ความงดงามของสังคมที่ผู้คนเกื้อกูลกัน เรื่องราวดีงามในรั้วมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

น้ำใจของผู้คนในสังคมที่ส่งต่อความช่วยเหลือ แบ่งปันกันและกันอย่างไม่สิ้นสุด

           ถ้าคุณเห็นสุนัขจรจัด หรือสุนัขไม่มีเจ้าของที่บาดเจ็บ คุณจะทำอย่างไร ? ระหว่างที่คุณ ๆ กำลังคิดคำตอบในใจอยู่นั้น เรามีผู้คนกลุ่มหนึ่งที่จะมาตอบคำถามนี้

วันเกิดเหตุในมหาวิทยาลัยกรุงเทพ รถคันหนึ่งชนสุนัขข้างถนนบาดเจ็บ น้าแจ๊ค-จินตนา คำเกศ แม่บ้าน (ผู้เห็นเหตุการณ์)

            น้าแจ๊คเล่าว่ามีคนขับรถมาชนน้องหมาแล้วหนีไปเลย สักพักก็ได้มีรถบัสของมหาวิทยาลัยขับผ่านมาพอดี จากนั้นก็มีกลุ่มนักศึกษาได้ลงมาช่วยน้องหมา แต่ก็มีอุปสรรค เพราะเมื่อทั้งนักศึกษาและพี่รปภ. เข้าไปช่วยเหลือ แต่ด้วยสัญชาตญาณป้องกันตัว มันจึงไม่ยอมให้ใครมาอุ้มเลย ทุกคนรีรอดูสักพัก ก็ปรากฏว่าน้องหมาพยายามลุกขึ้น และเดินไปทรุดลงที่ข้าง ๆ สนามวอลเลย์บอล

น้าแจ๊ค-จินตนา คำเกศ

            ผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากที่มีคนพาหมาตัวนั้น ไปส่งโรงพยาบาล น้าก็เข้ามาดูอาการของน้องหมา ด้วยความเป็นห่วง และทักทายไปว่า “คุณยาย (หรือคุณหมาสูงอายุตัวนั้น นั่นเอง) เป็นยังไงบ้าง”  เพราะเห็นมันเดินเซไป เซมาอยู่อย่างนั้น  เท่าที่เห็นวันนั้น ก็ชัดเจนว่า หมาตัวนี้มีอาการดีขึ้นมาก และน่าจะปลอดภัยแล้ว

            “ตอนที่น้ารู้ว่ามีคนมาช่วยก็รู้สึกดีนะ ที่มีคนใจบุญมาช่วย ส่วนน้าก็ดูแลอยู่ห่าง ๆ เท่าที่ทำได้ เพราะต้องทำงานของตัวเองด้วย”

น้าเฉลิม คลองเพ็ชร รปภ. (ผู้เห็นเหตุการณ์)

น้าเฉลิม คลองเพ็ชร

            “ตอนที่น้าไปเห็น น้านึกว่ามันจะไม่รอดแล้ว เพราะเห็นมันชัก พอสักพักมันก็ลุกขึ้นมา เดินเซไปเซมา ทุกวันนี้เวลาที่เห็นมันเดินข้ามถนนก็ยังเป็นห่วงอยู่นะ เพราะมันก็ยังเดินไม่ค่อยปกติ”

            น้าเล่าถึงช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายของหมาตัวนี้ว่า ตรงที่หมาโดนรถชน ถือเป็นช่วงเลี้ยวโค้งพอดี คนขับอาจจะมองไม่เห็นก็ได้ ดังนั้น จึงอยากจะให้ผู้ใช้รถ ใช้ถนน ระมัดระวังด้วย อย่างน้อยก็มีกฎกติกาสำหรับการขับขี่ในมหาวิทยาลัยเอาไว้ว่าห้ามขับรถเร็ว หาไม่แล้ว ผู้ประสบภัยอาจจะไม่ใช่แค่หมาเท่านั้น

หลังเกิดเหตุ

            ในการช่วยเหลือเจ้าหมาตัวนี้ ในครั้งนั้น คนสำคัญของเรื่อง เธอชื่อ พี่แป้ง-กชกรณ์ สุปัญโญ นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการตลาดดิจิทัล เราได้พูดคุยกับเธอ เพื่อรำลึกถึงวันนั้น

