หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับสาขาสุดฮิตของคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คือสาขาการผลิตอีเว้นท์และการจัดการนิทรรศการและการประชุม หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่าสาขาอีเว้นท์นั่นเองค่ะ
ปีที่ผ่านมานักศึกษาในสาขานี้ก็ได้สร้างผลงานขึ้นมามากมาย เช่น งาน Bangkok Night และ งานล้อมวงหลง BU ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก และได้รับการพูดถึงเป็นวงกว้าง
เราจึงอยากจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับหัวหน้าทีมผู้อยู่เบื้องหลังงานเหล่านี้ นั่นก็คือ พี่แก้ม-ชุติมา จันรุ่งเรือง และพี่กัสจัง-เจนนิสา กิจจาชาญชัยกุล ซึ่งทั้งสองคนต่างก็เป็นคนสำคัญที่ทำให้งานออกมาปังขนาดนี้ เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่ากว่าจะได้มาทำงานตรงนี้นั้นต้องผ่านอะไรมาบ้าง ลำบากขนาดไหน แล้วประสบการณ์จากการทำงานสอนอะไรแก่เราบ้าง
![01](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/01-2.jpg)
ก่อนจะมาเป็นเด็กอีเว้นท์ ม.กรุงเทพ
เรามาทำความรู้จักพี่แก้มให้มากขึ้นอีกนิด พี่แก้ม เป็นลูกคนจีน ผิวขาว หน้าตาสวยคมได้รูป ทรงผมเป็นสิ่งที่ดึงดูดสายตาเป็นอย่างมากเพราะผมที่ยาวสวยเงางาม
![แก้ไข1 แก้ไข1](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/แก้ไข1-scaled-750x500.jpg)
![แก้ไข1 แก้ไข1](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/แก้ไข1-scaled-750x500.jpg)
พี่แก้ม-ชุติมา จันรุ่งเรือง
เมื่อเราถามถึงวัยเด็กของพี่แก้ม พี่แก้มยิ้มแล้วตอบว่า “ตอนเด็กเป็นคนขี้เล่น ซนเลยแหละ แล้วก็เป็นคนร่าเริง เข้ากับคนอื่นง่าย” อีกทั้งพี่แก้มยังเสริมอีกว่าเป็นคนชอบศิลปะ ชอบวาดรูประบายสีมาตั้งแต่เด็ก ๆ ได้เริ่มมาเรียนศิลปะตอนช่วงมัธยมปลาย ด้วยความสนใจนี้เองจึงทำให้พี่แก้มได้มาทำในฝ่าย PR หรือฝ่ายโปรโมทในงานอีเว้นท์
![03](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/03-3.jpg)
![03](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/03-3.jpg)
พี่กัสจัง-เจนนิสา กิจจาชาญชัยกุล
เมื่อมาถามทางพี่กัสจัง ที่ดูเป็นผู้หญิงลุย ๆ แต่น่ารัก เราได้รับคำตอบว่า ตอนเด็กพี่กัสจังเป็นคนที่ชอบเที่ยว ชอบออกไปเจอผู้คนใหม่ ๆ ไม่ค่อยชอบอยู่ในบ้าน เป็นคนชอบทำกิจกรรม อย่างตอน ม.ปลาย พี่กัสจังเคยเป็นหัวหน้าในงานต่าง ๆ “ตอน ม.4 เป็นประธานพาเหรดกีฬาสี ม.5 ได้ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ม.6 กลับมาเป็นประธานหนังสือรุ่น คือเป็นเด็กที่ชอบทำกิจกรรม ชอบออกไปเที่ยว” เป็นนักกิจกรรมตัวยงเลยทีเดียว นั่นเป็นเพราะครอบครัวของทั้งสองคนมีส่วนสนับสนุน
จุดเริ่มต้นในวงการอีเว้นท์
ต่อมาเราถามถึงเรื่องเหตุผลที่อยากมาเรียนในสาขาอีเว้นท์ ซึ่งคำตอบของพี่แก้มสร้างความประหลาดใจไม่น้อย พี่แก้มตอบว่าเพราะพี่แก้มเป็นคนที่ชอบจัดงานวันเกิดให้เพื่อนและคนรอบตัว เป็นคนที่ชอบคิด ชอบทำงานร่วมกับเพื่อน จึงทำให้คิดว่างานออร์แกไนซ์น่าจะใช่ทางของตัวเอง
