DO NOT BULLY ME หยั่มมาบูลลี่เรานะ! จุดประกายพลังของคนรุ่นใหม่ จากใจนักศึกษาม.กรุงเทพ

รวมพลังให้ความรู้ เยียวยา และช่วยเหลือน้องวัยมัธยมที่ตกเป็นผู้ถูกบูลลี่

         ปัญหาการกลั่นแกล้ง การรังแก หรือคำนิยมใช้ในปัจจุบันที่เรียกว่า “บูลลี่” สามารถพบได้เป็นประจำและเกิดขึ้นบ่อยในประเทศไทย ทำให้เหยื่อจากการถูกบูลลี่ได้รับผลกระทบทางด้านร่างกายและจิตใจ ไร้ที่พึ่ง ไร้ทางออก ด้วยมองเห็นปัญหาและอยากช่วยแก้ไข จึงเกิดโครงการที่ชื่อว่า DO NOT BULLY ME หยั่มมาบูลลี่เรานะ! ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มโดย กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ เรียนอยู่ในโครงการพัฒนาผู้นำนักศึกษาเพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม (Social Change Leader Incubation Program) จัดโดยคณาจารย์สายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

         การขับเคลื่อนโครงการ DO NOT BULLY ME ในครั้งนี้ เป็นพลังของนักศึกษาที่ชักชวนน้องวัยมัธยมมาทำกิจกรรมสร้างสรรค์ สร้างการเรียนรู้ สร้างการเปลี่ยนแปลง เยียวยาหัวใจที่เจ็บปวดจากการถูกบูลลี่ เป็นกิจกรรมที่จัดในรูปแบบ ONLINE ผ่านทาง Zoom Meeting เรามาติดตามเรื่องราวของโครงการสร้างสรรค์สังคมในครั้งนี้จากสมาชิกในโครงการ DO NOT BULLY ME หยั่มมาบูลลี่เรานะ!

โครงการ “DO NOT BULLY ME หยั่มมาบูลลี่เรานะ”

         ที่มาที่ไปของโครงการ โบ้-พลวัฒน์ ช้างโต นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หัวหน้าโครงการการบูลลี่ในสถานศึกษาได้บอกกับเราว่าโครงการ DO NOT BULLY ME เป็นโครงการขับเคลื่อนทางสังคมมีเป้าหมายหลักเพื่อช่วยเหลือกลุ่มนักเรียนวัยมัธยมศึกษาที่ตกเป็นเหยื่อของการถูกรังแกทั้งด้านร่างกายและจิตใจ โดยจะมุ่งเน้นไปยังการเสริมสร้างความเข้าใจ และคอยช่วยเหลือเยียวยาความรู้สึก สภาพจิตใจของน้องที่ถูกรังแก

โบ้-พลวัฒน์ ช้างโต นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

จากประสบการณ์จริงสู่โครงการที่เราใฝ่ฝัน

         เพราะเคยเจอประสบการณ์จริงจึงอยากทำโครงการนี้ บิว-ภัทราภรณ์ พราหมณ์วงศ์ นักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ ย้อนวันวานว่าส่วนตัวเคยมีประสบการณ์การถูกบูลลี่เหมือนกัน โครงการส่วนใหญ่ที่เจอมีแต่ให้ความรู้ว่าการบูลลี่คืออะไร ยังไม่มีโครงการอะไรที่จะมาคอยสนับสนุน หรือคอยปลอบโยนทางด้านจิตใจให้เราที่เป็นเหยื่อของการบูลลี่

         บางทีเรารู้สึกหมดหวังมาก ไม่รู้เลยว่าควรหาทางหรือวิธีแก้ไขยังไง การที่มีโครงการแบบนี้เกิดขึ้น ที่มันออกมาจากประสบการณ์จริง ๆ ของเราทั้งหมด เป็นสิ่งที่เราอยากทำจริง ๆ มันทำให้เราเยียวยาหัวใจ รู้สึกเหมือนมีคนคอยให้กำลังใจเราในแต่ละวันว่า วันนี้เราเก่งมาก ๆ แล้วนะ มันเลยเป็นจุดเล็ก ๆ ในการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง การสร้างแรงบันดาลใจ และยังเป็นการชุบชีวิตใครสักคนให้ออกมาจากจุดนั้นได้ ทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างมีความสุข

บิว-ภัทราภรณ์ พราหมณ์วงศ์ นักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์

เริ่มต้นด้วยการปรับเปลี่ยนสังคมสถานศึกษาของไทย

         การเลือกกลุ่มเป้าหมายที่จะมาช่วยขับเคลื่อนโครงการไปด้วยกัน เป็นน้องวัยมัธยมที่ใช้เวลา 7-8 ชั่วโมงอยู่ที่โรงเรียน บิวอธิบายเพิ่มเติมว่า เวลาส่วนใหญ่ในการใช้ชีวิตประมาณ 80-90% ใช้ชีวิตอยู่ในสถานศึกษา เราจะต้องไปโรงเรียนทุกวัน และพบเจอกับคนหลากหลายนิสัย หลากหลายรูปแบบ การพบเจอกับสังคมที่ใหญ่ขึ้นทุกวัน จึงเปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เราต้องเรียนรู้ ปรับตัวรับมือกับความแตกต่างหลากหลายของผู้คน

