Influencer งานสบาย แค่ถ่ายรูป ทำคลิปไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เงิน จริงหรือไม่ ความจริงบนเส้นทางนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครหลายคน กับเธอคนนี้ที่บอกได้เลยว่างานนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย มันคือความพยายาม ความตั้งใจ และการเอาใจทุ่มเทลงไปเกินร้อย
นี่คือเรื่องราวการทำงานเป็น Influencer แบบฉบับของ พี่สโนว์เบลล์–สุธาสินี ศรีสว่าง รุ่นพี่ศิษย์เก่าสาขาโฆษณาดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่เธอมาเล่าให้เราฟังอย่างลงลึก แบ่งปันความรู้ในฐานะรุ่นพี่อย่างเต็มที่
ใจรักนิเทศศาสตร์
เริ่มต้นเกิดจากความชอบส่วนตัว ที่รู้ตัวเองตั้งแต่เรียนมัธยมว่าเราถนัดทางด้านนิเทศศาสตร์ และก็ได้มา Open House ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพตั้งแต่มัยยมชั้นปีที่ 5 ก็เลยทำให้มั่นใจมากขึ้นไปอีกว่า นี่แหละคือเส้นทางของเราจริง ๆ ไม่ว่าจะพวกร้องเพลง เต้น การทำงาน การคิดคอนเทนต์คืออันนี้แหละใช่ทางของเราจริง ๆ
เพราะการได้เข้ามา เหมือนเราได้เจอที่ของเรา ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สิ่งแวดล้อม ได้ค้นพบคนที่มีสไตล์เดียวกันกับเรารวมมาไว้ในที่เดียวกัน ถ้าถามว่าทำไมต้องนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพเท่านั้น เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ความพร้อมด้านการเรียนการสอน ศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จด้านสายงานนี้มีเยอะมาก ทำให้เป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากเรียนที่นี่
เรียนรู้นิเทศศาสตร์กับการเป็น Influencer และต่อยอดธุรกิจ
พี่ต้องบอกก่อนว่าพี่เรียนเกี่ยวกับโฆษณา เน้นความคิดสร้างสรรค์ ผสมผสานฟีลแบบ Marketing แล้วบอกเลยว่าสาขาที่พี่เรียนคือเอามาใช้กับงาน Influencer ได้แบบตรงปกมาก เพราะงานของเราก็เหมือนการขายของ เช่น ขายยังไงให้ดูมีความแตกต่างและก็สร้างจุดขายได้
จริง ๆ การที่พี่เลือกเรียนสาขาโฆษณาก็คือก่อนจะมาทำงานเป็นอินฟลูเอนเซอร์ คืออยากมีธุรกิจสักอย่างหนึ่ง แต่ก็ยังคงความเป็นนิเทศศาสตร์ผสมผสานกับการทำธุรกิจอยู่ ได้เรื่องความคิดสร้างสรรค์ ความแปลก และความน่าสนใจของการผลิตคอนเทนต์เพิ่มเติมด้วย
ชีวิตเด็กกิจกรรม ได้ทักษะ Soft Skill
พี่เริ่มทำกิจกรรมกับมหาวิทยาลันกรุงเทพตั้งแต่ยังไม่เรียนเลยก็คือ การได้มาเข้าร่วม Workshop ชิงทุนกับทาง โครงการ BUCA Talent คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ แต่ก็ไม่ติดทุน แต่ด้วยความชอบแล้วก็อยากเรียนอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจสมัครกับที่นี่เลย