“ตอนม.4 เริ่มจัดวันเกิดให้เพื่อนเกือบทุกเดือน เพื่อนมีสิบคนก็จัดให้หมด คิดว่าเราน่าจะชอบสังคม ชอบเจอผู้คน ชอบแบบสังสรรค์ปาร์ตี้ เราแฮปปี้กับการทำงานแบบนี้ คิดว่าออร์แกไนซ์น่าจะเหมาะกับเราที่สุดแล้ว” ปัจจุบันพี่แก้มได้มาทำงาน Graphic design งานคิดสร้างสรรค์ด้านภาพในงานอีเว้นท์
![04](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/04-3.jpg)
![04](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/04-3.jpg)
![05](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/05-3.jpg)
![05](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/05-3.jpg)
ส่วนพี่กัสจัง ตอนแรกตั้งใจจะไปเรียนภาษาญี่ปุ่น แต่ความคิดได้เปลี่ยนไปเมื่อได้ลองไปเข้าค่ายตอนม.6 “พ่อกับพี่สาวก็ช่วยมองว่าจะเรียนภาษาเหรอ รู้สึกว่ามันไม่เข้ากับตัวเอง เพราะเราเป็นคนไม่ค่อยชอบอยู่ในห้องเรียน เราได้ไปเข้าค่ายตอนม.6 ค่ายที่ให้ไปลองเป็นอาชีพนั้นจริง ๆ ไปอยู่กับพวกพี่ ๆ ที่เป็นผู้ใหญ่ที่เขาทำงาน แล้วคราวนี้เราก็ลองเลือกอาชีพครีเอทีฟ ตอนแรกก็รู้สึกว่ายังไม่ค่อยใช่ แต่ได้ออกไปงานข้างนอก พอดูพี่เขาทำงานแล้วรู้สึกว่ามันสนุก ก็เลยเป็นประเด็นที่ทำให้รู้สึกว่าตรงนั้นน่าจะใช่เรา”
ทำให้เราค้นพบว่า อย่าเพิ่งปฏิเสธในสิ่งที่ยังไม่ได้ลอง ไม่แน่สิ่งนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่เราชอบก็ได้ และด้วยความชอบนี้จึงทำให้พี่กัสจังได้มาทำงานตำแหน่งครีเอทีฟในปัจจุบัน
![06](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/06-3.jpg)
![06](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/06-3.jpg)
พี่แก้มกับ “ล้อมวงหลง BU” ซิกเนเจอร์ของเด็กอีเว้นท์ม.กรุงเทพ
พอเราได้ข่าวมาว่าพี่แก้มมีส่วนร่วมในการสร้างงานหลง BU เราไม่รีรอที่จะถามเกี่ยวกับรายละเอียดในขั้นตอนการทำงาน พี่แก้มเล่าว่าได้เป็นหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ เริ่มมาจากว่าได้รับโจทย์จากอาจารย์ว่าให้จัดงานในลานวงกลม พี่แก้มและเพื่อน ๆ คิดว่าอยากจะทำเป็นธีม Music festival ขึ้นมา “ตอนแรกก็คือแข่งกันก่อนว่ากลุ่มไหนจะชนะในโจทย์ที่อาจารย์ให้มา พอชนะ กลุ่มที่ชนะจะต้องแบ่งฝ่ายว่าตัวเองจะไปอยู่ฝ่ายไหน พี่ถนัด PR โปรโมต พวกกราฟฟิก จึงได้เป็นหัวหน้าฝ่ายนี้ไป”
![07](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/07-2.jpg)
![07](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/07-2.jpg)
![08](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/08-2.jpg)
![08](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/08-2.jpg)