พี่แป้ง-กชกรณ์ สุปัญโญ

เรื่องราวในเหตุการณ์วันนั้น

            วันนั้นเป็นวัน Open House ของมหาวิทยาลัย อาจารย์บอกว่ามีนักศึกษาที่เรียนอยู่ในวิชา GE ของอาจารย์ เขาส่งข้อความมาว่ามีน้องหมาอยู่โรงอาหาร มีอาการเดินไม่ได้ ซ้ำยังปัสสาวะและอุจจาระเรี่ยราด บริเวณที่หมาตัวนั้นนอนอยู่ จึงเปื้อนเลอะไปหมดเลย ทางอาจารย์ก็เลยสอบถามนักศึกษาว่า พอมีใครจะช่วยน้องได้ไหม พอเราเห็นรูปหมาตัวนั้น ที่อาจารย์ส่งมาทางไลน์ ก็ปรึกษากับรุ่นน้อง รุ่นน้องก็ตอบตกลง และเอารถมาช่วยพาหมาไปรักษาค่ะ

อาการตอนที่เจอน้องหมา

            ตอนไปเจอ น้องหมาเขาลุกไม่ได้เลย สภาพ คือ นอนปัสสาวะเรี่ยราด ยืนไม่ได้ เราจึงช่วยกันเอาผ้ายางมาปูรองให้เขา จากนั้นจึงอุ้มขึ้นรถไป ตอนที่พาไปมีเพื่อน 4 คน ระหว่างทางน้องหมาเขาก็ร้องครวญครางไปตลอดทาง รถที่พาไปส่งที่โรงพยาบาลก็เลอะนิดนึง แต่เจ้าของรถบอกว่า เลอะคือ ล้างได้ พอไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอก็ทำการตรวจ ปรากฏว่า เขากระดูกขาหัก หมอบอกว่า รอบนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนชนด้วยนะ คือ เขาโดนชนมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้ถูกนำมารักษา น้องหมาจึงมีอาการเจ็บมากๆ ในรอบนี้

พาน้องไปรักษา

            มีเพื่อนติดต่อมาว่าอยากจะช่วยน้องหมาตัวนี้อยู่เรื่อย ๆ ค่ะ และก็มีคนใจบุญทัก story IG พี่แป้งมา เขาบอกว่า ถ้ามีอะไรให้ช่วย ก็ให้บอกมา เขายินดีช่วย ล่าสุด เขาก็พาหมาตัวนี้ ไปโรงพยาบาลสัตว์รังสิต แถวฟิวเจอร์พาร์คค่ะ พี่รู้จักชื่อว่าคือ ลิต้า เรียนอยู่คณะมนุษยศาสตร์ สาขาการบิน

            ยังมีคุณหมอที่คอยช่วยเหลือหมาอย่างใกล้ชิดค่ะ เพราะว่าคุณหมอบอกว่า ยังไม่เคยเจอ Case ที่หมาของทางมหาวิทยาลัยป่วย และมีนักศึกษาพามารักษา ทางคุณหมอจะช่วยในด้านของค่ารักษาพยาบาล แบบค้างคืน หรือค่าอาหาร โดยมีส่วนลดให้

            และในกรณีที่ไม่สามารถไปรับน้องได้ เพราะติดเรียน แต่กฎของโรงพยาบาลกำหนดไว้ว่าให้มารับภายใน เวลา 12.00 น.  ถ้าเราไปเกินเวลาที่โรงพยาบาลกำหนด เค้าก็จะคิดเงินเพิ่มไปอีก 1 วัน แต่คุณหมอก็จะฝาก Case ให้ว่า นักศึกษาเค้าติดเรียน มารับก่อนเวลาไม่ได้ ให้มารับเวลาไหนก็ได้ในช่วงวันนั้น และพี่ก็ไปรับไปส่งหมาตัวนี้ตลอดค่ะ

ทำไมถึงเข้าไปช่วยหรือที่บ้านเลี้ยงสัตว์หรือเปล่า

            ครอบครัวที่บ้านเลี้ยงหมาพันธุ์เฟรนช์บูลด็อก 7 ตัว เพราะแม่ชอบหมาหน้าย่น ครอบครัวรักหมา รักแมวมาก แต่พี่เลี้ยงแมวไว้ที่หอพัก เพราะว่าแมวมันไม่เสียงดัง ถ้าเอาหมามาเลี้ยงที่หอพัก ก็กลัวว่าจะเสียงดังค่ะ

