความคิดของตัวเอง ในการสอบสัมภาษณ์ดีที่สุดคือการเตรียมตัว แต่ไม่ได้เตรียมตัวเรื่องเนื้อหา เช่น มหาวิทยาลัยมีกี่ตึก สีอะไรบ้าง แต่ต้องเตรียมตัวในเรื่องของสิ่งที่เราต้องการนำเสนอมากกว่า ว่าเราอยากนำเสนออะไรกับคณะกรรมการ            

          พวกเราได้ยินมาว่าต้องมีการเขียนเรียงความด้วย พี่ข้าวเล่าให้ฟังว่า พี่ไม่ได้เขียนเรียงความว่าทำไมถึงต้องเข้าคณะนี้หรือทำไมมหาวิทยาลัยต้องเลือกเรา แต่พี่เขียนสิ่งที่เราอยากจะทำ แล้วอะไรคือสิ่งที่มหาวิทยาลัยจะได้จากเรา อย่างเช่น พี่เข้าคณะเกี่ยวกับการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ พี่เขียนว่าเราอยากทำธุรกิจอะไร ธุรกิจนั้นจะต้องสร้างสรรค์ เป็น win-win ที่บอกไปว่า เราได้สร้างธุรกิจ มหาวิทยาลัยก็จะได้ชื่อเสียงด้วย

ตอบคำถามที่ถามกันบ่อยเกี่ยวกับการเป็นเด็กทุน

          ทุน BU Creative ขอยากจริงไหม ? พี่ข้าวก็ยังยืนยันให้เราฟังอีกครั้งว่า ไม่ยาก ถ้าเราสามารถทำให้ตัวเองมีความแตกต่าง โดดเด่นจากคนอื่นได้ อีกอย่างที่สำคัญคือทางเงื่อนไขทุนไม่ได้มีเกณฑ์กำหนดว่าเกรดต้องได้สูงมากขนาดนั้น แต่เราต้องแสดงให้อาจารย์เห็นว่าความคิดสร้างสรรค์ของเราคืออะไร และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับอะไรอื่น ๆ ได้อีก

          ได้ทุนแล้วเรียนหนักสองเท่าจริงหรือ ? พี่ข้าวรีบปฏิเสธแบบแอบยิ้มไปด้วยว่า ไม่เลย ทุนนี้ไม่โหดอย่างที่ทุกคนคิด ไม่ได้เรียนหนัก แต่ได้รับโอกาสใหม่ ๆ มากกว่า พอเราเป็นเด็กทุน BU Creative อาจารย์ก็จะส่งงานต่าง ๆ มาให้เราทำ ซึ่งตรงนี้พี่มองว่ามันคือโอกาสในการพัฒนาตัวเอง และที่สำคัญเราไม่ได้เรียนในห้องอย่างเดียว เราได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง

จากเด็กทุนสู่การเป็น Youtuber

          แล้ววันหนึ่งจากเด็กทุนธรรมดาคนหนึ่งที่แค่อยากแชร์เรื่องทุน BU Creative ที่พี่ข้าวได้รับมาให้น้องรุ่นหลังได้ฟัง แต่ใครจะรู้ คนจะดังอะไรก็ฉุดไม่อยู่ !!! มาฟังพี่ข้าวเล่าถึงการเริ่มเข้าวงการ Youtuber กันดีกว่า

          พี่ข้าวเล่าให้ฟังว่า ตอนแรกที่เริ่มทำยูทูบคือเราแค่อยากจะแชร์ว่าทุนนี้ดีอย่างไร อยากจะแชร์ให้น้อง ๆ ฟังเล่น ๆ แต่พอเราได้ทำคลิปขึ้นมาคลิปหนึ่งแล้วมีคนอยากฟังต่อ ยอดวิว ยอดคนกดติดตามเพิ่มขึ้น จนทำให้เราต้องมาศึกษาการทำ Youtube อย่างจริงจังว่าในการถ่ายทำ การพูด การทำคอนเทนต์ต้องทำยังไงบ้าง เหมือนเป็นการพัฒนาตัวเองในอีกทางหนึ่งเหมือนกัน

