“อันยองฮาเซโย” คำทักทายด้วยภาษาเกาหลี และรอยยิ้มที่สดใสของสองหนุ่มสาวจากแดนกิมจิ ตัวแทนนักศึกษาเกาหลี ทำให้เราอดที่จะส่งยิ้มตอบไม่ได้ ยองจุน และแฮอึน นักศึกษาจาก Dong-Ah Institute of Media and Arts (DIMA) จากประเทศเกาหลีใต้ ที่เดินทางมาเรียนรู้ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพในโครงการ DIMA to BU 2020 Project
![01](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/01-1.jpg)
โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือของ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, Bangkok University International (BUI), คณะนิเทศศาสตร์ และ Dong-Ah Institute of Media and Arts (DIMA) จากประเทศเกาหลีใต้ โปรแกรมนี้เปิดโอกาสให้นักศึกษาเกาหลี จำนวน 10 คน ร่วมกับนักศึกษาไทย และนักศึกษาต่างชาติของม.กรุงเทพ อีกประมาณ 10 คน ได้ทำงานร่วมกัน มีกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย ประกอบไปด้วย Communication Arts Workshops กิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ และการเรียนรู้วัฒนธรรมไทย กับ คณะนิเทศศาสตร์ สาขา Innovative Media Production (IMI) เป็นเวลาเกือบสองสัปดาห์
![02](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/02-1.jpg)
![02](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/02-1.jpg)
ไม่เพียงแต่พวกเขาจะเปลี่ยนที่เรียน แต่ต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ เพื่อรับประสบการณ์และความรู้ใหม่นี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งความหมายของการมาเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นความโชคดีมากที่เราได้มีโอกาสได้พูดคุยกับพวกเขา ถึงแม้จะมีเวลาไม่นาน แต่สองหนุ่มสาวที่วัยใกล้เคียงกับเรา มีอะไรมากมายมาเล่าให้ฟัง
สัปดาห์ของโอปป้า เกาหลี ในรั้ว BU
หนุ่มหล่อคนแรกที่เราขอแนะนำ KIM YONG JUN จะขอเรียกสั้น ๆ ว่า “ยองจุน”
![03](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/03-1.jpg)
![03](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/03-1.jpg)
KIM YONG JUN หรือ ยองจุน นักศึกษาจาก DIMA
ยองจุนได้เล่าถึงเหตุผลที่เลือกมาร่วมโครงการ DIMA to BU 2020 Project ไว้ว่า “ผมเคยไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกาสามเดือน หลังจากนั้นจึงอยากมาแลกเปลี่ยนอีก ได้เห็นประกาศโครงการนี้ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพที่สถาบันที่ผมเรียน ผมจึงหาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ พอได้เห็นข้อมูลว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ทำให้ผมอยากลองมาที่นี่” เราฟังยองจุนเล่าด้วยน้ำเสียงแห่งความประทับใจ
หนุ่มเกาหลียังบอกถึงเรื่องการปรับตัวใช้ชีวิตในประเทศไทยว่า “ผมรู้สึกว่าที่ประเทศไทยทำอะไรสบาย ๆ ค่อนข้างช้า ไม่เหมือนที่ประเทศเกาหลีที่ทำอะไรก็จะรวดเร็วไปหมด รู้สึกว่าคนไทยใช้ชีวิตแบบ Slow life แถมคนไทยยังเป็นมิตร และใจดีมาก”