         ปัญหาการบูลลี่ในโรงเรียนเกิดขึ้นได้บ่อยและยังพบอีกว่าปัญหาการบูลลี่ในสถานศึกษาของประเทศไทยค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว สำหรับน้องนักเรียนบางคนที่ยังมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ไม่มากพอ หรือยังไม่ค่อยมีความมั่นใจ พร่องในเรื่องการเห็นคุณค่าในตัวเอง หรือ Self-esteem ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันตัวเองจากปัญหาการถูกบูลลี่ เราจึงเลือกที่จะเจาะจงไปยังกลุ่มสถานศึกษาและอยากที่จะคอยแนะนำน้อง ให้ความรู้ที่ถูกต้อง เพื่อที่จะให้เขาพร้อมที่จะเติบโตและสร้าง Self-esteem ในการเข้าสังคมได้อย่างมีความสุข

SELF-ESTEEM เพิ่มความมั่นใจในตัวเรา

         การจัดโครงการมีกิจกรรมที่สนุก สร้างสรรค์ ให้ความรู้ เข้าใจคนรุ่นใหม่ เพื่อให้น้องมัธยมที่เข้าร่วมเข้าใจเรื่องการบูลลี่มากยิ่งขึ้น เช่น กิจกรรม Self-esteem เพิ่มความมั่นใจในตัวเรา เป็นกิจกรรมเพื่อให้น้องได้เข้าใจความสำคัญของ Self-esteem เน้นพัฒนาความมั่นใจในตัวเอง ตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง เพิ่มความภูมิใจในตัวเอง และยินดีที่ได้เป็นตัวเอง แถมในช่วงท้ายยังมี Breakout Room เพื่อให้น้องแต่ละคนได้มาแชร์เรื่องราว แลกเปลี่ยนความคิดกับผ่านการย้อนมองดูตัวตนของตัวเองกันอีกด้วย

ต้นเหตุของการบูลลี่ไม่ได้เกิดจากการล้อปมด้อยเสมอไป

         ลงลึกถึงสาเหตุการบูลลี่ บิวได้เล่าข้อมูลที่น่าสนใจว่า การบูลลี่สามารถพบได้หลายรูปแบบ โดยบางครั้งการล้อข้อด้อย หรือปมด้อยอาจจะไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นเสมอไป บางครั้งการอิจฉาก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดการบูลลี่ ไม่ว่าจะเป็น อิจฉาเรื่องผลการเรียนของเพื่อนที่ดีกว่า อิจฉาที่คุณครูให้ความสำคัญกับเด็กคนอื่นมากกว่า อิจฉาที่คนอื่นหน้าตาดีกว่า และอีกหลากหลายรูปแบบ บางทีเราก็ไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมคนที่เขาต้องการบูลลี่เราถึงทำแบบนี้

         อีกทั้งยังเปิดเผยเผยว่าตนเองก็เคยเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่บูลลี่คนอื่นเหมือนกัน เรารู้อยู่แก่ใจว่าเราสนุกที่ได้บูลลี่คนอื่น แต่การหาความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นเป็นสิ่งที่ผิด เพราะเขาไม่ได้สนุกกับเราด้วยแน่นอน สำหรับคนที่ถูกบูลลี่ ไม่ว่าจะโดนอะไรมา เข้มแข็งไว้ ยังมีคนอื่นอีกมากที่คอย support เราอยู่เสมอ

ความเข้าใจต่อการถูกบูลลี่

         อีกหนึ่งกิจกรรมที่ทีมผู้จัดเตรียมไว้คือ กิจกรรม YES OR NO ใช่หรือไม่ กับมุมมองและความเข้าใจต่อการบูลลี่ เป็นกิจกรรมที่จะจำลองสถานการณ์ต่าง ๆ ขึ้นมา เพื่อฝึกให้น้องเปิดมุมมองทำความเข้าใจกับการบูลลี่ และสามารถรู้จักการแยกแยะว่าสถานการณ์แบบไหนจัดว่าเป็นการบูลลี่ และสถานการณ์แบบไหนถึงจะไม่จัดว่าเป็นการบูลลี่

การข่มขู่จากจำนวนคนที่มากกว่า ทำให้เหยื่อไร้ที่พึ่ง

         บูลลี่เป็นกลุ่มน่ากลัวมากกว่าที่เราคิดไว้ ริส-ฮาริส เกิดภักดี นักศึกษาคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เล่าว่าการรวมหัวกันบูลลี่เหยี่อเพียงคนเดียว เป็นประเภทที่พบได้บ่อยมากที่สุดในสถานศึกษา ทำให้เกิดผลกระทบกับเหยื่อที่ไม่สามารถหาที่พึ่งพาหรือขอความช่วยเหลือจากใครได้ ไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่จากกลุ่มคนรังแก ผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้เพราะถูกข่มขู่จากคนที่บูลลี่หรือเลือกที่จะไม่สนใจ

