รักคืออะไร รักอย่างไรให้มีคุณภาพ มารู้จักความรักที่หลากหลายในงาน How to love (เลิฟอย่างไร ให้ได้รัก)
ก่อนจะรักใคร…ให้รักตัวเองก่อน
เดือนกุมภาพันธ์ คือเดือนที่อบอวลไปด้วยความรัก ความห่วงใย และความปรารถนาดี 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี คือ วันแห่งความรัก หรือ วันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) มีการเฉลิมฉลองในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงมหาวิทยาลัยกรุงเทพของเราได้จัดกิจกรรมวันแห่งความรักขึ้น โดยสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ และได้รับความร่วมแรงร่วมใจจากชมรมดนตรีสากล กลุ่มเด็กเอ๊ะ และกลุ่มกิจกรรมต่าง ๆ มาจัดกิจกรรมร่วมกัน ภายใต้ชื่องานว่า How to love (เลิฟอย่างไร ให้ได้รัก) ว้าว ว้าว เลิฟ เลิฟ
ในงานมีเวิร์กช็อป D.I.Y การทำเจลล้างมือง่าย ๆ ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ และกิจกรรม How to write เขียนยังไงให้รักตัวเอง พร้อมเชิญชวนเดินเที่ยวตลาดนัด Nice market สนุกสนานกับคอนเสิร์ตจากชมรมดนตรีสากล ทำให้รู้ว่าความสุขทั้งหมดที่เกิดขึ้น เริ่มต้นจากการที่เรารักตัวเองเป็น และส่งต่อไปให้คนที่เรารัก โดยงานจัดขึ้นที่บริเวณ ลานร่วมมิตร โรงอาหารกลาง ณ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตหลัก (Main Campus)
เราจึงขอไล่เรียงกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมกับเปิดเผยเบื้องหลัง ความคิดเห็น และความรู้สึกของผู้เข้าร่วมงาน เรามาติดตามอ่านไปพร้อม ๆ กันได้เลย
ก่อนเข้าสู่งาน เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ พี่จ๋า-สาธิตา อินทสร้อย นักศึกษาคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ ผู้เป็นเลขานุการสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
พี่จ๋าบอกกับเราว่า “วันวาเลนไทน์เป็นวันที่ดีอีกวันหนึ่ง วันที่ให้คนได้ออกมาแสดงความรักต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบหนุ่ม-สาว ความรักแบบเพื่อน ครอบครัว หรือว่าความรักแบบรักตัวเอง รักทุกสิ่งต่าง ๆ และมีอีกสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับเทศกาลแห่งความรักที่สามารถสื่อความรู้สึกจากคนรักคนหนึ่งไปถึงอีกคนหนึ่งได้ สิ่งนั้น คือ บทเพลง เพราะจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกความในใจได้เป็นอย่างดี”
ฤกษ์งามยามดี 11.00 น. กิจกรรมแห่งความสุขได้เริ่มขึ้นแล้ว การแสดงโชว์ของชมรม Creative Dance ต่อด้วยบทเพลงที่สื่อความในใจจากคุณ ถึงคนที่คุณรักมากมายหลากหลายเพลง
How to love (เลิฟอย่างไร ให้ได้รัก)
เราได้นั่งพูดคุยกับ ประธานชมรมดนตรีสากลขับร้องและประสานเสียง พี่เอิร์ธ-ภาคภูมิ ไวคกุล จากคณะนิเทศศาสตร์ สาขาการโฆษณา ถึงธีมงานและแนวคิดในการเลือกบทเพลง