วัฒนธรรมการกินและผัดไทยที่ใคร ๆ ก็ชอบ
อาหารการกินถือเป็นวัฒนธรรมที่คนต่างชาติสนใจเรียนรู้ “ส่วนเรื่องอาหารผมว่าคนไทยจะกินน้อยกว่าคนเกาหลี เพราะอาหารเกาหลีจะมีเครื่องเคียงเยอะกว่าอาหารไทย ช่วงแรกผมต้องกินข้าวสองจานต่อมื้อ ตอนหลังก็ปรับตัวได้แล้ว กินจานเดียวก็พอ”
เราจึงถามต่อว่ายองจุนของเราชอบกินอะไรเป็นพิเศษ “อาหารที่ผมชอบเป็นพิเศษมีอยู่ 3 อย่าง คือ ส้มตำ เพราะรสชาติคล้ายกับกิมจิของเกาหลี อย่างที่สองคือ ก๋วยเตี๋ยวไก่ เพราะผมได้กินตอนเช้าทุกวัน และสุดท้ายคือชาไทย เพราะรสชาติเหมือนชาที่ประเทศเกาหลี แต่สิ่งที่แปลกคือที่ประเทศไทยชาเป็นสีส้ม” ส่วนชาเกาหลีสีสันจะไม่จัดจ้านเท่าชาไทย
![04](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/04-1.jpg)
![04](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/04-1.jpg)
คลาสเรียนที่นี่ยังจัดให้หนุ่มเกาหลีคนนี้ได้มีโอกาสทำอาหารไทย “ผมยังชอบการเรียนในคลาสทำอาหาร เพราะได้ทำผัดไทย ถึงผมไม่ได้เตรียมวัตถุดิบเอง แต่ผมได้ผัดเส้น และปรุงอาหารเอง ในคลาสเรียนเป็นผัดไทยไก่ แต่ผมเคยกินผัดไทยกุ้ง ผมชอบผัดไทยกุ้งมากกว่า” เขายังอธิบายท่าทางประกอบการทำอาหารให้ดูอีกด้วย
![05](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/05-1.jpg)
![05](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/05-1.jpg)
![06](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/06-1.jpg)
![06](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/06-1.jpg)
การสอนทำผัดไทยและขนมไทยต่าง ๆ ยังได้เชฟมือดีมาให้ความรู้ เราตามไปดูที่คลาสนี้ เห็นเด็กเกาหลีและเด็กไทยสวมหมวกเชฟ และชุดเชฟอย่างทะมัดทะแมงยืนอยู่หน้าเตา ทำอาหารด้วยความตั้งใจ อาหารวันนั้นใครได้ลองชิมเป็นต้องติดใจไปตาม ๆ กัน เพราะแต่ละคน แต่ละทีมร่วมแรงใจทำอาหารกันอย่างเต็มที่ อิ่มท้องกับอาหารและยังอิ่มใจในมิตรภาพของเพื่อนใหม่ที่ได้ทำความรู้จักอีกด้วย
ทริปการเรียนรู้วัฒนธรรม
ฟังเรื่องกินไปแล้ว มาถึงเรื่องเรียนในโปรแกรมนี้กันบ้าง ยองจุนได้เล่าถึงบรรยากาศการเรียนไว้ว่า “ผมชอบรูปแบบในการเรียนแบบนี้มาก ชอบทุกคลาสที่เข้าเลย ส่วนที่ชอบที่สุดคงเป็นการไปเข้าชมคานโชว์ที่พัทยา (KAAN SHOW PATTAYA) เป็นการไปชมโชว์เพื่อที่จะนำแรงบันดาลใจที่ได้มาทำ Final Project ตอนที่ผมไปดู ผมไม่ค่อยเข้าใจเนื้อเรื่องเท่าไหร่ เพราะเป็นวรรณคดีไทย เช่น เรื่องเงาะป่า ชาละวัน ถึงเป็นการแสดงแบบโชว์แต่ผมไม่ได้โฟกัสกับการแสดงเลย ผมไปโฟกัสกับ Special effect แทน ในการโชว์มีจอฉายภาพที่เป็นฉากหลัง นำเสนอแสง สี และเสียงประกอบการแสดง ทำให้การแสดงนี้ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว”
![07](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/07-1.jpg)
![07](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/07-1.jpg)
![08](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/08-1.jpg)