ริส-ฮาริส เกิดภักดี นักศึกษาคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

         ริสได้กล่าวเสริมว่า การบูลลี่ในสถานศึกษาส่งผลกระทบในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นที่ตัวน้องที่ถูกบูลลี่ ไม่สามารถไปเผชิญหน้ากับคนที่บูลลี่เราได้ เกิดความหวาดกลัว วิตกกังวล ไม่สามารถจดจ่อกับการเรียนได้ ทำให้เกิดผลการเรียนแย่ตามมา อาจส่งผลไปยังการขาดเรียนหรือลาออกได้ และจะเป็นปัญหาตามมาในด้านการศึกษาในสถานศึกษาได้

หาเวลาพักผ่อนให้ตนเองบ้างนะ

         การนันทนาการคลายเครียด กิจกรรมบอกเล่าเรื่องราวระบายความในใจ กิจกรรมนี้นอกจากจะทำให้น้องคลายเครียดกันแล้ว ยังมีจุดประสงค์เพื่อให้น้องรู้จักการรับมือกับปัญหาที่อยู่ตรงหน้า โดยน้องทุกคนต้องหาของมาหนึ่งชิ้น เพื่อช่วยกันสร้างเรื่องราวให้มีเนื้อเรื่องต่อกัน โดยจะต้องมีของที่น้องเลือกมาอยู่ในเรื่องราวด้วย ทำให้น้องต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์จัดการกับปัญหาตรงหน้า และช่วยกันเพื่อให้เรื่องราวนี้สามารถดำเนินไปถึงจุดจบได้ด้วยดี

ไม่มีใครเข้าใจตัวเราได้มากกว่าเราที่เห็นคุณค่าในตัวเอง

         มองเห็นคุณค่าในตัวเอง รับมือกับการถูกบูลลี่ โฟร์โมสต์-อรัญญา สินมา นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ แสดงความคิดเห็นว่า การเพิ่ม Self-esteem หรือการเพิ่มคุณค่าให้กับตัวเองเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันตัวเองจากการถูกบูลลี่

โฟร์โมสต์-อรัญญา สินมา นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

         การเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง การยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น สิ่งที่ตัวเองมี และเพิ่มคุณค่า โดยไม่มองว่ามันเป็นข้อด้อย ทำให้เราสามารถปัดความคิดเชิงลบจากคนที่บูลลี่เราได้ หรือถ้าเราไม่ต้องการที่จะยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปสนใจ เพราะว่าอย่างน้อยเราก็มีความมั่นใจในตัวเอง และสามารถมีความสุขในการใช้ชีวิตต่อไปได้

         การเดินหน้ารับมือกับปัญหาเป็นสิ่งสำคัญ กิจกรรม Deal with it พิชิตทุกสถานการณ์ และแล้วก็มาถึงกิจกรรมสุดท้ายของวัน กิจกรรมที่จะให้น้องมาร่วมกลุ่มกันเพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาของคนที่ถูกบูลลี่ โดยเลือกใช้เครื่องมือ 8 อย่างที่มีให้ในการแก้ไขปัญหา โดยแต่ละกลุ่มจะต้องส่งตัวแทนออกมาเล่าวิธีการแก้ไขปัญหาและเครื่องมือที่กลุ่มของตัวเองเลือกใช้ในสถานการณ์การถูกบูลลี่

         ถึงแม้ว่าในปัจจุบันยังคงมีการบูลลี่ในสถานศึกษาอยู่ แต่ด้วยสื่อและกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ก็ช่วยให้หลายคนตระหนักถึงปัญหานี้ได้ แม้ว่าจะยังมีคนไม่ใส่ใจ และยังทำการบูลลี่ผู้อื่นต่อไป ทางแก้ที่พวกเราทำได้ก็คือการเพิ่ม Self-esteem ให้กับตัวเอง รักและเห็นคุณค่าของตัวเอง การที่เรามั่นใจในตัวเองจะทำให้รับมือกับการบูลลี่ได้ดีขึ้น ขอร่วมเป็นกำลังใจให้กับน้องที่เคยถูกบูลลี่มาก่อน และเราทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้ไปด้วยกัน

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ โครงการพัฒนาผู้นำนักศึกษาเพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม (Social Change Leader Incubation Program) จัดโดยคณาจารย์สายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

Writer

ฉันล้ม แล้วก็ล้ม ล้ม แล้วก็นอน

Writer

อยากกินข้าวเหนียวมะม่วงจัง

Writer

เกิดแก่กินนอน

Writer

ใช้ชีวิตให้เหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้าย

Writer

นักศึกษาคณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

Writer

อะจ๊ะเอ๋ สวัสดีท่านผู้เจริญ

Writer

เวลาก็แค่ตัวเลข(แหละ)

Writer

งานนี้ต้องสู้