พี่เอิร์ธได้กล่าวว่า “แรงบัลดาลใจของธีม How to love (เลิฟอย่างไร ให้ได้รัก) เกิดจากกระแสของภาพยนตร์ในช่วงหนึ่งอย่าง How to ทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ เราได้หยิบยื่นประเด็นตรงนั้นมาดัดแปลงให้มีความน่าสนใจ อยากให้ทุกคนได้เห็นแล้วรู้สึกตื่นเต้นกับงานของเรา ส่วนการเลือกเพลงแต่ละเพลงนั้นมีความหลากหลายแนว หลายอารมณ์ คือ อยากให้คนที่มาฟังได้รู้สึกสนุกในแต่ละช่วงอารมณ์ของความรัก และเนื่องด้วยทางชมรมดนตรีสากลขับร้องและประสานเสียง มีแนวความคิดที่อยากส่งเสริมพี่ ๆ น้อง ๆ นักศึกษาให้ได้มีส่วนร่วมในการแสดงความสามารถทางด้านดนตรี จึงมีการนัดแนะซ้อมเล่นดนตรี ร้องเพลง จัดโชว์ขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดไปให้คนดู”
สื่ออารมณ์ผ่านบทเพลง
“สิ่งหนึ่งที่สำคัญ ได้แก่เรื่องของความบันเทิง ทุกคนได้มาฟังดนตรี สนุกสนานไปกับพวกเราได้ออกมาเต้น ฟังเพลงแล้วอินไปกับสิ่งที่เราอยากจะถ่ายทอดจริง ๆ คือ อยากให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมกัน”
พี่เอิร์ธฝากข้อคิดดี ๆ ไว้อีกว่า “วันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรัก เราอยากสนับสนุนให้นักศึกษารักกัน แต่อยากให้อยู่ในขอบเขต มีการป้องกัน ทำอะไรที่ไม่เลยเถิด จะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง”
หากฟังเพลง ลุกขึ้นเต้น เล่นเกมสนุก ๆ กันไปแล้ว เกิดหิวขึ้นมา หรืออยากจะซื้อดอกกุหลาบให้หนุ่มสาว ไม่ต้องห่วง เพราะเรามีตลาดนัด Nice market จากร้านค้าด้านนอกที่ติดต่อเข้ามา รวมทั้งร้านค้าของชมรม ไม่ว่าจะเป็น น้ำแตงโมปั่น ไอศกรีม เกี๊ยวกุ้ง ไข่ปลาหมึก ลูกชิ้นทอด เสื้อผ้า กระเป๋าแฟชั่น และซุ้มกิจกรรมเกมต่าง ๆ อีกมากมาย มีทั้งนักศึกษา อาจารย์ และบุคคลากรของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เข้าร่วมชมงานตั้งแต่ช่วงสายไปถึงช่วงเย็นกันอย่างคึกคัก
ที่สำคัญตลาดนัด Nice market ของเราภาชนะทุกอย่างนั้นเรางดใช้พลาสติก เป็นการช่วยลดพลาสติกและรักษ์โลกไปในตัว
โครงการเด็กเอ๊ะ ร่วมใจกัน D.I.Y เจลล้างมือ
เนื่องจากโรคโคโรน่าระบาดในช่วงนี้ โครงการเด็กเอ๊ะ ได้จัดบูธเวิร์กชอป D.I.Y สาธิตการทำเจลล้างมือ เพื่อให้นักศึกษาสามารถนำความรู้ไปทำเจลล้างมือใช้เอง แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาความสะอาดโดยเริ่มที่ตัวเรา เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายและป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ในเบื้องต้น
เราได้มีโอกาสพูดคุยกับตัวแทนเด็กเอ๊ะ พี่จันทร์เจ้า-ศดานันท์ กิจนพศรี จากคณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว สาขาการจัดการธุรกิจสายการบิน
ก่อนที่เราจะบอกให้คนอื่นทำ เราต้องเริ่มจากตัวเราก่อน พี่จันทร์เจ้าบอกว่า “แนวคิดในการทำเจลล้างมือนั้น เริ่มจากทางฝ่ายอาจารย์ที่ดูแลโครงการ ได้เล็งเห็นถึงสถานการณ์โลกของเราในช่วงนี้ที่กำลังรับมือกับไวรัสโคโรน่าและปัญหาฝุ่น PM 2.5 จึงอยากให้นักศึกษาได้ลองทำกันเอง แบบป้องกันกันเอง อย่างที่เราเห็นเศรษฐกิจช่วงนี้ คือ เจลล้างมือและแอลกอฮอล์รวมทั้งอุปกรณ์ทำความสะอาดต่าง ๆ ขาดตลาด เราจึงทำขึ้นมาเพื่อต้องการอำนวยความสะดวกแก่นักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัย”
วิธีทำเจลล้างมือ ไม่ยากอย่างที่คิด สามารถทำเองที่บ้านได้