![08](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/08-1.jpg)
การไปชมโชว์ทำให้ยองจุนและเพื่อนคิดนำเสนอคลิปวิดีโอที่เล่าเรื่องวัฒนธรรมไทย สื่อสารเป็นภาษาเกาหลี โดยยองจุนได้เรียนรู้การทำคลิปวิดีโอเพิ่มเติมในคลาสเรียนการเล่าเรื่องและการตัดต่อที่มีอาจารย์ให้คำแนะนำในการทำงานอย่างใกล้ชิด ซึ่งผลงานครั้งนี้เขากำลังเตรียมตัวนำเสนอในวันก่อนเดินทางกลับประเทศเกาหลี
จีบและตั้งวง
รำไทยและคุณครูชาวไทยคืออีกสิ่งหนึ่งที่ยองจุนประทับใจ “พวกผมได้เรียนรำไทยกันด้วย แต่สิ่งที่ยากที่สุดคือ การจีบและการตั้งวง เพราะมือของผมแข็ง ผมไม่สามารถทำให้มืออ่อนตามอาจารย์ผู้สอนได้ ทำให้ผมรู้สึกตึง และปวดที่หลังมือมาก รำไทยของที่นี่มีความคล้ายกับการแสดงของเกาหลี และในคลาสมีโจงกระเบนสำเร็จรูปให้ใส่ด้วย พอใส่เข้าไปแล้วผมรู้สึกทะมัดทะแมง เดินสะดวกมากขึ้น”
เราเห็นท่าทางที่ยองจุนพยายามตั้งวงและจีบให้เราดูด้วยความตั้งใจ ใครเห็นเป็นต้องหลงรักโอปป้าคนนี้แน่นอน
![09](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/09.jpg)
![09](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/09.jpg)
![10](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/10-1.jpg)
![10](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/10-1.jpg)
![11](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/11.jpg)
![11](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/11.jpg)
![12](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/12.jpg)
![12](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/12.jpg)
![13](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/13.jpg)
![13](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/13.jpg)
ล่องเรือเรียนรู้วิถีชีวิตริมน้ำเจ้าพระยา
การล่องเรือที่แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นกิจกรรมที่นักเดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองไทยไม่ควรพลาด เพราะเราจะเห็นบรรยากาศริมน้ำเจ้าพระยา วัดวาอารามในยามค่ำคืน “ผมได้ไปล่องเรือที่แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของผมที่ได้นั่งเรือแบบนี้ เรือมีการตกแต่งที่หรูหรามาก ผมเพลิดเพลินไปกับการชมวิวของสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จนลืมกินข้าวเย็นไปเลย”
![14](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/14.jpg)
![14](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/14.jpg)
![15](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/15.jpg)
![15](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/15.jpg)
ที่ยองจุนเล่ามานี้ ทั้งหมดคือกิจกรรมในคลาสที่เราได้จัดเตรียมไว้ให้ แต่ก็ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ไปทำกิจกรรมนอกคลาสอีกด้วย ยองจุนได้ไปที่ไหนมาบ้างนะ ?