          การทำยูทูบต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการคิดหัวข้อ คิดประเด็นที่จะนำเสนอในแต่ละคลิป จากคลิปแรกที่ทำ ขณะนี้พี่ข้าวก็ทำคลิปอื่น ๆ ตามมาเรื่อย ๆ เป็นเรื่องราวไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่น ทั้งการเรียน การอยู่หอ การท่องเที่ยว และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สำคัญคือความสม่ำเสมอในการทำคลิปที่ลงอย่างต่อเนื่อง และที่ได้ใจคนดูคือ การเป็นตัวของตัวเอง นำเสนอความเป็นตัวเอง และถ่ายทอดสิ่งต่าง ๆ ให้คนดูรู้สึกว่าเขาสบายใจที่ดูเรา นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้พี่ข้าวมียอดคนติดตามหลายหมื่นได้ในวันนี้ และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผลงานสุดปัง กับ U-Store Brand Ambassador

          อีกหนึ่งผลงานที่สร้างความภูมิใจให้กับพี่ข้าว คือได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 20 Brand Ambassador ของ U-Store ซึ่งเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยภารกิจหลักของ Brand Ambassador คือ นำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ Apple และบริการของร้าน U-Store by SPVI  ซึ่งการประกวดครั้งนี้มีผู้เข้าแข่งขันหลายร้อยคนจากหลากหลายสถาบันทั่วประเทศ 

โอกาสคือความท้าทายของชีวิต

          จากการได้รับทุน BU Creative จนต่อยอดมาทำ Youtube ทำให้พี่ข้าวยังมีโอกาสใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิตอยู่เสมอ พี่ข้าวเล่าให้เราฟังด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า พี่รู้สึกภาคภูมิใจมาก เพราะว่าจากจุดเริ่มต้นที่พี่อยากแค่ Challenge ตัวเอง ว่าเราจะได้ทุนนี้ได้ยังไง จะได้ไหม และอีกอย่างคือเราแค่อยากรู้ว่าทุนนี้จะวัดความคิดสร้างสรรค์ของเราอย่างไร เกณฑ์การตัดสินทุนเป็นอย่างไร แล้วพอเราได้รับทุน BU Creative เรารู้สึกว่าเราน่าจะมาถูกทางแล้ว อีกทั้งการเรียนในคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ พี่ข้าวก็ทำทุกโอกาสที่ได้รับมาอย่างเต็มที่

          พี่ข้าวบอกกับเราอีกว่า “สำหรับใครที่มีความคิดสร้างสรรค์หรือมีความคิดที่แปลกใหม่ ไม่ต้องคิดว่ามันเป็นความคิดที่ผิดหรือแปลก เพียงแค่ไม่มีคนอื่นทำ นั่นมันคือข้อดีแล้วที่เราสามารถตีโจทย์อะไรบางอย่างที่คนอื่นไม่สามารถทำได้ การกล้าทำสิ่งใหม่ แม้ไม่มีใครทำ ไม่ใช่เรื่องผิด แต่นั่นคือโอกาสที่จะทำให้เราแสดงศักยภาพออกมาได้เต็มที่ สู้ ๆ ค่ะ”

          เรารู้สึกอบอุ่น หัวใจพองโต ได้รับพลังงานจากพี่ข้าวมากมาย ขอเพียงเราใส่ใจในสิ่งที่ทำ คว้าโอกาสให้ตัวเอง ลงมือทำไปเรื่อย ๆ เราจะสนุกกับสิ่งที่ทำ เป็นตัวของตัวเอง ได้คิดสร้างสรรค์สิ่งที่ดี แล้วงานที่เราทำจะเติบโตงอกงาม ขอเพียงกล้าที่จะเปิดโอกาสให้ตัวเองนะคะทุกคน

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากโครงการ Brand Ambassador U-store Facebook Page U.Store by SPVi และพี่ข้าว-ณัฐชา ทองสุข นักศึกษาคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ (BUSEM) มหาวิทยาลัยกรุงเทพ นักศึกษาทุน BU Creative และเจ้าของ Youtube Channel ในชื่อว่า Khawwi

Writer

มนุษย์เป็ด ที่ชอบกินบุพเฟ่ต์

Writer

ทำทุกอย่างให้เหมือนเป็นโอกาสสุดท้าย

Writer

Believe in what you prayed for

Writer

ฝึกเขียน ฝึกถ่ายภาพ อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ และจะเต็มที่กับสิ่งที่กำลังทำอยู่

Photographer

คว้าทุกโอกาสที่เข้ามาในชีวิต

Photographer

ความผิดพลาดคือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