            โดยส่วนตัวเป็นคนรักสัตว์อยู่แล้วค่ะ เราก็ไปกินข้าวแล้วเห็นเขาทุกวัน อาจารย์บอกว่า หมาตัวนี้อยู่มาตั้งแต่สมัยที่อาจารย์เรียนที่นี่เลยนะ อยากเห็นเค้ากลับมาเดินได้ปกติ ไม่ต้องทรมาน  อาจจะไม่ 100% เพราะว่า เขาก็แก่มากแล้ว อายุน่าจะ 10 กว่าปีแล้วค่ะ

น้องหมาตัวนี้ เป็นตัวแรกที่เข้าไปช่วยหรือเปล่า

            อันที่จริง พี่ช่วยหมา มาก่อนหน้านี้ 2 ตัวค่ะ  แต่ถ้าหมาในมหาวิทยาลัย ตัวนี้ เป็นตัวแรกที่ช่วยเลยค่ะ ตอนแรกบอกน้าแม่บ้านไว้ว่า จะพาหมาไปหาหมอ หลังจากที่รักษาแล้ว จะพามาอยู่ที่เดิม อาจจะต้องป้อนยาในตอนเช้าด้วย แต่ปรากฏว่า เรากลับมาดูตอนเย็นอีกที เขาไม่กินยาเลย หลังจากที่เราเห็นสภาพในวันนั้น เราเลยจัดการป้อนยาเองทุกวันเลยค่ะ

ตอนนี้หน้าที่พาเขาไปหาหมอกลายเป็นหน้าที่ของเรา

            ใช่ค่ะ ต้องพาเขาไปตลอด ตอนนี้คุณหมอได้รับ Case ให้ยิงเลเซอร์ฟรี ซึ่งการยิงเลเซอร์นี้ จะช่วยบรรเทาอาการปวด และมีการไหลเวียนของระบบเลือดดีขึ้น ก็ต้องพาไปอย่างน้อยอาทิตย์ ละ 1 ครั้ง

ค่าใช้จ่ายในการรักษา

            ค่าใช้จ่ายรอบแรกก็ ประมาณ 7,000 กว่าบาทค่ะ อีกรอบที่พาไปหาหมอ ก็ประมาณ 1,200 กว่าบาท รวมกัน แล้วตอนนี้ ก็ประมาณ 8,000 กว่าบาท

ใครรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ หรือเราจ่ายเองคนเดียว

            ไม่ค่ะ อาจารย์จะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้ค่ะ ถ้ามันเกินความสามารถเราจริง ๆ หรือหากมีค่าใช้จ่ายเกิน 1,000 บาทขึ้นไป ก็จะเปิดระดมทุนจากนักศึกษาในภาควิชา แล้วก็จะมีคนจากภาคอื่น ๆ มาร่วมช่วยด้วยค่ะ

            ตอนนี้ ไปรักษามา 3 รอบแล้วค่ะ แต่อีกรอบหนึ่ง พี่ไม่ได้เป็นคนพาไป  ทางโรงพยาบาลบอกว่า ไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะว่า แค่เอาเขาไปเช็คอาการ ปรากกฎว่า เขามีอาการดีขึ้นค่ะ

            บางคนที่อยู่บริเวณนั้นเห็นเขาก็สงสาร กลัวเขาหิว ก็เลยไปซื้อพวกขนม วาฟเฟิลตรงโรงอาหารกลาง ไปให้เขากินบ้าง ส่วนน้าแม่บ้าน ก็จะช่วยเอายาใส่ในวาฟเฟิลให้ หลอกให้เขากินขนมผสมยา

ทุกวันนี้ก็ยังไปดูอาหารของน้องอยู่หรือไม่

            ไปดูตลอดค่ะ เพราะต้องป้อนยาให้เขาทุก เช้า-เย็น เขายังต้องกินยาฆ่าเชื้อ และยาแก้อักเสบค่ะ ต้องกินต่อเนื่องจนยาหมด แต่หลังจากนี้ หมอบอกว่า จะให้ยาบำรุงเลือด บำรุงข้อ มากินแทน แต่เราก็ต้องป้อนยา และดูแลเขาไปเรื่อย ๆ