ช่วงวันลอยกระทงก็ได้มีโอกาสไป ประกวดแข่งขันน
Influencer งานสบาย แค่ถ่ายรูป ทำคลิปไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เงิน จริงหรือไม่
สำหรับพี่คือไม่จริงเลย งานสายนี้บอกเลยว่าจริง ๆ มันมีดีเทลเยอะมาก มันก็ต้องเริ่มจากการรับบรีฟมาจากลูกค้า การคิดคอนเทนต์ การวางสคริป การถ่าย การตัดต่อ บางทีงานหนึ่งงานมีอุปสรรค ใช้เวลาเป็นเดือน ๆ ในการทำก็มี ปรับแก้แล้วแก้อีก บอกเลยคำว่าทำงานไม่กี่ชั่วโมงแล้วได้เงินไม่มีอยู่จริง
พอทำหน้ากล้องเสร็จก็ต้องมีการทำงานหลังบ้านไปอีก ไม่ว่าจะคอยดูแต่ละคลิปว่ามีผลตอบรับเป็นยังไงบ้าง ยอดฟอล ยอดไลค์เพิ่มขึ้นไหม เพื่อนำไปปรับใช้ในงานของเราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น บอกเลยว่าไม่ง่าย
เจาะลึกเบื้องหลังการเป็น influencer
การทำงานอย่างที่บอกไปข้างต้น ก็คือเรามีการดีลงานกันก่อน เช่น สินค้าบางตัวมีการจ้างหลาย Agency แต่ถ้าเราส่งเรทค่าตัวของเราไปให้ใคร แล้วเราก็จะไม่ส่งซ้ำไปให้คนใหม่ เพราะยังไงสายงานลูกค้าก็คือคนเดียวกันอยู่ดี
หลังจากนั้นทาง Agency ก็จะไปขายงานให้กับลูกค้าของเขา ถ้าเขาเลือกเราก็จะได้รับบรีฟมาเพื่อเริ่มการทำงาน ก่อนถ่ายก็ต้องมีการส่งให้ทางลูกค้าดูก่อน เราจะออกแบบหรือทำคลิปประมาณไหน ถ้าผ่านก็คือทำได้เลย แต่ถ้าไม่ผ่านทางแบรนด์ก็จะแก้ให้บ้าง หรือบางแบรนด์ก็ให้เราแก้แล้วนำมาเสนอใหม่
ต่อไปก็เริ่มทำคลิปวิดีโอตามแบบที่เราส่งให้ทางแบรนด์ดูได้เลย ข้อดีของการทำสคริปต์มาไว้แล้วบอกได้เลยว่างานจะเสร็จไวมาก พอถ่ายเสร็จก็มานั่งตัดคลิปวิดีโอหรือการลงเสียง การใส่เพลง เพิ่มเล็กน้อยได้ แต่ถ้ามากเกินไปอาจจะต้องกลับมาแก้ได้
จากนั้นก็ส่งดราฟให้เขาตรวจทางลูกค้าก็ใช้เวลา 2-3 วัน หรือเป็นอาทิตย์ก็มี พอผ่านปุ๊บ ลงเสร็จเรียบร้อย บางแบรนด์เราก็ต้องมานั่งเก็บผลลัพธ์ว่าคลิปนั้น มี Insight ยังไงบ้างให้กับทางแบรนด์ด้วย
ขั้นตอนการรับเงินก็จะเป็นประมาณ 30 วันหลังจากการลงคลิปหรือบาง Agency ก็จะเบิกมาให้เราล่วงหน้าเลยก็มี แต่ส่วนใหญ่เราก็ต้องรอเป็นเดือนมากกว่า
ทัศนคติที่มีต่องานสาย Influencer
งานสายนี้ใครก็สามารถก้าวเข้ามาทำได้ แต่จุดแข็งก็คือเราต้องมีวิธีที่แบบเราจะทำยังไงถึงเราสามารถจะอยู่ได้นาน ก้าวกระโดดดังขึ้นได้อีกและแตกต่างจากคนอื่น สำหรับพี่นะคุณภาพของงานสำคัญสุด ๆ แล้ว
ไม่จำเป็นต้องแบบดังเวอร์หรืออะไร คือถ้าทำงานที่มีคุณภาพ คอนเทนต์ที่ดี ยังไงลูกค้าก็เข้าแน่นอน และงาน Influencer ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับความสวยความงามเท่านั้น มีให้ทำเยอะมากคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นเที่ยว กิน รีวิวคอนโด คือมีให้เลือกทำเยอะมาก แต่เลือกสิ่งที่เราถนัดดีที่สุด แค่สร้างความแตกต่างก็พอแล้ว