เราจึงได้เห็นงาน Music festival เป็นที่แรกและครั้งแรกของคณะนิเทศศาสตร์นั่นเองค่ะ พี่แก้มยังได้เล่าเกี่ยวกับความประทับใจที่ได้มาทำงานหลง BU เสริมมาอีกว่า “พอถึงวันงานจริงมีคนมาเยอะมาก ๆ สิ่งที่เราภูมิใจคือเราจัดงานตั้งแต่คิดงานเลยนะ จนมาถึงการที่มีคนเข้ามาดูเป็นพันคน ซึ่งเป็นผลงานของเด็กปี 2 สาขาอีเว้นท์นะจัดงานได้ขนาดนี้เลยหรอ มีทั้ง Music festival ด้วย แล้วก็ตลาดด้วย เรามีความภูมิใจเพราะเราอยู่ปี 2 เอง เราสามารถรับผิดชอบจัดงานใหญ่ได้” นอกจากนี้สิ่งที่พี่แก้มได้รับเพิ่มเติมคือได้มิตรภาพและเพื่อนใหม่เพิ่มด้วย
![09](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/09-2.jpg)
![09](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/09-2.jpg)
ค่ำคืนที่น่าจดจำกับเบื้องหลังงาน Bangkok Night ม่านน้ำและไฟสุดตระการตา
อีกหนึ่งงานคือ Bangkok Night ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในงาน Open House BU 2019 ที่ผ่านมา พี่กัสจังได้รับการชวนมาจากเพื่อนให้มาร่วมทีมคิดงาน เมื่อได้เข้ามาทำงาน อาจารย์และเพื่อน ๆ ได้มอบหมายหน้าที่ให้มาเป็น Show director ของงาน “งานนี้เราได้ช่วยคิดกันมาตั้งแต่ต้น ก็รู้ลำดับคิว รู้ว่าตรงไหนเป็นยังไง เพื่อนกับอาจารย์ก็ไว้ใจให้มาเป็น Show director”
หน้าที่ของพี่กัสจังในงานนี้ คือการประสานงานกับคนออกแบบ และเรียงลำดับเรื่องราวเพื่อให้คนดูเข้าใจ “เราต้องคุยกับพี่เขาว่า พี่ทำแอนนิเมชั่นแบบไหนได้บ้าง แล้วทีนี้ก็มาลำดับว่าเราจะจัดงานอย่างไรเพราะว่า Bangkok night เป็นโชว์ที่ต้องคิดเรื่องราว”
![10](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/10-2.jpg)
![10](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/10-2.jpg)
![11](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/11-1.jpg)
![11](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/11-1.jpg)
พอเราถามถึงสิ่งที่ได้รับจากการทำ Bangkok Night พี่กัสจัง บอกว่าได้ฝึกฝนประสบการณ์ใหม่ในสิ่งที่ไม่เคยทำ อีกทั้งยังทำให้เป็นคนละเอียดมากขึ้นด้วย “เราต้องมาคุมโชว์ แต่เราไม่เคยเป็นมาก่อน เราก็รู้สึกว่าเรากดดันมากเพราะเป็นตำแหน่งที่สำคัญ คือเราพูดอะไรผิดหรือไม่มีสติ มันก็หลุดไปเลย แล้วโชว์ก็จะผิดพลาด เราไม่เคยทำมาก่อน แล้วพอได้ทำก็รู้สึกเหมือนปลดล็อคแล้วก็ได้เรียนรู้ว่าเราต้องแก้ไขสถานการณ์ยังไง แล้วก็ได้รู้ว่าจะจัดงานซักงานคือมันละเอียดมาก มันไม่ใช่แค่แบบหน้างานไง อีเว้นท์มันก็คือหลังงานด้วย เช่น เราจะจัดตรงไหน กันคนถึงตรงไหน แล้วปิดไฟตรงไหนบ้าง คือต้องคิดหลายอย่าง ทำอะไรปลอดภัยไหม ก็รู้สึกว่ามันทำให้เราพัฒนาทำงานให้ละเอียดมากขึ้น”
![12](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/12.jpg)
![12](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/12.jpg)
ประสบการณ์ที่ได้จากการทำงานจริง
แน่นอนว่าการทำงานทุกงานให้อะไรกับเราเสมอ เราจึงได้ถามพี่ทั้งสองคนถึงประสบการณ์ที่ได้รับจากการทำงานในสาขาการผลิตอีเว้นท์