พี่จันทร์เจ้าได้บอกขั้นตอนการทำเจลล้างมืออีกว่า “ขั้นแรกเราจะใช้ แอลกอฮอล์ 70% สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป นำมาผสมกับกลีเซอรีน ซึ่งกลีเซอรีนสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายเชื้อน้ำหอมหรือร้านขายส่งอุปกรณ์ต่าง ๆ และหัวน้ำหอมเราจะใช้เป็นน้ำมันหอมระเหย ให้หยดเพียงแค่หยดเดียวเท่านั้น หากใครได้แอลกอฮอล์ 70% แต่เป็นสีขาว สามารถใช้สีผสมอาหารผสมลงไปได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีในสีด้านอื่น แล้วจึงใช้แอลกอฮอล์ 70% ปริมาณ 30 มิลลิลิตร ส่วนกลีเซอรีนใช้ไซริงค์ดูดประมาณ 12 หยด คนให้เข้ากัน และบรรจุใส่บรรจุภัณฑ์ จึงสามารถนำมาใช้ได้ทันที” ที่สำคัญมีคิวอาร์โค้ดบอกวิธีการทำอยู่ข้างขวดสเปรย์สามารถสแกนดูได้เช่นกัน
ข้อควรระวังในการใช้
พี่จันทร์เจ้าได้แนะนำกับเราอีกว่า “ถ้าทำตามสูตรที่เราให้ไว้สามารถใช้ได้เรื่อย ๆ แต่ถ้าพูดถึงขั้นตอนการผสมให้ระวังการใส่กลีเซอรีนหากใส่มากเกินไป อาจทำให้เหนียวมือได้หรือการใส่หัวน้ำหอมมากเกินไปอาจทำให้มือของเราติดกลิ่นน้ำหอมมากเกินไปจะเกิดการมึนหัวได้ และเวลาใช้ให้ฉีดสเปรย์แล้วถูๆ ตามปกติ รอประมาณ 2 วินาที ให้แอลกอฮอล์ระเหยให้เต็มที่เราจะได้กลิ่นหอม หากรีบดมแต่แรกกลิ่นแอลกอฮอล์อาจจะแรงเกินไปทำให้แสบจมูกได้”
ก่อนจะรักใคร ให้รักตัวเองก่อน
หลายคนอาจจะสงสัยว่าโคโร่น่าหรือโรคระบาดต่าง ๆ เกี่ยวอะไรกับวันวาเลนไทน์ พวกเราเพียงอยากให้ทุกคนดูแลตัวเองก่อน รักตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปดูแลคนอื่น อย่างที่พี่จันทร์เจ้าบอกว่า “โดยปกติเราจะบอกรักคนอื่นใช่ไหม นิยามความรักของเราจะเป็นแบบแฟน พ่อแม่ แต่เราอยากให้ทุกคนลองหันกลับมารักตัวเอง เพราะทางเรามีกิจกรรมให้ทำด้วยให้ทุกคนลองทำเอง อยากให้คนรู้สึกว่าเรารักตนเองได้มากแค่ไหน ลองทำอะไรเพื่อตนเองดูบ้าง เมื่อทำสำเร็จได้นำไปใช้จริง ทำให้รู้สึกว่าเราทำเพื่อตัวเองนะหรืออาจจะทำไปเพื่อคนอื่น ซึ่งตรงกับวาเลนไทน์พอดี จึงอยากให้ทุกคนมองโดยรวมและอยากให้มองที่ตัวเองบ้าง รักตัวเองบ้าง เพราะ จุดเริ่มต้นของการรักคนอื่น คือ การรักตัวเองให้เป็นก่อน”
พี่จันทร์เจ้ายังฝากความห่วงใยถึงพี่น้องชาว BU อีกว่า “อยากให้ทุกคนดูแลตัวเองดี ๆ กลับมารักตัวเองมากขึ้นอยากให้รักสุขภาพด้วย เพราะถ้าเราดูแลร่างกายดีทุกอย่างจะดีตาม อยากให้หันมาโฟกัสด้านสุขภาพกันมากขึ้น เพราะโลกปัจจุบันมีโรคระบาดหลายอย่างมาก”
How to write เขียนอย่างไร ให้รักตัวเอง
ก่อนจะลาวันวาเลนไทน์ไป กิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลย คือ กิจกรรม (How to write เขียนอย่างไร ให้รักตัวเอง) บอร์ดหัวใจขนาดใหญ่เด่นมาแต่ไกล บริเวณด้านหน้าเวที นักศึกษาและบุคลากรของของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้ร่วมกันเขียนความในใจและนิยามความรักของแต่ละคนจะที่แตกต่างกันออกไป
ไม่รอช้าเราไปพูดคุยกับ นนท์-ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์ จากคณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ นักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง ดิว ไปด้วยกันนะ ตัวแทนทำบอร์ดได้บอกกับว่า “ถ้าพูดถึงแนวคิด คือ การรีเฟล็กซ์ ตอนที่คิดโครงการเป็นเรื่องของความรัก แล้วทีนี้ผมสังเกตหลาย ๆ อย่างในชีวิตตนเองว่าสุดท้ายเราเข้าใจตนเองขนาดไหนถึงจะรักตนเองได้ เพราะผมเชื่อว่าเราจะรักในสิ่งที่เราเข้าใจมากกว่า ดังนั้นเรามาสะท้อนตัวเองดูว่าเรารักตัวเองอย่างไร รักตัวเองขนาดไหน เข้าใจตัวเองยังไงบ้าง เลยอยากให้ทุกคนได้ลองเขียน Perspective ของตัวเองดู ว่านิยามความรักของคุณเป็นอย่างไร แล้วคุณคิดจะนำตรงนั้นมาใช้กับตนเองหรือคนอื่นในชีวิตประจำวันได้อย่างไร ส่วนเรื่องดีไซน์บอร์ดด้วยความที่เป็นวันวาเลนไทน์ เราอยากให้คนเขียน ความคิด ความรู้สึก ต่าง ๆ ออกมา แบบในที่ที่คนสามารถเห็นด้วยกันได้ เลยตั้งเป็นบอร์ดรูปหัวใจครับ”
ประสบการณ์ความรักที่หลากหลาย
น้องนนท์บอกกับเราถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการจัดงานนี้อีกว่า “เราได้เห็นภาพกว้างขึ้น ความคิดของคนที่เราอาจคิดไม่ถึงในมุมนั้น เราได้เห็นความหลากหลายของวัฒนธรรมจากคนหลาย ๆ ภาคมารวมกันอยู่ตรงนี้ ทำให้ได้เรียนรู้ความหลากหลายของมนุษย์โดยเฉพาะในเรื่องของความรักและคอนเซ็ปต์สำคัญของวันวาเลนไทน์”
พี่น้องชาว BU สุดประทับใจ
นอกจากนั้น เรายังได้พูดคุยกับพี่ทั้ง 3 ที่เข้าร่วมชมงานนี้ พี่หญิง-พิจิตรา วิเศษสุรการ, พี่แจ๊ค-อภิวัฒน์ เนื่องราชา และ พี่กาย-ปักกาย สวัสดิโอ รุ่นพี่ทั้ง 3 คน จากคณะนิเทศศาสตร์ ได้เผยความรู้สึกสุดประทับใจบอกเป็นเสียงเดียวกับเราอีกว่า “งานออกมาดีมากให้ความเป็นกันเองกับหลายคนมาก อย่างแน่นอนเลยได้รับความบันเทิง ความเพลิดเพลิน ได้เห็นหลายคนมาร่วมกิจกรรมก็รู้สึกสนุกไปกับเขาด้วยก็อยากให้มีทุกๆ ปี”
และเหล่าพี่ ๆ ยังทิ้งท้ายนิยามความรักของตนเองไว้อีกว่า “นิยามความรักของพวกเรา คือ รู้สึกว่าความรักของพ่อแม่และมิตรภาพนั้นยั่งยืนกว่าความรักของหนุ่ม-สาว รู้สึกว่ารักแบบนี้มีอะไรมากกว่ารักแล้วเลิก อาจจะรักแล้วเลิกไม่ได้ เพราะคำว่าเพื่อนไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนคำว่าครอบครัวไม่มีคำว่าแตกแยก”
ส่วนรุ่นน้องก็ประทับใจไม่แพ้กันกับ น้องอิง-ยุพเรศ แก่นเมือง จากคณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ และพี่ปลื้ม-ศุภชัย กลิ่นธาวาด จากคณะนิเทศศาสตร์ ได้เผยความรู้สึกและบอกเป็นเสียงเดียวกันอีกว่า “รู้สึกสนุกมาก พอเรียนจบเหนื่อย ๆ แล้วมหาวิทยาลัยเรามีจัดเทศกาลวาเลนไทน์แบบนี้ แล้วเราได้มาเข้าร่วมกิจกรรมก็ช่วยผ่อนคลายไปในตัว” พร้อมทิ้งท้ายนิยามความรักของตนเองไว้อีกว่า “ทำอย่างไรก็ได้ให้เรามีตัวตนในสายตาของเขา ให้เขาเห็นเรา มีความสุขที่เห็นเขามีความสุข และเข้าใจกันและกัน”
เป็นอีกหนึ่งวันที่ BU ครึกครื้นไปด้วยท่วงทำนองเพลงรัก การจัดงาน How to love (เลิฟอย่างไร ให้ได้รัก) สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีด้วยความร่วมมือร่วมใจจากสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ชมรมดนตรีสากล กลุ่มเด็กเอ๊ะ ที่สำคัญทุกคนสามารถแสดงความรัก ความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อคนที่เรารักและรักเราไม่เพียงแต่เฉพาะกับแฟนหรือคนรักของเราเท่านั้น แต่เราสามารถมอบความรักให้แก่พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน คุณครู รวมไปถึงเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกได้เช่นกัน และการบอกรักไม่จำเป็นต้องบอกกันในวาเลนไทน์ ทุกคนสามารถบอกรักกันได้ทุกวัน