เพื่อนใหม่เกิดขึ้นได้เสมอ
ยองจุนบอกเล่ามิตรภาพของเพื่อนชาวไทยที่ได้รู้จักเพิ่มขึ้นให้ฟังว่า “ผมได้ไปเดินที่ Night Market ผมไปเจอร้านเพ้นท์ และเจ้าของร้านเพ้นท์เธอน่ารักมาก เราทั้งสองได้แลกข้อมูลการติดต่อกัน แล้วเธอพูดภาษาเกาหลีได้ ทำให้คุยกันง่ายขึ้น ซึ่งเธอก็พักในละแวกเดียวกันกับผม จึงมีโอกาสนัดกันไปทานข้าว และเธอบอกว่าเธอก็ชื่นชอบศิลปินเกาหลีมาก เราคุยกันเกี่ยวกับประเทศเกาหลี แถมผมยังได้สอนภาษาให้เธออีกด้วย”
ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด
เราได้พูดคุยกับยองจุงในวันที่เขากำลังจะนำเสนอ Final Project เพื่อส่งงานจบโปรแกรมการมาเรียนรู้ในครั้งนี้ โดยมีผู้บริหาร คณาจารย์ และนักศึกษาของไทยและเกาหลีมาร่วมฟังการนำเสนอมากมาย เขาตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ก็สนุกสนานในการนำเสนองาน พร้อมทั้งได้รับฟังความคิดเห็นจากอาจารย์ เพื่อนำคำแนะนำไปปรับปรุงผลงานคลิปวิดีโอให้ดียิ่งขึ้น
![16](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/16.jpg)
![16](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/16.jpg)
![17](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/17.jpg)
![17](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/17.jpg)
![18](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/18.jpg)
![18](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/18.jpg)
เดี๋ยวก็จะได้กลับบ้านแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง เราถามคำถามสุดท้าย “รู้สึกเสียดายที่จะต้องกลับแล้ว เพราะมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำ แต่วันแรกที่มาถึงผมรู้สึกว่าอากาศร้อนมาก ช่วงนี้ที่ประเทศเกาหลี -5 องศา แต่พออยู่มาสักพักก็เริ่มชิน ส่วนเรื่องอาหาร ตอนแรกยังไม่ค่อยชินสักเท่าไหร่ พออยู่สักพักก็เริ่มจะชินกับอาหารเหมือนกัน แต่ถึงอย่างไรผมบอกเลยว่าจะหาโอกาสกลับมาเที่ยวที่ประเทศไทยอีก”
![19](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/19.jpg)
![19](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/19.jpg)
ประเทศไทยก็ยินดีต้อนรับเสมอ ต้องกลับมาให้ได้นะ เราย้ำกับยองจุน และสุดท้ายนี้อยากให้ยองจุนได้สรุปประสบการณ์ที่มาแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ให้พวกเราฟังหน่อย “ผมพอใจกับโครงการนี้มาก ทำให้ผมได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมไทย สิ่งที่ทำให้ผมพอใจมากที่สุดคือการได้พบเพื่อนใหม่ แต่สิบกว่าวันผมรู้สึกว่ามันน้อยเกินไป เพราะเป็นช่วงเวลาที่กำลังทำให้ผมสนิทกับเพื่อนที่นี่ ถ้ามีเวลามากกว่านี้ผมก็จะทำความสนิทกับเพื่อนให้มากที่สุด พอใกล้วันกลับบ้านผมจึงเสียใจที่จะต้องจากกัน”
![20](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/20.jpg)
![20](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/20.jpg)
ยองจุนยังบอกอีกว่า อีกสิ่งหนึ่งที่อยากทำคือการเรียน “มวยไทย” เรารับรองว่าถ้าครั้งหน้ายองจุนแวะมาเยี่ยมเราที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เราจะพาไปเข้าคลาสมวยไทยอย่างแน่นอน
ได้ฟังเรื่องราวของหนุ่มหล่อกันไปแล้ว มาฟังเรื่องราวของสาวสวยระดับนางเอกซีรีย์เกาหลีกันบ้าง
สวัสดีเราชื่อ “แฮอึน”
