ระยะห่างระหว่างเราเกิดขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนต้องมีการปรับตัว เรียนออนไลน์ และทำงานจากที่บ้าน จึงทำให้บรรยากาศในมหาวิทยาลัยกรุงเทพเงียบเหงาลงไปบ้าง เราจึงอยากเก็บบันทึกภาพความเหงามาฝากทุกคนกัน
ทักทายความเหงา
วันเวลาที่สนุกสนาน เคยมีคนพลุกพล่าน มีเสียงหัวเราะ ตอนนี้แทบไม่มีคนเดินผ่าน พื้นที่จัดกิจกรรมบางแห่งที่ถูกปิดใช้งาน กิจกรรมหลายอย่างต้องงดไป ตั้งแต่โควิดมา ทำให้ใช้ชีวิตได้ไม่เต็มที่ เพื่อนบางคนก็ไม่ได้มาเจอกัน จะทำกิจกรรมอะไรก็ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เสียงของเพื่อนนักศึกษาคนหนึ่งเผยถึงความรู้สึกให้เราฟัง และอีกหลายคนก็คงรู้สึกคล้ายกัน
รอฉันรอเธออยู่
ป้ายรอรถที่ร้างผู้คน พื้นที่ว่างที่มากขึ้น เพราะทุกคนเข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์ เมื่อเรียนออนไลน์ เราทำได้เพียงติดต่อกับเพื่อนผ่านทางหน้าจอ บางคนอาจจะยังไม่เคยเห็นหน้า ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน การได้เจอเพื่อนจึงเป็นสิ่งที่หลายคนรอคอย รุ่นพี่ได้พบเพื่อนเก่า รุ่นน้องได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ เฝ้ารอกิจกรรมที่จะทำให้เราได้พบกันและรู้จักกันมากยิ่งขึ้น
โต๊ะอาหารแห่งความสุข
การมาเจอเพื่อน ได้รับประทานอาหารร่วมกัน บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะ เสียงทักทาย บางครั้งเราก็มาเฝ้ามองหาคนที่เราชอบที่โรงอาหาร แต่บัดนี้ทุกอย่างดูเงียบเหงาอ้างว้าง พี่ป้าน้าอาพ่อค้าแม่ค้าก็คงรอคอยน้องนักศึกษาให้กลับมาอุดหนุนร้านค้าที่เงียบเหงาให้คึกคักขึ้นบ้าง
อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับ
เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโควิด-19 เพราะโควิดทำให้เราเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ ทำทุกวินาทีที่เรามีชีวิตอยู่ให้เต็มที่ เราทุกคนต้องปรับตัวตามสถานการณ์ ช่วยกันระวังและป้องกัน เพื่อให้สถานการณ์นี้บรรเทาลง ไม่ว่าโควิดจะหมดไปหรือไม่คงไม่สำคัญ เพราะเราเรียนรู้ที่โอบกอดความเหงา ความอ้างว้าง ความเจ็บปวด และก้าวเดินเพื่อใช้ชีวิตต่อไป