วันที่สวยงามของแต่ละคนเป็นอย่างไร วันที่ได้มองฟ้า วันที่ได้กินของอร่อย วันที่ได้ทำงานอย่างเป็นสุขใจ วันที่ได้พูดคุยกับผู้คนธรรมดา วันนี้คือวันนี้ เมื่อวานคือเมื่อวาน
Perfect Days (2024) หยุดโลกเหงาไว้ตรงนี้ คือภาพยนตร์ที่กำกับและเขียนบทโดย วิม เวนเดอร์ (Wim Wenders) ผู้กำกับและนักทำหนังชาวเยอรมันระดับปรมาจารย์ และร่วมเขียนบทกับ ทาคุมะ ทาคาเซกิ (Takuma Takasaki) เป็นภาพยนตร์ที่ร่วมมือกันระหว่างญี่ปุ่นและเยอรมัน

ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ในปี 2024 สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม ก่อนหน้านี้นักแสดงนำของเรื่องอย่าง โคจิ ยาคุโช (Koji Yakusho) คว้ารางวัลนักแสดงนำชาย (Cannes Best Actor Award) จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ และรางวัลภาพยนตร์ของประเทศญี่ปุ่น Japan Academy Film Prize ที่ได้ทั้งรางวัลนักแสดงนำชาย และผู้กำกับยอดเยี่ยม
เรื่องราวเล่าถึงฮิรายามะ (Hirayama) คุณลุงที่มีอาชีพล้างห้องน้ำของกรุงโตเกียว (Tokyo Toilet) เขาอยู่อย่างโดดเดี่ยว ใช้ชีวิตเพียงลำพัง
เราอยากชวนคิด ชวนมองเรื่องราวของ Perfect Days ด้วยปรากฎการณ์เชิงสังคมที่ขณะนี้หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะสังคมผู้สูงวัย (Aging Society) คนสูงวัยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เด็กเกิดน้อยลง โดยใคร่ครวญถอดบทเรียนใน 7 มุมคิดที่น่าเรียนรู้เกี่ยวกับผู้สูงวัยและการใช้ชีวิตอย่างมีความหมายในวันที่อายุมากขึ้น

บ้านอันอบอุ่นใจ
การมีบ้านที่พักอาศัยคือปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการใช้ชีวิตของมนุษย์ ภูมิหลังของครอบครัวตัวละครอย่างคุณลุงฮิรายามะ เขาเป็นใคร มาจากไหน อาจจะปรากฎให้เห็นในหนังเพียงเศษเสี้ยว ซึ่งต้องใช้การสังเกต การตีความจากผู้ชม เขาอาจจะเคยมี เคยเป็น เคยใช้ชีวิตอย่างคนที่มีฐานะดี รายล้อมด้วยครอบครัว ทว่าสิ่งที่เราเห็นคือในช่วงที่อายุมากขึ้น คุณลุงฮิรายามะกลับเลือกอาศัยอยู่คนเดียว ที่บ้านเช่า สองชั้น ตั้งอยู่ใกล้กับ Tokyo skytree หนึ่งในแลนด์มาร์กของกรุงโตเกียว
ภายในบ้าน จัดแต่งอย่างเรียบง่าย ทุกอย่างถูกจัดวางเฉพาะสิ่งที่จำเป็นในการใช้ชีวิต ที่นอน ชั้นหนังสือ ต้นไม้ขนาดเล็ก พื้นที่ทำธุระส่วนตัว ห้องครัว มีชีวิตอยู่อย่างกินน้อย ใช้น้อย เขาตื่นนอนแต่เช้าตรู่ ด้วยเสียงกวาดถนน การตื่นเช้า สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่ดื่มหนัก ไม่สูบบุหรี่ ไม่เจ็บป่วย ขยันขันแข็งในการทำงาน เป็นคนอายุมากที่ยังเข้มแข็ง ไม่เป็นภาระใคร สามารถใช้ชีวิตด้วยตนเองได้