นับเป็นครั้งแรกของพวกเราก็ว่าได้ที่ได้สัมภาษณ์พูดคุยกับพี่สาวที่ใจดี EO HYE EUN เป็นชื่อของเธอ แต่เรียก “แฮอึน” ก็ได้ เธอได้บอกกับเราว่าเธอเคยไปประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์มาก่อน ส่วนตัวแล้วเธอไม่ได้รู้จักว่าประเทศไทยเป็นอย่างไร แต่เห็นในรายการทีวี และพวกรายการแนะนำการท่องเที่ยว นี่เลยเป็นเหตุผลที่อยากมาเรียนแลกเปลี่ยนที่เมืองไทย และอยากทำความรู้จักกับเพื่อนคนไทย
![21](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/21.jpg)
![21](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/21.jpg)
EO HYE EUN หรือ แฮอึน นักศึกษาจาก DIMA
เราถามต่อว่าตอนนี้มีเพื่อนเป็นคนไทยบ้างหรือยัง แฮอึนบอกว่า “มีแล้ว เราได้รู้จักเพื่อนหลายแบบเลย ส่วนหนึ่งก็เป็นเพื่อนคนไทยที่ม.กรุงเทพ ที่ได้มาร่วมโครงการด้วยกัน แล้วก็ได้รู้จักเพื่อนของเพื่อนที่เขาได้มาแนะนำให้รู้จักอีกที”
เปิดประสบการณ์ใหม่
การมาเมืองไทยในครั้งนี้ พี่สาวคนสวยยังได้มีโอกาสไปทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมากมาย “เราได้เจอเพื่อนใหม่ที่ถนนข้าวสาร แลกข้อมูลการติดต่อกัน ได้รู้จักเพื่อนที่เป็นคนไทยที่เคยไปเรียนที่เกาหลี เขาพาเราไปเที่ยวที่ต่าง ๆ ทำให้เรามีเพื่อนเยอะขึ้นไปอีก เรายังมีโอกาสได้ไปเที่ยวตลาดนัดรถไฟรัชดา ได้ไปทำเล็บ เพราะเป็นคนที่ชอบแต่งตัว ชอบที่เมืองไทยมาก เพราะของที่นี่ราคาย่อมเยากว่าประเทศเกาหลี”
![22](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/22.jpg)
![22](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/22.jpg)
ทั้งได้เที่ยวและได้เพื่อนสมใจเธอเลย แฮอึนยังเล่าถึงการเดินทางที่ค่อนข้างหลากหลายในไทยว่า “การเดินทางที่เกาหลีมีแค่แท็กซี่ รถบัส รถไฟ แค่นี้ แต่ในกรุงเทพมีหลายอย่างมาก ทั้งรถตุ๊กตุ๊ก วินมอเตอร์ไซค์ รถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดิน ตัวเราเองเคยขึ้นเกือบหมดแล้วยกเว้นรถตุ๊กตุ๊ก” ถ้ามาประเทศไทยรอบหน้าแฮอึนต้องมาหาโอกาสขึ้นรถตุ๊กตุ๊กให้ได้ เราเสนอตัวเองเป็นไกด์พาเธอเที่ยว
ได้เรียนรู้จากคนเก่ง ๆ มากมาย
เรากลับมาคุยเรื่องการเรียนในคลาสกันดีกว่า ว่าแฮอึนรู้สึกอย่างไรบ้าง “เรารู้สึกว่าทุกคลาสที่มหาวิทยาลัยจัดให้ เขาได้เชิญผู้บรรยายที่เป็นบุคคลที่เชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงในไทยมาบรรยายให้พวกเราฟัง ทั้ง Youtuber และได้เรียนรู้ในการทำ Music Video, ทำหนังสั้น (Short Film) อีกด้วย ทางมหาวิทยาลัยได้เตรียมการมาอย่างดี รู้สึกพอใจเป็นอย่างมากเลย”
![23](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/23.jpg)
![23](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/23.jpg)
![24](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/24.jpg)
![24](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/24.jpg)
![25](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/25.jpg)
![25](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/25.jpg)
เรียนเยอะขนาดนี้แล้วแฮอึนชอบคลาสไหนที่สุด “เราชอบทุกคลาสเลยนะ”
ส่วนที่ชอบเพิ่มเติมคือการได้ไปทัศนศึกษา (Field trip) “ชอบสุดก็คงเป็นการไปเที่ยวพัทยา เพราะชอบร้านอาหารที่พัทยา ร้านมุมอร่อย เป็นร้านอาหารซีฟู้ด เรากินแบบจัดหนักเลย วันนั้นเป็นวันที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก ทั้งเรื่องอาหาร ที่ยังมีอาหารแบบพื้นเมือง อาหารทะเล ก๋วยเตี๋ยวเรือ และก็วิวสวยมากเลย”
![26](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/26.jpg)
![26](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/26.jpg)
