เวลาของผม บาดแผลแห่งการเรียนรู้

เมื่อเวลาเป็นสิ่งที่เรียกกลับคืนมาไม่ได้ เรียนรู้ที่จะใช้เวลาอย่างคุ้มค่า

          หลายคนบอกว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่า แต่ผมคิดว่าเวลาเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ต่างหาก

          วันนี้เป็นวันที่ตื่นเต้นมากเลย เป็นวันที่เพื่อนมัธยมรวมตัวกัน แล้วแต่ละคนไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี แต่แฟนผม เธอไม่อยากให้ผมไป เพราะเธออยากให้ผมไปส่งเธอที่บ้านในเวลา 20.00 น. เพราะว่าเป็นวันครบรอบ เพียงเเค่เวลาสั้น ๆ ตอนผมไปส่งเธอ

          แต่เวลา 20.00 น. เป็นเวลาที่เพื่อนนัดรวมตัวกันพอดี ระดับผมคิดจะเลือกไปส่งแฟน ก่อนแทนที่จะไปปาร์ตี้กับเพื่อน แน่นอนผมไม่ไปส่งเธออยู่แล้ว ผมขอเลือกไปปาร์ตี้กับเพื่อนก่อนดีกว่า

          เสียงดนตรีดังขึ้น เสียงเพื่อนนับสิบคนรวมตัวกันด้วยความมีความสนุกสนาน เพราะไม่ได้เจอกันนาน แต่ในเวลาที่ผมกำลังมีความสุขนั้น กระเป๋ากางเกงข้างซ้ายผมสั่นขึ้น เกิดจากการโทรตามของแฟนของผม แน่นอนผมต้องตัดสายอยู่แล้ว ใครจะมาให้ขัดขวางความสุขของผมที่ได้เจอเพื่อนไม่ได้!

          ในขณะเดียวกัน แฟนของผมที่นั่งอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อในเวลา 20.00 น เวลาเดียวกันที่ผมถึงงานเลี้ยงกับเพื่อนพอดี เธอนั่งตบยุงพร้อมกับกดโทรศัพท์โทรหาผม เป็นเวลาที่ผมตัดสายเธอทิ้งตลอด เธอโทรมาบ่อยจนผมรู้สึกรำคาญ ผมจึงเอาโทรศัพท์ของผมทิ้งไว้ในรถ

          แล้วผมก็เดินไปสนุกกันเพื่อนต่อ แล้วพอผมสนุกไปสักพักเพื่อนของผมก็เดินมาบอกว่า แฟนของผมโทรมาถามว่าจะมารับอยู่ไหม ด้วยความที่ว่าผมไม่อยากผิดนัดกับเธอผมเลยบอกไปว่า จะไปรับตอน 23.00 น. เมื่อเวลาผ่านจังหวะที่ผมสนุกกับเพื่อนอยู่ผมได้เหลือบไปมองเห็นนาฬิกาว่านี่มัน 23.40 น. แล้ว ซึ่ง ผมบอกแฟนผมว่าจะไปรับ 23.00 น ผมรีบออกจากงานแล้วรีบออกไปรับเธอทันที ปรากฏว่าเธอกลับไปแล้ว ด้วยความกังวลผมเลยกดโทรหา เธอรับสายแล้วกับมีน้ำเสียงที่ปกติไม่ไม่มีความโกรธหรือน้อยใจใด ๆ แต่เธอกับพูดกับผมว่า เวลาแค่นี้ผมยังรักษารักไม่ได้ คงเห็นเป็นเรื่องเล็กสินะ แล้วสักวันหนึ่งจะเสียใจเพราะเห็นว่าเวลาไม่สำคัญ

          เช้าวันหนึ่งมีเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมา ผมที่กำลังหลับฝันอยู่ เสียงนาฬิกาที่ดังจนทำให้ผมตื่นจากฝัน ผมที่กำลังสลึมสลือแล้วเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกแต่ ด้วยความง่วงไปกดเลื่อนปลุก ด้วยความไม่สนใจทำให้เรานอนต่อ นาฬิกาได้เลื่อนปลุกไป 10 นาที ตอนนี้ผมได้ตื่น อาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปสอบปลายภาค ทันใดนั้นเพื่อนที่โทรตาม บอกผมว่าอีก 10 นาทีจะต้องเข้าห้องสอบ

          ผมจึงเลือกลงรถเมล์แล้วเปลี่ยนเป็นขึ้นแท็กซี่ แต่ด้วยเวลาที่เลื่อนไป 10 นาที ทำให้รถติดขึ้นมาแต่ผมกลับทำอะไรไม่ได้ แม้ผมจะใช้ทางเลือกเพิ่มจำนวนเงินค่าเดินทาง จนกระทั่งผมถึงมหาวิทยาลัย เพื่อนเข้าห้องสอบไปแล้ว ทำให้ขาดสอบและขาดคะแนนสอบไปเพราะการไม่ตื่นตามเวลา ทำผมคิดได้ว่าเวลาเลื่อนปลุก 10 นาทีก็ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปได้

          ถ้าย้อนเวลากลับไปไม่ได้ไปขออาจารย์สอบแทนแล้วกัน แต่อาจารย์ตอบกลับว่าไม่ได้ เพราะคนอื่นมาสอบตรงเวลากัน ผมได้แต่นั่งรอเพื่อนแล้วไปกินข้าวที่โรงอาหาร

          ผมสีหน้าไม่ยิ้มแย้มผมยิ้มหรือหัวเราะกับเพื่อนไม่ออก ระหว่างที่รับประทานข้าวอยู่โรงอาหาร ผมกลับไม่มีสมาธิในการกิน ไม่แม้แต่อยากจะกินด้วยซ้ำ เพราะเพื่อนหรือคนรอบตัวผมได้แต่พูดเรื่องสอบที่ฉันพลาดไป พวกแก! ทานกันเสร็จยัง! เข้าเรียนคาบต่อไปกัน อาจารย์กำลังสอนกลายเป็นว่าผมไม่มีสมาธิในการเรียนเลยด้วยซ้ำ ตาของผมจ้องที่กระดาษที่อาจารย์กำลังสอน แต่หูของผมกลับไม่ได้ฟังอาจารย์ ไม่แม้แต่จะได้ยิน กลับได้ยินเป็นเสียงคนรอบตัวพูดเรื่องการสอบที่ผมขาดไปแล้ว

          ผลสอบออกแล้ว! เราได้เอ! เสียงเพื่อนของผมที่คอลกันอยู่ตะโกนขึ้น แต่ผมกลับได้เอฟ กลายเป็นว่าผมต้องมานั่งแก้เอฟ ส่วนเพื่อนผมที่เหลือจบกันหมดแล้ว แค่เราขาดสอบแค่ 10 นาทีที่เรามาไม่ทัน ผมมีสตางค์ที่จะแก้เอฟ ได้ลงเรียนใหม่ แต่ผมกับไม่สามารถซื้อเวลาสอบที่ขาดไปได้ ทันใดนั้นเองคำพูดเธอคนนั้นก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวผม ไม่มีใครสามารถซื้อเวลาได้ แม้คุณจะมีเงินสักเท่าไหร่ หรือแม้กระทั่งจะมีของมีค่าอื่นมากมายก็ตาม

Writer

นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

Writer

นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

Writer

นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