จากกรณีอยากตั้งชมรมรักษ์สัตว์ในมหาวิทยาลัยไหม

            ถ้ามีชมรมเกิดขึ้นมาจริงๆ มันก็จะดีอยู่นะคะ เราจะเข้าร่วมด้วยแน่นอน ถ้าถามว่าจะจัดตั้งเลยไหม มันก็จะยากนิดหน่อย เพราะงานเราก็เยอะมากค่ะ

ฝากข้อคิดการเลี้ยงสัตว์สักนิด

            พูดในส่วนของนักศึกษานะคะ บางทีนักศึกษาอยู่หอพักก็อาจจะเหงา เราต้องถามตัวเองว่ามีความพร้อมที่จะเลี้ยงสัตว์ไหม เพราะพวกหมา แมว ตอนเล็กเขาก็น่ารักมาก เราก็ต้องรู้ด้วยว่าเค้าไม่ได้น่ารักแบบนี้ตลอดไป พอมาเลี้ยงจริง ๆ ต้องคอยเช็ดปัสสาวะ เช็ดอุจจาระ อาบน้ำ ถ้าไม่พร้อมในส่วนนี้ สุดท้ายแล้วก็เอาเขาไปปล่อย มันก็แย่ค่ะ สุดท้ายเขาจะกลายเป็นหมาแมวจรจัด เกิดปัญหาตามมาอีกไม่สิ้นสุด

อยากฝากอะไรถึงคนใช้รถใช้ถนนในมหาวิทยาลัยบ้าง

            จริง ๆ มันไม่ใช่หมาอย่างเดียว ที่โดนรถชน พี่เห็นน้องที่อยู่ในบ่อ (ตัวเงินตัวทอง) เขาเองก็เปรียบเสมือนสมาชิกในมหาวิทยาลัยของเราด้วย ก็อยากจะให้คนขับรถช่วยกันระวังไว้นิดนึง ขับรถแบบระวังไว้ ช้าสักนิด แต่ไม่เป็นอันตรายต่อใคร จะดีกว่านะคะ

            นอกเหนือจากพี่แป้ง ผู้ใจบุญแล้ว ยังมีรุ่นน้องของพี่แป้ง ได้แก่ น้องปอนด์-วสิษฐ์พล ทวีปะ และน้องพี-ศดายุทธ คำพุฒ นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ สองหนุ่มร่วมคณะที่มาร่วมช่วยเหลืออีก เราไปฟังทั้งสองเล่าเหตุการณ์เพิ่มเติมกันเลย

อยากทราบว่าทำไมถึงเลือกที่จะเข้ามาช่วยครั้งนี้

            เห็นข้อความที่ อาจารย์น้ำพุ-อาจารย์นวพล หาญคำอุ้ย ส่งเข้ามาในกลุ่มไลน์ แล้วผมก็เคยอยู่ในเหตุการณ์ที่หมาโดนรถชนด้วย ในสถานการณ์แบบนั้น หมาเขาช่วยตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว หากเราไม่เข้าไปช่วย หรือไม่เข้าไปดูแล ก็ไม่รู้ว่ามันจะรักษาตัวเองได้หรือเปล่า แล้วเขาจะหายไหม หรืออาการมันจะหนักไปเรื่อยๆ หรือเปล่า ผมจึงอยากเข้าไปช่วยครับ

ปอนด์-วสิษฐ์พล ทวีปะ

เอารถตัวเองส่งหมาตัวนี้ไปโรงพยาบาล ไม่กลัวว่ารถจะเลอะหรือสกปรกหรือคะ

            ผมเต็มใจที่จะเข้าไปช่วยครับ ตอนนั้นไม่คิดอะไร ทำด้วยความเต็มใจล้วน ๆ ในรถก็ไม่ได้เลอะอะไรเลยครับ เวลาที่เห็นหมาป่วย ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ก็ช่วยไปดูแลมันหน่อย มันก็มีชีวิตจิตใจเหมือนคนนะครับ มันไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มันพูดไม่ได้ แต่มันก็อยากได้ความช่วยเหลืออยู่เหมือนกัน ปัจจุบันนี้ก็ยังแวะไปดูเขาที่โรงอาหารกลางอยู่ครับ