พี่แก้มตอบว่าได้รู้ข้อผิดพลาดของตัวเองในแต่ละงานแล้วก็ได้นำมาพัฒนาตัวเองเพื่อก้าวสู่การเป็นมืออาชีพในอนาคต “การจัดงานอีเว้นท์หรือการทำงานอีเว้นท์ มันมีเสน่ห์ก็คือ มันมีปัญหาเข้ามาในทุกงานค่ะ แต่เราก็ต้องแก้ไขสถานการณ์เบื้องหน้าให้ดีที่สุดแล้วก็ทำให้ผ่านลุล่วงไปได้ด้วยดี ในทุกงานจะทำให้เรามีประสบการณ์มากขึ้น”
![แก้ไข2 แก้ไข2](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/แก้ไข2-750x500.jpg)
![แก้ไข2 แก้ไข2](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/แก้ไข2-750x500.jpg)
พี่กัสจังย้ำว่า การทำงานจริงได้อะไรมากกว่าการที่เราเรียนแต่ในห้องเรียนอย่างเดียว การทำงานจริงจะทำให้เราได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดที่ในห้องเรียนไม่ได้สอน “เล็กเชอร์ทำให้เราเข้าใจคือเหมือนกับว่าเรารู้นะ เรารู้ แต่ไม่ได้มาเจอปัญหาจริง ๆ คือเราเรียนสาขาอีเว้นท์ด้วยแหละ ก็อาจจะไม่ได้เล็คเชอร์มาก เพราะว่าต้องทำ ต้องเจอปัญหาจริง พอเจอปัญหาจริงเพิ่มประสบการณ์ในตัวไปให้มากขึ้นในการเรียน”
![14](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/14.jpg)
![14](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/14.jpg)
เรียนรู้ชีวิตที่ญี่ปุ่นทำให้เห็นโลกกว้างมากขึ้น
พี่กัสจังยังเคยเป็นนักเรียนทุนไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นด้วย โดยพี่กัสจังได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนตอนม.5 เราได้ถามถึงวิถีชีวิตตอนไปอยู่ที่นั่น พี่กัสจังเล่าให้ฟังด้วยความสนุกสนาน อีกทั้งยังเพิ่มเติมอีกว่า สิ่งที่ได้กลับมาจากการไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นคือการที่ได้เรียนรู้ ได้เติบโต ช่วยเหลือตนเอง เพราะต้องไปอยู่กับโฮสแฟมมีลี่ที่เป็นครอบครัวชาวญี่ปุ่น
![15](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/15.jpg)
![15](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/15.jpg)
“รู้สึกว่าเป็นปีที่แบบทำให้เราเติบโต เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เพราะว่าเราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง เราห่างจากครอบครัว ไม่มีคนไทยด้วย อยู่คนเดียว อยู่กับโฮส โฮสเป็นครอบครัวญี่ปุ่นหมดเลย ไปตอนแรกยังพูดไม่ได้ ต้องพยายามสื่อสารให้ได้ ต้องเอาตัวรอด”
อีกเรื่องที่พี่กัสจังประทับใจคือ “ที่ญี่ปุ่นคือทุกคนแยกขยะ เขาทำเป็นปกติมาก พอกลับมาไทยก็ไม่มีใครทำเลย ไม่มีใครแยกขยะ เราก็ได้มาทบทวนใหม่ว่า ทำไมทุกคนไม่แยกขยะทั้งที่มันก็เป็นเรื่องสำคัญมาก คือถ้าเราแยก ก็จะไม่มีขยะ คือเราได้เรื่องจิตสาธารณะกลับมามาก”