![27](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/27.jpg)
![27](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/27.jpg)
ความแตกต่างคือความท้าทาย
เราได้ฟังกิจกรรมสนุกสนานมากมายจากแฮอึน จึงอยากรู้ต่อว่า เธอเจอกับปัญหาอะไรบ้างไหมในการมาไทย “เรื่องแรกก็คืออากาศเพราะต้องปรับตัว อากาศทั้งร้อนและชื้น ไม่คุ้นเคย อีกอย่างอาจจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรม หรือเป็นเพราะสภาพอากาศก็เป็นได้ ที่เกาหลีเราจะทำอะไรรวดเร็วและตรงต่อเวลามาก แต่ที่นี่ทุกคนอาจจะมีความสบายอยู่บ้าง” แฮฮึนอธิบายให้เราฟังด้วยรอยยิ้มและความเข้าใจที่มีต่อวัฒนธรรมไทย
![28](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/28.jpg)
![28](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/28.jpg)
สิ่งที่ได้เรียนรู้จาก BU
สุดท้ายนี้อยากให้แฮอึนมาบอกเล่าประสบการณ์ในการมาแลกเปลี่ยนครั้งนี้ “การมาแลกเปลี่ยนในครั้งนี้มันคุ้มกว่าการมาแบบทัวร์ เราได้สัมผัสในหลายแง่มุม ได้ประสบการณ์หลายอย่าง และรู้สึกดีที่ทางมหาวิทยาลัย อาจารย์ และเพื่อน ๆ ที่นี่ ดูแลเรา เตรียมทุกอย่างมาดี ทุกอย่างที่มหาวิทยาลัยทำให้ คือได้ผ่านการคิดมาดีแล้ว ทั้งการดูแล เทคแคร์ การเอาใจใส่ เรายังรู้สึกไม่อยากกลับประเทศเกาหลี เพราะว่าสามวันแรกป่วย แต่หลังจากที่หายป่วยแล้ว ทำให้การใช้ชีวิตที่กรุงเทพสนุกมากกว่าสามวันแรกที่มา เราคิดว่าแค่สัปดาห์กว่า น้อยเกินไปสำหรับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ประเทศไทย”
เราพูดคุยกันมาได้สักพักใหญ่ เหลือบมองนาฬิกา ได้เวลาที่ยองจุน และแฮอึนต้องไปนำเสนองาน Final Project ก่อนเดินทางกลับเกาหลี
![29](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/29.jpg)
![29](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/29.jpg)
![30](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/30.jpg)
![30](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/30.jpg)
![31](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/31.jpg)
![31](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/31.jpg)
![32](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/32.jpg)
![32](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/32.jpg)
“คัมซาฮัมนีดา” เราส่งภาษาเกาหลี ที่แปลว่าขอบคุณ ให้กับ ยองจุน และแฮอึน สำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ในโครงการ DIMA to BU 2020 Project การเดินทางไปต่างแดน เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ รู้จักเพื่อนใหม่ วัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคย ทำให้เราเติบโตในการใช้ชีวิต มองโลกในมุมที่กว้างขึ้น เพราะเราต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
![33](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/33.jpg)
![33](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/33.jpg)
ข้อมูลเพิ่มเติม
- DIMA to BU 2020 Project เป็นโครงการที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13-22 มกราคม 2563
- สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพที่สนใจเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ สามารถติดตามข้อมูลได้ที่ International Center Bangkok University และ Facebook Fanpage ของคณะนิเทศศาสตร์ BUCA International