ตัวละครในเรื่องจึงถูกจัดวาง (Place) ให้อยู่ในวิถีชีวิตของความพอเหมาะพอดี ความเรียบง่ายของบ้านที่อยู่อาศัยที่เป็นเชิงกายภาพ การใช้ชีวิตอย่างพึ่งพาตนเอง และการมีความมั่นคงจากภายในจิตใจคือบ้านที่เป็นเกราะป้องกันชั้นดีให้ผู้มีอายุมากยืนหยัดอย่างมั่นคงในสังคม
ความหลงใหลในสิ่งที่ทำ
ความสามารถในการทำงานอย่างมุ่งมั่น สงบ งดงาม เต็มเปี่ยมด้วยความตั้งใจ (Passion) คุณลุงทำให้เห็นว่าการล้างห้องน้ำ เป็นงานที่ใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ สุภาพ มีสมาธิ อยู่กับปัจจุบัน ให้ความเคารพกับผู้คน สถานที่ ไม่ละเลยแม้กระทั่งการตอบกลับข้อความเล็กน้อยที่ส่งถึง
ภาพยนตร์ฉายภาพให้เห็นความรื่นรมย์ในการทำงาน ทั้งการปัด กวาด เช็ด ถู เขาใส่ใจกับทุกรายละเอียด ล้างห้องน้ำให้สะอาดที่สุดในทุกวัน เมื่อเปรียบเทียบกับตัวละครที่เป็นคนหนุ่ม ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน มองว่าการล้างห้องน้ำเป็นงานที่ไม่น่าอภิรมย์ หรือสาวพนักงานบริษัทที่หน้าตาหมองเศร้าที่คุณลุงพบเจอที่สวนสวนสาธารณะ
การล้างห้องน้ำก็เปรียบเสมือนการชำระล้างจิตใจในทุกวัน เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ เป็นงานที่บรรเทาความทุกข์และเพิ่มความสุขให้กับผู้คน ในขณะเดียวกันก็อาจจะช่วยเยียวยาความโดดเดี่ยวที่ซ่อนลึกอยู่ภายในจิตใจของเขาด้วยเช่นกัน

ในวัยสูงอายุ ความสามารถในการทำงานได้ด้วยความกระตือรือร้น เป็นสิ่งที่สร้างให้ผู้สูงวัยมีความเข้มแข็ง (Active Aging) ชีวิตมีคุณค่าด้วยการทำงาน การลงมือทำ ใช้แรงกาย ได้เคลื่อนไหว ก็เปรียบเสมือนการสร้างสุขภาพกายให้แข็งแรง ซึ่งทำให้สุขภาพใจเข้มแข็งตามไปด้วย นี่อาจจะบอกเป็นนัยได้ว่า อย่างน้อยผู้สูงวัยควรมีกิจกรรมหรือมีงานที่หลงใหล ทำอย่างต่อเนื่อง และแม้ว่าเราจะยังไม่สูงวัย การมีสิ่งเล็ก ๆ งาน กิจกรรมที่เราหลงใหล ได้เรียนรู้ และลงมือทำสิ่งนั้น ก็ทำให้ชีวิตเปี่ยมไปด้วยคุณค่าเช่นกัน
ถักทอสายสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัว
ความสุขเมื่อได้อยู่คนเดียวคือสิ่งที่เราสัมผัสได้จากการใช้ชีวิตของคุณลุง บางครั้งในฐานะคนดู เรากลับรู้สึกว่าอยากดูวิถีการใช้ชีวิตของคุณลุงที่ไหลไปกับเวลา โดยที่ไม่มีอะไรมาแทรก ทว่าความสัมพันธ์กับผู้คน (People) การติดต่อสื่อสาร การพูดคุย ออกไปพบปะคนรู้จัก สานสัมพันธ์ แม้ว่าจะเป็นการพบปะกับผู้คนที่คุ้นเคย ใช้เวลาในสถานที่เดิม ก็ยังจำเป็นเสมอ ในภาพยนตร์ เราจะเห็นคุณลุงพบเจอผู้คนเดิม ๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่มีอะไรมากกว่าการพูดคุยเพียงชั่วครู่ แล้วต่างคนก็ต่างใช้ชีวิตของตนเอง ไม่ได้สร้างภาระ ไม่มีความอึดอัดใจ เป็นความสัมพันธ์ที่มีระยะห่าง ทว่างดงาม