พี่กัสจังยังเสริมมาในเรื่องของการเล่นกีฬาตอนไปญี่ปุ่นด้วยว่า “กีฬาสำคัญมากที่ญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าจะเป็นชมรมในโรงเรียนก็จริงจังมาก คือ คุณก็ต้องซ้อม คุณต้องมีวินัยแล้วคุณก็ต้องอดทน คือเราไม่เคยเป็นนักกีฬาอยู่แล้ว แล้วยิ่งไปอยู่ญี่ปุ่นอีก คือเครียดมาก ต้องซ้อมทุกเย็น เสาร์อาทิตย์ไม่ได้หยุด นักเรียนแลกเปลี่ยนคนอื่นที่เป็นคนไทยได้ไปเที่ยว ส่วนของพี่คือแบบไปซ้อม สนุก ได้อะไรเยอะมาก รู้แพ้ รู้ชนะ ต้องอดทน ถ้าจะทำให้ได้ต้องอดทน ฝึกซ้อม พยายาม”
![16](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/16.jpg)
![16](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/16.jpg)
เพจของเด็กอีเว้นท์
พี่กัสจังนอกจากจะเป็นหัวหน้าในฝ่ายงาน พี่กัสจังยังเป็นนักศึกษาทุนของม.กรุงเทพอีกด้วย โดยทุนที่ได้คือ BU Creative ด้วยการนำเสนอโปรเจคเกี่ยวกับการนำเอาขยะมาทำอีเว้นท์แฟชั่นโชว์ พอต่อมาก็เริ่มเปลี่ยนโปรเจคเป็นการทำเพจ Facebook และทำช่องยูทูปที่เกี่ยวกับการเรียนอีเว้นท์
“ล่าสุดคือทำเกี่ยวกับว่าเราอยากนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กที่มาเรียนสาขาอีเว้นท์ เพราะว่าเรารู้สึกว่าใหม่ในประเทศไทย ยังไม่ค่อยมีใครมาเล่า สาขาคณะอื่นก็มีคนพูดเยอะแล้ว แต่คณะอีเว้นท์เพิ่งเปิดเป็นปีแรก คือเรารู้สึกว่าตอนเราอยากเรียน เราไม่มีข้อมูลเลย แล้วรุ่นพี่ไม่มีด้วย รู้สึกว่าอยากทำตรงนี้ อีกทั้งในอนาคตมันเป็นประโยชน์กับคนอื่น” ถ้าใครสนใจก็อย่าลืมไปกดไลค์เพจของพี่กัสจังกันนะคะ ชื่อเพจว่า อีเว้นท์ไดอารี่ สะกดเป็นภาษาไทย
ฝันที่ใฝ่ในอนาคต
ก่อนที่จะจบการสัมภาษณ์ เราได้ถามเกี่ยวกับอาชีพที่อยากทำในอนาคต “อยากเป็นฟรีแลนซ์ ใครจ้างมาเราก็สามารถทำได้ตลอดเวลา ไม่ได้กำหนดว่าต้องไปสังกัดบริษัทนะ” พี่แก้มตอบ
ส่วนของพี่กัสจังบอกว่ายังอยากทำในเครือข่ายของงานอีเว้นท์อยู่ “ตอนนี้สนใจคืออยากไปทำงานเกี่ยวกับแวดวงในอีเว้นท์ อยากลองไปเป็นออแกไนซ์ในบริษัทใหญ่บ้าง”
![แก้ไข3 แก้ไข3](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/แก้ไข3-scaled-750x500.jpg)
![แก้ไข3 แก้ไข3](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/แก้ไข3-scaled-750x500.jpg)
![18](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/18.jpg)
![18](https://connect.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/03/18.jpg)
ผลงานพี่ทั้งสองคนก็แอบกระซิบมาว่าตอนนี้กำลังเตรียมงาน BU Open house ของปีนี้อยู่ รับรองว่า Bangkok Night ในปีนี้จะกลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม ฟังมาถึงตอนนี้บอกได้เลยว่างานอีเว้นท์ที่ยิ่งใหญ่ สนุกสนานของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ขับเคลื่อนและจัดงานด้วยพลังเล็ก ๆ ของนักศึกษา ไม่ว่างานจะเล็กหรืองานจะใหญ่ ถ้าเราทำด้วยใจที่มุ่งมั่น รับรองว่าเราได้ทั้งความรู้และประสบการณ์ที่จะทำให้เราเติบโตต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน
ขอขอบคุณภาพประกอบจากสาขาวิชาการผลิตอีเว้นท์และการจัดการนิทรรศการและการประชุม คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