อุปสรรคของงานสาย Influencer
อุปสรรคเลยก็คือยอดวิว และก็ Feedback ก็คือพี่อ่ะเอาตรง ๆ ก็ไม่ได้แมสทุกคลิปนะ บางส่วนก็อยู่ที่บรีฟของแบรนด์ด้วย ซึ่งเพื่อนอินฟลูหลายคนคงเข้าใจ บางทีบรีฟงานค่อนข้างจะฟิกซ์มาให้เรา ทำให้เราไม่ค่อยแสดงตัวตนออกมา หรือเราอยากจะรีวิวแบบของเราเอง เขาไม่ชอบ ก็เลยทำให้มากดดันที่ยอดวิว เหมือนคลิปที่ขายของเกินไปคนดูก็จะดูออกว่าแบบขายของ เพราะตอนนี้ผู้บริโภคก็ค่อนข้างมีความรู้มากขึ้น
อีกอย่างหนึ่งเลย ก็คือเรทค่าตัวของตัวเอง บางทีเราเจออินฟลูที่เขากดเรทตัวเองเพื่อที่อยากจะได้งานเยอะ ๆ บางทีก็ทำให้เราโดนกดดัน แต่เราก็ต้องมีวิธีการรับมือ การต่อรอง และยืนยันในการผลงานของเรา ลูกค้าจะได้งานที่มีคุณภาพจริง ๆ
การพัฒนาตนเองแบบไม่มีที่สิ้นสุด
ต้องดูและศึกษาให้เยอะ ๆ คือถ้าให้พี่ย้อนกลับไปดูคลิปแรก ๆ ที่ทำก็คือต่างกันมาก เพราะพี่ทำมาเป็นปีทำให้รู้ว่าจุดไหนควรปรับ เหมือนก็อยากแนะนำว่าให้เราดูคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่าเรา ดูแนวทางว่าเขาทำประมาณไหน แล้วก็นำมาปรับใช้ให้เข้ากับตัวเราเอง ทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการทำต่อไป อีกอย่างที่พี่ชอบทำเลยก็คือลิสต์เป้าหมายไว้ในโน้ตว่าปีนี้ฉันต้องทำอะไรบ้าง ต้องการยอดฟอล ยอดไลค์เพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่ประมาณนี้
ส่งต่อมุมคิดสร้างสรรค์ในสายงาน Influencer
สำหรับทุกคนที่สนใจนะคะ ก็อยากจะบอกว่าให้เริ่มเลย ลองผิดลองถูก ประสบการณ์จะสอนตัวเราเอง มันจะผ่านไปได้ มันจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ ไม่ต้องรอวันที่พร้อม เช่น การมีกล้องดี ๆ โลเคชั่นสวย ๆ คือทำไปก่อนเดี๋ยวก็รู้เอง ไม่ว่าจะคอนเทนต์ถนัดหรือไม่ถนัดก็อยากแนะนำว่าให้ทำไปก่อน เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ตัวเราเอง
ท้ายสุดพี่ก็ขอฝากช่องทางการติดตามไว้ด้วย IG snowwwbelle และ Tiktok snowwwbelle แวะมากดไลค์ กดแชร์ได้ และฝากเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะทุกคน!
สิ่งที่พวกเราได้เรียนรู้คือทุกงานมีรายละเอียด มีเบื้องหลัง ที่ต้องใช้ความมุ่งมั่น ทุ่มเท ความพยายามที่ต้องทำต่อเนื่องและสม่ำเสมอ พวกเราขอเอาใจช่วยทุกคนให้ลองเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ แบบไม่ต้องรอเวลา เราเชื่อว่าสิ่งที่ได้แน่นอนคือความรู้ ความท้าทาย และความสุขในการใช้ชีวิต
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ พี่สโนว์เบลล์–สุธาสินี ศรีสว่าง รุ่นพี่ศิษย์เก่าสาขาโฆษณาดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