คุณลุงใช้การฟังอย่างลึกซึ้งในการสานสัมพันธ์ มากกว่าการพูดคุย ทั้งเพื่อนร่วมงานที่เป็นรุ่นน้อง เขาเป็นผู้ใหญ่ที่รับฟังมากกว่าพูดแนะนำ สั่งสอน ขณะที่ความสัมพันธ์กับหลานสาว การรับฟังก็ยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ปัญหาภายในจิตใจของหลานคลายลง เพราะการรับฟังเสียงของคนรอบตัว เสียงของธรรมชาติ เสียงของบรรยากาศของเมือง ใส่ใจสิ่งละอันพันละน้อย การสบตากับชายชราที่ไร้บ้าน เก็บต้นไม้เล็กที่ขึ้นข้างทางมาดูแล อ่านหนังสือ สิ่งเหล่านี้คือการถักทอสายสัมพันธ์กับตัวเอง และผู้อื่น การรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของที่ใดที่หนึ่ง ช่วยให้คนเรามีอายุยืนยาว
วางใจให้สงบในการแก้ไขปัญหา
ปัญหาในการใช้ชีวิตมีอยู่ทุกวัน แต่ท่าทีในการรับมือกับปัญหา (Problem) นั่นคือการวางใจให้สงบ แก้ไขปัญหาอย่างเรียบง่าย คุณลุงช่วยเหลือเด็กที่นั่งร้องไห้ในห้องน้ำ เพราะหลงทางกับแม่ ให้เงินเพื่อนรุ่นน้อง ให้ที่พักกับหลานสาว ตอนที่เธอหนีออกจากบ้าน ปัญหาเล็กน้อยที่เกิดขึ้น ก็ค่อยแก้ปัญหาไป งานล้างห้องน้ำ บางคนอาจจะมองเป็นงานธรรมดา แต่สำหรับตัวเขานี่คืองานที่มีความหมายต่อชีวิต
แม้ในบางครั้งจะมีวันที่ไม่สวยงามบ้าง เขาก็เยียวยาตัวเองด้วยกิจวัตรประจำวันที่เรียบง่าย ทำความสะอาดบ้าน อ่านหนังสือ อาบน้ำ ล้างรูปถ่าย ฟังเพลงที่ชอบ มองท้องฟ้า สังเกตชีวิตประจำวันของผู้คน เด็กนักเรียนที่ข้ามถนนกำลังกลับบ้าน เพราะการถอยตัวเองออกมา แล้วเป็นผู้สังเกตการณ์ชีวิต ทำให้ตระหนักรู้และไม่จมไปกับปัญหา นี่อาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเรียนรู้สำหรับคนที่กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงวัยที่มากขึ้น คือการเฝ้ามอง สังเกตชีวิตให้มากขึ้น

ความคิดและมุมมองการใช้ชีวิต
ชีวิตคงคล้ายกับการถ่ายรูป เราจัดองค์ประกอบชีวิต เลือกมุมในการมองชีวิตได้ (Perspective) คุณลุงฮิรายามะพกกล้องฟิลม์ติดตัวเป็นประจำ ทุกครั้งที่นั่งในสวนสาธารณะเขาจะสังเกตแสงแดดที่ส่องลอดผ่านต้นไม้ และบันทึกภาพห้วงขณะของปัจจุบัน ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า โคโมเรบิ (Komorebi) ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น เพราะโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การกลับมาอยู่กับลมหายใจ และใช้ชีวิตให้ช้าลงคือความงดงามของชีวิต
ขณะที่ขับรถเขาจะสังเกตผู้คนและวิถีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการนั่งในร้านอาหาร ได้ยินเสียงบรรยากาศคนคุยกัน บทสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างขี่จักรยานกับหลานสาว ล้วนเป็นการพูดคุย สื่อสารถึงปรัชญาการใช้ชีวิต เน้นย้ำวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่มีโซเชียลมีเดีย ไม่ไขว่คว้า ไม่ดิ้นรน ไม่ต้องการชื่อเสียง เกียรติยศ หรือเงินทองมากมาย โลกที่เรียบง่ายของคุณลุงคือโลกคนละใบกับใครหลายคน การแยกชีวิตออกเป็นส่วน ชีวิตการทำงาน ชีวิตส่วนตัว แต่ละส่วนมีมุมในการมองที่แตกต่างกัน
เราเห็นชีวิตที่วนลูปของเขา ตื่นนอน ทำงานล้างห้องน้ำ อาบน้ำ กินข้าว อ่านหนังสือ ฟังเพลง นั่งในสวนสาธารณะ ถ่ายภาพ พูดคุยกับคนบ้างเล็กน้อย จนไปถึงอ่านหนังสือและนอน วนเวียนอย่างนี้ เมื่อปรากฏบนจอภาพยนตร์ บางคนอาจจะมองว่าน่าเบื่อ บางคนอาจจะมองว่างดงาม ภาพยนตร์เปิดพื้นที่ให้เราได้ครุ่นคิด ถกเถียงและทบทวนชีวิตของตนเอง เพราะในชีวิตจริงของคนเราก็เรียบง่าย น่าเบื่อ และธรรมดาแบบนี้ โดยเฉพาะเมื่อเราสูงวัยมากขึ้น ชีวิตที่วนไปมา ซ้ำไปซ้ำมา เป็นชีวิตที่เราต้องเรียนรู้และรับมือกับความน่าเบื่อของชีวิตด้วยความเข้าใจ