พี-ศดายุทธ คำพุฒ

ในฐานะที่เป็นคนใช้รถและใช้ถนนในมหาวิทยาลัย มีคำแนะนำเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุต่อสิ่งมีชีวิตในมหาวิทยาลัยอย่างไรบ้าง

            ขับขี่อย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะเวลาที่เห็นหมาหรือแมว หรือสัตว์อื่น ๆ ข้ามถนน และก็ระวังคนด้วยครับ เพราะในมหาวิทยาลัยคนเยอะ อย่าขับเร็วเกินไปครับ

            นอกจากนี้แล้ว กิจกรรมใจบุญนี้ยังได้รับการช่วยเหลือจากบุคลากรใจดีของมหาวิทยาลัย อย่างคุณน้าแม่บ้านอีกด้วย

น้าหอม-หอมหวน บรูณะ

แม่บ้านผู้ช่วยดูแลหมาบาดเจ็บหลังกลับมาจากโรงพยาบาล

            น้าหอมกล่าวกับเราว่ารู้สึกดีใจมาก  ที่มีกลุ่มนักศึกษาใจบุญมาช่วยเหลือสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บ และพาไปรักษาอยู่หลายวัน

หลังจากที่น้องกลับจากโรงพยาบาล คุณน้าช่วยดูแลอย่างไร

            น้าก็เอาอาหารเอาน้ำมาให้ น้าเป็นคนเก็บอุจจาระ เช็ดปัสสาวะให้ เพราะตอนนั้นเขาลุกไปไหนไม่ได้เลย พอถ่ายอุจจาระ น้าก็ยกตัวไปอีกทีหนึ่งโดยอุ้มด้วยมือเปล่า แล้วก็ทำความสะอาดบริเวณนั้น น้าไม่ได้รังเกียจอะไร เพราะน้าก็เป็นคนรักหมาอยู่แล้ว ที่บ้านน้าก็เลี้ยงหมาเหมือนกัน

            เรื่องราวทั้งหมดนี้ อาจจะสรุปได้ว่าเป็นความโชคดีของน้องหมาตัวนี้เหลือเกิน ที่มีคนเมตตา และช่วยนำตัวเขาไปรักษา ไม่ให้ทรมานจากอาการบาดเจ็บ แต่ถ้ามองไปให้ไกลกว่านั้น เราจะเห็นถึงสังคมที่มีน้ำใจ ผู้คนที่จิตใจอารีและเกื้อกูลกัน และที่ดีงามที่สุด คือเรื่องราวนี้เกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยกรุงเทพของเรานี่เอง

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ นักศึกษา คณาจารย์ และผู้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ทุกท่าน

Writer

ชอบออกไปเที่ยวธรรมชาติ หาความสงบให้ตัวเอง เช่น ทะเล ภูเขา เห็นวิวแล้วรู้สึกหายเหนื่อย ว่างก็ฝึกวาดรูปไปเรื่อยเปื่อย วาดไป ลองผิดลองถูก แต่ถ้าได้ออกไปเที่ยว ไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ก็พร้อมรับเต็มที่

Writer

สาวน้อยขี้อายเริ่มกล้าแสดงออกมากขึ้น ร่าเริง สดใส หาความสุขให้ตัวเองอยู่เสมอและหาความรู้ใหม่เกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองสนใจเพื่อนำมาพัฒนาตัวเอง เพราะความพยายามไม่เคยทรยศใคร

Writer

เป็นคนชอบถ่ายรูป เพราะการถ่ายภาพทำให้เราผ่อนคลาย และเป็นงานอดิเรกที่สามารถเยียวยาจิตใจ

Writer

ผมชื่อฉลามนะครับ ผมพึ่งมาหัดถ่ายภาพครับอาจจะถ่ายไม่เก่งไม่สวย แต่ถ้าเราไม่ลองทำเราก็จะถ่ายไม่เป็น ผมจะพัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อย ๆ ครับ จะคอยเก็บประสบการณ์ให้มากขึ้น เพื่อให้มีฝีมือที่ดี

Photographer

ศิลปะก็คือสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา ที่เหลือก็อยู่ที่คุณเอง จะมองเห็นหรือเปล่า