การอยู่กับปัจจุบันคือของขวัญที่งดงาม
เวลาเกิดปัญหา ผู้ใหญ่หลายคนมักจะสอนเราว่า ให้อยู่กับปัจจุบัน (Present) ฉากหนึ่งของภาพยนตร์ที่คุณลุงพูดคุยกับหลานสาวว่า “วันนี้คือวันนี้ เมื่อวานคือเมื่อวาน” ถ้อยคำไม่กี่คำ พูดง่าย ทว่าทำยาก คนอายุไม่มากอาจจะโต้แย้งอยู่ในใจ
ศิลปะการใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่มีในหลักสูตรใด ไม่มีในห้องเรียน เรามักจะถูกสอนให้เร่งรีบ ต้องเรียนหนังสือให้เก่ง ต้องประสบความสำเร็จ แต่สำหรับบางคน เขาอาจจะต้องการเพียงชีวิตที่อยู่กับปัจจุบันอย่างสงบ
ขอความสงบที่ได้อ่านหนังสือ โอบอุ้มดูแลใจให้อ่อนโยนด้วยเสียงเพลง อาบน้ำผ่อนคลายหลังจากทำงาน นั่งดื่มอย่างเงียบเชียบในมุมหนึ่งของบาร์ ไม่อาลัยกับอดีตที่ผ่านไป ไม่กังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ไม่ใช่เพียงผู้สูงวัยเท่านั้นที่เรียนรู้มุมคิดแบบนี้ คนหนุ่มสาวเองก็น่าจะเรียนรู้การโอบกอดคุณค่าของชีวิตในห้วงเวลาปัจจุบันให้มากที่สุด การฝึกตนเองให้อยู่กับปัจจุบัน คือการรักษาความเจ็บปวดที่ได้ผลดียิ่งกว่ายาชนิดใด

หยุดโลกเหงาไว้ตรงนี้
ข่าวของผู้สูงวัยที่ตายอย่างโดดเดี่ยวเกิดขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาสังคมผู้สูงอายุอย่างมาก จำนวนผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียวมีมากขึ้น และมีโอกาสเสียชีวิตเพียงคนเดียว คำว่าโคโดคุชิ (Kodokushi) เป็นคำที่สื่อความหมายถึงการเสียชีวิตเพียงลำพัง โดยไม่มีใครดูแลและสถานการณ์ปัจจุบันของญี่ปุ่นก็ยังคงรับมือกับ “สังคมผู้สูงวัย” รวมถึงอีกหลายประเทศทั่วโลก อย่างประเทศเกาหลีก็มีคำว่า โกดกซา (Godoksa) ที่สื่อความหมายนี้เช่นกัน
ทำอย่างไรจะทำให้ชีวิตมีความสุข ท่ามกลางโลกที่อาจจะไม่สวยงาม Perfect Days อาจจะเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่สื่อสารกับผู้คนให้เตรียมตัวรับมือกับวันวัยในชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นอย่างสวยงาม เรียกอย่างตรงไปตรงว่า ให้เตรียมพร้อมรับมือกับการเป็นผู้สูงวัย ที่มนุษย์ทุกคนต้องอยู่ในภาวะนั้น ไม่วันใดวันหนึ่ง Perfect Days ไม่ใช่เพียงหยุดโลกเหงาไว้ตรงนี้ ทว่าอาจจะช่วยหยุดการตายอย่างโดดเดี่ยวของผู้คน เพราะความเหงาจากภายในจิตใจ อาจจะทำให้ผู้คนไม่มีความสุขในการมีชีวิตอยู่

การหยุดความเหงา เปลี่ยนเป็นความสงบงามในการอยู่ลำพัง ไม่เพียงแต่คนที่กำลังเตรียมรับมือกับการเป็นผู้สูงวัยเท่านั้น ทว่าคนหนุ่มสาว คนวัยทำงานเอง ก็เหงาได้ท่ามกลางผู้คนมากมายเช่นกัน การเรียนรู้และซึมซับความงดงามของทุกวันอย่างเรียบง่าย ใช้ชีวิตธรรมดาให้มีคุณค่ามากที่สุด เพราะว่า วันนี้คือวันนี้ เมื่อวานคือเมื่อวาน นี่คือเป็นข้อความสำคัญที่สุด ที่ผู้ผ่านโลกมามาก กำลังพยายามบอกเราทุกคน

